เล่ม 34
ตอนที่ 9 : วีรบุรุษแห่งอดีตกาล แปลโดย Acid กรด
วีดตัดสินใจใช้ประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อการแกะสลักของเขา
"นี่เพื่อภารกิจ ฉะนั้นฉันจะล้มเหลวไม่ได้ ประติมากรรมวินาศ! ทุกสิ่งเพิ่มความรู้"
เขาทำลายประติมากรรมตั้งแต่ต้นและนำไปใช้ในการออกล่า
การเพิ่มพูนความรู้ได้เพิ่มขีด
จำกัดสูงสุดของมานาและวีดก็ใช้ทักษะของเขาอย่างดุเดือด
"เพลงดาบประกายแสง! เพลิงกาฬ!" ร่างเดิมของวีดไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้แต่สิ่งนั้น
ได้เปลี่ยนไปเมื่อเขากลายเป็นโนดูล
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเปลี่ยนอาชีพเป็นนักรบทะเลทรายในเมืองทะเลทรายของลาออส
เวลานี้จึงมีความเป็นไปได้ในการใช้เวทย์เพลิงและธาตุไฟ
เขาจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมภายใต้ดวงอาทิตย์
"การเคลื่อนที่ไปๆมาๆจะทำให้เสียเวลามาก
เราจะกินไประหว่างการเดินทางเพื่อประหยัดเวลา"
เป็นเวลา 3 วันที่เข้าสู่ภารกิจการเติบโตของโนดูล เขาไม่สามารถหาเหยื่อที่เหมาะสม
รอบๆเมืองได้อีก ดังนั้นเขาต้องเคลื่อนที่ไกลออกไป
เพื่อประหยัดเวลาอันมีค่าในการเดินทางข้ามทะเลทราย, เขาให้ซอยูนซื้ออูฐจากสมาคมนักรบรับจ้าง
ให้เขา เธอทำงานมาเกือบ 1 ปี ดังนั้นรายได้ของเธอจึงค่อนข้างมาก
"มันก็ยังช้าไป เราต้องการอะไรสักอย่างที่รวดเร็วและไม่เหน็ดเหนื่อย"
เขาใช้น้ำและทรายในการแกะสลักประติมากรรมอูฐตัวหนึ่ง
"ประติมากรรมประทานชีพ!"
ทรายได้กลายเป็นเนื้อหนังและชีวิตหนึ่งได้ก่อกำเนิด
"มีฮ่า ฮ่า แฮ่!"
"ชื่อของเจ้าควรจะเป็น เจ้าอูฐแบคเทรี่ยน"(Bactrian Camel)
ชื่อคือ อูฐแบคเทรี่ยน! ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า 4 เมตร!
มันสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วในทะเลทราย, ด้วยขาที่ยาว
ทั้งมันจะไม่จมลงในทรายด้วยฝ่าเท้า
ที่แบนและกว้างของมัน เจ้าอูฐแบคเทรี่ยนยังมี
2 หนอกที่สามารถเก็บสารอาหารได้!
เลเวลของเจ้าอูฐคือ 483 และมันสามารถเดินทางได้ 10 วันโดยไม่หลับไม่นอน นอกจากนี้,
เจ้าอูฐเป็นประติมากรรมที่เขามอบชีวิตให้
"มันจะแข็งแกร่งขึ้นขณะที่เราต่อสู้ ยังไงก็ตาม, ตอนนี้ก็สำเร็จแล้วเรื่องที่ฉันให้ชีวิตกับมัน"
ภารกิจนี้ต้องออกล่าเป็นเวลา 22 ปี
ดังนั้นเขาสามารถเอาเลเวลกลับคืนมาได้อย่างง่ายดาย
วีดได้รับข้อมูลอันมีค่าจากสหายอย่างซอยูนที่อยู่ในเมืองเพื่อประหยัดเวลาและเขาอาจจะไม่สามารถพบเธอได้ซักระยะ
อย่างไรก็ตาม วีดตัดสินใจออกล่าร่วมกับนักรบแห่งทะทราย 10 นาย นักรบ-1, นักรบ-2, นักรบ-3,
นักรบ-4....วีดรู้สึกรำคาญในการสร้างพวกมันแต่เขาเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้
"ชีวิตข้าเป็นของท่าน ข้าสามารถควักหัวใจของข้าและมอบมันให้แก่ท่าน"
คุณสมบัติของนักรบทะเลทรายราวกับผู้เชื่อฟังนิรันดร์กาล
"ได้, ข้าจะให้พวกเจ้าอยู่กับข้า
แล้วก็ข้าไม่สามารถซื้อพวกเจ้าจากเมืองได้ ทั้งต้องการนักบวช 2 คน"
นักบวชชายทั้งคู่, เรียกว่า อัลเวรัน(Alverun)
และ อัลเวเรน(Alveren) แน่นอนว่า,พวกเขาเป็นอัลเวรอน
ตัวปลอม
"ขอพระเจ้าคุ้มครองท่านที่ได้ให้ชีวิตกับพวกเรา"
"นี่คือการอวยพร มันจะงดงามถ้าพวกเรามีเงินและเครื่องแต่งกาย"
หลังจากสร้างประติมากรรมสลักชีพสำหรับสถานการณ์ต่างๆ, เขาตัดสินใจออกล่าในดันเจี้ยน
"ข้าจะปกป้องนายท่าน"
"ข้าจะดึงความสนใจพวกมอนสเตอร์เพื่อให้นายท่านได้ต่อสู้"
เหล่านักรบทะเลทรายที่วีดได้ให้ชีวิตเข้าปกป้องเขาและช่วยเขาออกล่า
หลังจากผ่านไปหนึ่งดันเจี้ยน,
พวกนักรบทะเลทรายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
17 วันหลังจากเริ่มภารกิจ, เลเวลของเขาก็ทะลุผ่าน 440!
เขาเพียงมุ่งมั่นในการออกล่าร่วมกับเหล่าผู้อยู่ใต้อาณัติ ดังนั้นการเติบโตของเขาช่างน่าหวาดหวั่น
วีดรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นภายในร่างกายของเขาทุกครั้งที่เขาต่อสู้ เขาทดลองเวทย์ไฟดูโดยไม่มีอุปสรรคและแสดงความสามารถที่น่ากลัวในการสังหารเหล่าศัตรู!
วีดและเหล่า
ประติมากรรมสลักชีพได้ทำการกวาดล้างดันเจี้ยน
"นี่ไม่จริง...."
เขาเกลียดสิ่งนั้น เหล่าประติมากรรมสลักชีพและทุกๆสิ่ง
ที่เขาได้รับมากับร่างชองโนดูลจะหายไป
เมื่อจบภารกิจนี้
วีดได้รับผลของค่าประสบการณ์เป็น 2
เท่าเมื่อเข้าสู่ดันเจี้ยนใหม่แต่เขายังโลภมาก
'ฉันจะเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญเป็นอันดับแรก ถ้าฉันไม่ได้เพิ่มมันและค่าสถานะของฉันให้มากกว่านี้แล้ว
ในอนาคตฉันต้องหนักใจแน่ๆ
ฉันไม่สามารถเข้าไปดันเจี้ยนที่อันตรายได้ยกเว้นว่าเลเวลฉันจะสูงพอ'
เลเวลของพวกมอนสเตอร์เพิ่มขึ้นพร้อมกับการเติบโตของพวกนักรบทะเลทรายและนักบวช
เขาไม่ต้องการเสียเวลากับการค้นหาทางเข้าดันเจี้ยน
พื้นที่ออกล่าชั้นดี เลเวลสูง อาจพบเจอได้ยาก
นี่คือเหตุผลที่ความพยายามของซอยูนในเมืองเป็นสิ่งสำคัญ
"โอ้ว, จิตวิญญาณที่น่ากลัวแห่งทะเลทราย! นักรบทะเลทรายจะก้าวผ่านความยากลำบากทั้งหมดในลาออส!"
"มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเหล่านักรบทะเลทรายผู้ร้อนแรง"
การปฏิบัติเปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับชนเผ่าทะเลทราย
พวกเขาถือดาบโค้งขณะที่เฝ้าดูวีดและพวกนักรบทะเลทรายเดินทางผ่านเมือง
กฎของทะเลทราย
คือพวกเขาต้องให้ความเคารพพวกนักรบทะเลทรายที่แข็งแกร่ง!
ชนเผ่าทะเลทรายต่อสู้และสังหารกันเอง
พวกเขาราวกับโจรที่อยู่รอบๆเมือง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม
พวกชนเผ่าทะเลทรายถึงมีชื่อเสียงฉาวโฉ่มาก
วีดรู้สึกถูกยั่วยวนใจแต่เขาไม่ได้ลงมือโจมตีพวกเผ่าทะเลทราย
'พวกเขาทุกคนควบอูฐอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะจับพวกเขา'
วีดกำลังขี่เจ้าอูฐแบคเทรี่ยนแต่พวกลูกน้องของเขาขี่อูฐธรรมดา
ถ้าพวกชนเผ่าทะเลทรายหลบหนี
ระหว่างการต่อสู้แล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะติดตามและไล่ล่าพวกมันท่ามกลางทะเลทราย
ในความเป็นจริงแล้ว, พวกชนเผ่าทะเลทรายจำนวนมากเป็นพวกยากจนข้นแค้น
พวกเขามีเพียง
ดาบเล่มนึงและแกะอีกสองสามตัว
นี่คือสาเหตุที่เผ่าทะเลทรายละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเอง
ทุกครั้งที่พวกเขาพิชิตดันเจี้ยนสำเร็จ,
วีดจะไม่เลิกการออกล่าแต่จะย้ายไปอีกที่หนึ่ง
"ข้าหวังจริงๆที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ในทะเลทราย"
"ทะเลทรายช่างกว้างใหญ่"
ในเวลาไม่นาน, เขาถูกเรียกว่าราชา
วีดและเหล่าทหารของเขาเลเวลเกินกว่า500
เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งตั้งแต่เขาได้รับภารกิจ
22ปี ช่างเป็นเวลาที่นานมาก
'ฉันสงสัยจริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจบภารกิจลง ไม่นะ, ฉันไม่มีเวลามาคิดเรื่องไร้สาระนี่
ฉันต้องเอาชนะพวกมอนสเตอร์ให้เร็ว'
เขาใช้เวลากับการต่อสู้ในทะเลทรายดังนั้นเขาจึงได้รับความสำเร็จมากมาย
*******************************8
ผู้เล่นในแคว้นภายใต้การปกครองของบอร์เกส(the southern dukedom of
Borghes) เมเยอร์(Meyer),
เคนเทน เดรย์ต้าร์(Kenten
Dreita), เอนรู(Enru) และเฟรม(Frame)!
4 คนนี้กำลังออกล่าเป็นปาร์ตี้ทั้งๆที่เกิดสงครามในทวีปกลาง
"เวลานี้พวกเราจะไปทางไหนดี?"
"พวกเราจะมุ่งลงใต้กันไหม?"
"ทางใต้เหรอ?"
"ช่าย พวกเราควรจะไปล่าที่ดันเจี้ยนไอเบลลิน่า(the Ibellina
Dungeon) แล้วเอาไปขายในเมืองทะเลทรายใกล้ๆกัน"
"พวกเราจะว่าไหม?, ฉันอยากจะซื้อหนังสือเวทย์สักเล่ม"
พวกเขาไม่ได้เป็นพ่อค้าแต่กระเป๋าของพวกเขาเต็มไปด้วยสิ่งจำเป็นเพื่อขาย
มันไม่ได้กำไรมากมายนัก
แต่นี่เป็นหนทางเพื่อให้ได้เงินสำหรับพวกผู้เล่นที่เลเวลมากกว่า 200
"ไปกันเลย!"
พวกเขาซื้อเสบียงเป็นอันดับแรกก่อนที่จะตรงไปยังบริเวณบอร์เกส(Borghes)ทางตอนใต้
มันเป็นการเดินทางที่สนุกสนานขณะที่พวกเขาผ่านท้องทุ่งและปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำ
มีกิจกรรมเล็กน้อยในดันเจี้ยน ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางสู่แดนใต้ร่วมกับผู้เล่นอื่นอีก
250 คน
ผู้เล่นเป็นกลุ่มหมายความว่าพวกมอสเตอร์จะไม่โจมตีแม้ว่าพวกเขาจะเป็นพวกผู้เล่นเลเวลต่ำ
"อะไร..นะ, นี่มันเมืองประหลาดหนิ?"
"พวกเรามาผิดทางใช่ไหมเนี่ย?"
"ม่ายอะ ฉันเคยมาที่นี่สองสามครั้ง...ใช่แน่ๆ
มีเมืองนึงในทะเลทรายเรียกว่าโพรบูเลน(Probullen)
มีพวกป้ายบอกทางเกี่ยวกับมันนี่"
"ฉันเห็นอาคารสองสามหลังครบเลย"
"เป็นไปไม่ได้! มันคือโพลบูเลนจริงๆ
มันกลายเป็นเมืองใหญ่ขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
พวกผู้เล่นรู้สึกสับสนเมื่อเห็นภาพของเมืองที่พัฒนาขึ้นในทะเลทรายแดนใต้
เมื่อไม่นานมานี้,
มีอาคารสีขาวเก่าๆสักโหลนึงสร้างอยู่ในทะเลทราย
ทรายปกคลุมพวกมันเป็นส่วนใหญ่
และแม้กระทั่งพ่อค้าเล็กๆยังไม่มาปักหลักค้าขายที่นี่
แต่เวลานี้มันเป็นมหานครด้วยสิ่งก่อสร้างนับพัน
กำแพงหนาและคูเมืองล้อมรอบพร้อมด้วย
เครื่องอำนวยความสะดวกในการผันน้ำมากมายจากทะเลสาบใกล้ๆ
แม้กระทั่งพวกพ่อค้าที่ปรกติเดินทาง
ท่องไปในทะเลทรายยังประหลาดใจ!
"ข้าเพิ่งจะมาที่นี่เมื่อสองวันก่อน"
"จริงๆเหรอ? มันไม่เหมือนอย่างนี้เมื่อคราวก่อนใช่ไหม?"
"ไม่เลย เวทมนตร์อะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นได้ภายใน 2 วันกัน?"
"พวกเราควรจะไปที่นั่นแล้วตรวจสอบดูดีไหม?"
"ผมจะเข้าไปตรวจสอบ เดิมทีผมกำลังจะผ่านไป
แต่เวลานี้ผมไม่สามารถผ่านไปเฉยๆได้"
พวกนักเล่นที่อยากรู้อยากเห็นไปที่เมืองอย่างระมัดระวัง
พวกชนเผ่านักรบทะเลทรายกำลังปกป้องโพรบูเลน
เอนรูกลืนน้ำลายแล้วถามออกไป
"สวัสดี, ที่นี่โพลบูเลนใช่ไหม?"
"ถูกต้อง"
"ไม่ใช่หมู่บ้านเล็กๆเมื่อสองสามวันก่อนหรอกหรือ?"
"ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร"
"น้ำขาดแคลนดังนั้นทะเลทรายถึงเป็นพื้นที่ที่ยากจะอาศัยอยู่ได้"
"น่ารำคาญจริง แกไม่เห็นสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองที่เราภาคภูมิใจรึไง?"
ผู้เฝ้าประตูเริ่มโกรธ แต่พวกเขาไม่ได้ห้ามการเข้าเมือง
พวกผู้เล่นเปล่งเสียงชื่นชมทันทีที่พวกเขาได้เข้าไปในเมือง
"ว๊าว! น่าประทับใจจริงๆ!"
"ของจริงนี่!"
ร้านค้าจำหน่าย ผ้าไหมเนื้อละเอียด, เหล็ก, งาช้าง และเครื่องประดับ อุปกรณ์ยากที่จะพบเจอ
อย่างดาบโค้งเลเวลเกินกว่า 400 ก็ปรากฏให้เห็น ยิ่งไปกว่านั้น, เมืองนี้มีสมาคมนักรบรับจ้างที่สามารถว่าจ้าง
นักรบทะเลทรายผู้แข็งแกร่งได้
นักรบทะเลทรายเป็นพวกที่แข็งแกร่งมากและราคาว่าจ้างต่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับความนิยมอย่างมาก
เพื่อที่จะว่าจ้างพวกนักรบทะเลทราย,
พวกเขาต้องไปยังมหานครในทะเลทราย ดังนั้นโพรบูเลนจึงยินดีต้อนรับ
"ด..เดี๋ยวก่อน ทำไมเลเวลของพวกนักรบรับจ้างมันสูงนัก?"
"ราคาเท่าไรเนี่ย?"
"ขั้นต่ำ 390 คนอื่นๆ 420"
"ราคาว่าจ้างสัก 400 เหรียญทองต่อวันได้ไหม?"
"ไม่ใช่! นั่นมันเลเวล"
"เฮ้ย!"
พ่อค้าวิ่งผ่านถนนที่ได้แบ่งเป็นส่วนร้านค้ากำลังขายสินค้า
ราคาตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก
"มะกอกเหรอ? นี่มันเป็นของธรรมดาๆในเมืองของพวกเรา
ข้าไม่สนใจการซื้อของนำเข้าหรอก
นี่ไม่ได้เป็นความลับแต่ถ้าพวกเจ้าต้องการขายอะไรสักอย่างให้ได้ราคาแพงๆ
งั้นนำของอย่างพวกผลไม้แห้ง
และปลาเค็มมา"
"ปลาเค็มขายได้ราคาดีเหรอครับ?"
"ทุกวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นมันรับประกันไม่ได้หรอก
ใครมาก่อนก็ได้ราคาดีไป"
ในอดีต, อาหารในทะเลทรายสามารถขายได้ราคาดีโดยไม่มีเงื่อนไข
พวกเขาเป็นคนจน ดังนั้นพวกเขา
จึงไม่สามารถซื้อจำนวนมากๆได้ แต่เวลานี้ตลาดได้รับการพัฒนาสูงมาก
ดังนั้นพวกสินค้าจึงได้ถูกจัดจำหน่าย
จำนวนประชากรของเมืองเติบโตอย่างรวดเร็วจากการที่สินค้าเพิ่มจำนวนขึ้น
ไอเทมที่แตกต่างกันเป็น
ร้อยๆชนิดถูกจำหน่าย
"โอ้ว..พระเจ้า! มะนาว, ใบโหระพา, ยี่หร่า, ผักชีฝรั่ง, พริกไทย,
ขึ้นฉ่าย...มีเครื่องเทศต่างๆมากมายเป็นตันๆ"
"มีแม้กระทั่งหญ้าฝรั่นที่ยากจะได้มา!"
"เจ้ากำลังมองหาสิ่งใดอยู่รึ? พวกพ่อค้าในเมือง...ถ้าเจ้าเจอบางอย่างที่เจ้าต้องการแล้ว
พวกเราให้ราคาถูกกว่า"
"จริงงะ?"
"จริง และไม่ต้องไปที่เมืองเก่าของลาออส(Laos)ในแดนใต้"
"ทำไมหรอ?"
พ่อค้าคนหนึ่งในโพรบูเลนกล่าวถึงชื่อ ลาออส กับนักผจญภัย
"อุตสาหกรรมสีย้อมมีการพัฒนาไปมากและเป็นสถานที่ที่มั่งคั่ง
ดังนั้นพวกเขาจึงมักหยามเหยียดพวกเรา"
"ห๊า!"
โพรบูเลนไม่ใช่เมืองเดียวในทะเลทรายที่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตลึง
เมืองบางแห่งมีฐานะร่ำรวยมาก
จนสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนเป็นเพียงศูนย์การค้าขาย
'โป๊ะเชะเลย!"
'มันช่างสับสนอลหม่านโดยสิ้นเชิง แล้วฉันสามารถซื้อขายอะไรดีละเนี่ย?'
เหล่านักผจญภัยและนักรบต้องการพื้นที่ออกล่าที่ดีในพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการพัฒนา
พวกพ่อค้า
ในเมืองใหญ่ก็แข่งขันกันเอง
พวกพ่อค้าต้องประสบกับความสุขและความรวดร้าวเมื่อพยายามซื้อพวกผลิตภัณฑ์พิเศษ
ตอนนี้แดนเหนือมีการค้าขายมากมายและกำลังสร้างความมั่งคั่ง
"พวกเรายังจะไปดันเจี้ยนไอเบลลิน่าอีกไหม?"
"ไม่แล้ว! ไปสำรวจเมืองนี้ให้มากขึ้นดีกว่า"
"ฉันเห็นด้วย! ไม่ต้องรีบไปพื้นที่ออกล่าหรอก"
เมเยอร์, เคนเทน เดรย์ต้าร์, เอนรู
และเฟรมเลื่อนการออกล่าในดันเจี้ยนและท่องเที่ยวไปในเมือง
พวกเขาพยายามพูดคุยกับพวกชาวเมืองเพื่อรับภารกิจ
พวกเขาพยายามพูดคุยกับยายที่กำลังนั่งขายเครื่องประดับ
อยู่ข้างทางเดิน
"โพลบูเลนมีขนาดใหญ่โตขึ้นได้ยังไง? ฮ่า ฮ่า ฮ่า,
พวกเจ้าไม่รู้ความจริงอันโด่งดังเช่นนี้
ต้องขอบคุณจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทราย,
ท่านวีด"
"ทะ-ท่าน-วีด!"
เอนรูและเฟรมรู้สึกประหลาดใจ พวกเขายังเยาว์แต่เป็นแฟนตัวยงของวีด!
พูดคุยเกี่ยวกับวีดบ่อยๆเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเมื่อพวกเขาได้เม้าส์มอยกันกับเพื่อนๆ
พวกเขาเริ่มต้นขึ้นในแดนใต้และรู้สึกเสียใจที่กิจกรรมของวีดอยู่ไกลถึงแดนเหนือ
เมื่อเลเวลของพวกเขาสูงขึ้นนิดหน่อย,
พวกเขาใฝ่ฝันว่าจะมุ่งหน้าไปแดนเหนือ แต่พวกเขา
ก็ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับวีดในเมืองทะเลทรายโพลบูเลน!
"ชู่ว.ว! อย่าได้ซี้ซั้วเอ่ยนามของมหาจักรพรรดิ
มันหยาบคายและนักรบทะเลทรายจะไม่ให้อภัยเจ้า
ถ้าพวกเขาได้ยินเข้า
ความสำเร็จของเขาเป็นสิ่งที่พวกนักรบทะเลทรายไม่กล้าท้าทาย จำไว้"
"ค-ครับ"
"ผมอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับท่านอีก!"
เอนรู และ เฟรม เป็นแฟนคับที่หลงใหลวีดดังนั้นพวกเขาได้แสดงความสนใจ
"ท่านวีดเป็นบุคคลที่มีพลังเพียงพอที่จะแผดเผาทั่วทั้งทะเลทราย
เขาได้สร้างปาฏิหาริย์อันเหลือเชื่อ
ในทะเลทราย พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับทะเลทรายสีทองหรือไม่เล่า?"
"ไม่ครับ!"
"การพิชิตทะเลทรายสีทองนำไปสู่การค้นพบเมืองทะเลทรายเมตาเปีย(Metapeia)"
"โอ้ว จริงหรือนี่?"
"จริงแท้!"
เมเยอร์ที่กำลังฟังอยู่ไม่อยากเชื่อเรื่องนี้
วีดได้กลายเป็นตำนานที่มีชีวิตในทะเลทราย
ไม่มีเรื่องพวกนี้เมื่อพวกเขามาเป็นครั้งหลังสุดและเวลานี้มีสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน
มันยังรู้สึกแปลกๆที่ยายกำลังเล่าเกี่ยวกับวีดอย่างกับเขามีชีวิดยาวนานมาแล้ว
"พวกเจ้าสนใจเรื่องการผจญภัยหรือ?"
"ครับ!"
"งั้นพวกเจ้าควรจะขี่อูฐไปทางทิศใต้สักหนึ่งวัน พวกเจ้าสามารถพบหุบผาขนาดใหญ่
วีดได้สร้าง
สถานที่ของเขาในทะเลทรายราวกับของกำนัล
ไปที่นั่นแล้วตรวจดู และถ้าพวกเจ้าพบชายคนหนึ่งแถวๆนั้น
จงพูดคุยถ้าเขาเป็นลูกชายของข้า
วินเซนท์(Vincent) เจ้าเด็กคนนั้นไปที่นั่นเพื่อพบผู้หญิงคนหนึ่งแล้วไม่เคยกลับมา"
ขณะเดียวกัน, พวกผู้เล่นพ่อค้าสนิทสนมร่วมกันกับเจ้าของร้านค้า
มันเป็นเรื่องจำเป็น
สำหรับพวกพ่อค้าที่มุ่งมั่นค้นหาสิ่งที่กำลังนิยมล่าสุดในเมืองเพื่อสั่งสินค้ามาจำหน่าย
"ท่านวีดเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทราย"
"เขาสร้างอาณาจักรด้วยไหม?"
"ท่านสามารถสร้างพายุทรายในทะเลทรายดังนั้นไม่มีใครกล้าท้าทายพระองค์ท่าน"
"สร้างพายุทรายหรือ?"
"ท่านไม่จำเป็นต้องใช้ดาบ"
หนึ่งในเหตุผลใหญ่สุดว่าทำไมพ่อค้าจึงลังเลที่จะเข้าสู่ทะเลทรายก็คือพายุทราย
แม้กระทั่งลูกเล็กๆลูกหนึ่งอาจจะสูงหลายร้อยเมตรและไม่สามารถรับมือได้
พวกเขาอาจได้รับความสูญเสีย
อย่างใหญ่หลวงเนื่องจากพายุทราย
แม้แต่บาร์ดเรย์ก็ไม่สามารถแสดงเรื่องมหัศจรรย์เช่นนั้นได้
เรื่องนี้ได้บอกเล่าว่าวีดแข็งแกร่งเช่นไร
'เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังพูดเกี่ยวกับวีดคนอื่น?'
'เรื่องราวอาจจะผิดไปแต่ฉันไม่รู้สึกเหมือนพวกเขา'
เจ้าของศูนย์การค้าบอกเล่าเรื่องราวอื่นอีก
"อาณานิคมบูคุน(Bukun)ที่อยู่ใกล้ๆนี่รึ? ท่านวีดบดขยี้มัน ยักษ์ใหญ่ในภูเขารึ? ท่านวีดนำลูกน้องของเขา
ไปที่นั่นและกวาดล้างพวกมันจนสิ้น"
"เอ่อ?"
พวกเขาต้องตะลึงเพราะว่าค่าสถานะพวกนั้นอยู่ในเลเวลอย่างต่ำ 600 และเจ้าของ
ของร้านค้าโบราณแอบๆกล่าว
"เจ้าตรงนั้นน่ะ, อยากเห็นไอเทมล้ำค่าจริงๆที่สินค้าทั่วไปในร้านไม่อาจเทียบได้ไหมล่ะ?"
"ผมอยากจะเห็นมันครับ"
"ปรกติข้าไม่แสดงสิ่งนี้ให้พวกพ่อค้าที่เพิ่งมาเยือนที่นี่ดูหรอกนะ
คอยดูอย่างระมัดระวัง มันเป็นสมบัติ
มีค่าที่ไม่สามารถซื้อขายได้
ตามข้ามา"
พวกไอเทมในร้านแพงเกินไปสำหรับพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงต้องการชมสมบัติที่มีค่าจริงๆ
เจ้าของร้านแนะนำให้พวกเขาไปที่ด้านหลังของอาคาร
มีห้องที่แยกต่างหากที่มียามคอยดูแลป้องกัน
และได้ดึงเอากล่องใบหนึ่งที่ดูเหมือนจะบรรจุอัญมณีหายาก
'ดูบรรยากาศนี้และขนาดของกล่อง, ไอเทมอาจจะเป็น...ว้า,
ใจเย็นไว้'
'จะต้องมีไอเทมที่มีมูลค่านับพันเหรียญทองในกล่องนั่น
เครื่องประดับมีค่ามากกว่า 1 ล้านเหรียญทองอาจปรากฏขึ้น'
'มันราคาสูงมากดังนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับการซื้อมัน อย่างไรก็ตาม, ฉันสามารถเก็บเงินแล้วตั้งเป้าหมายเพื่อมัน
ถ้าฉันสามารถซื้อมันได้แล้วชื่อเสียงของฉันจะต้องเป็นรู้จักกันข้ามทวีป'
เจ้าของร้านพูดด้วยเสียงหนักแน่น
"พวกเจ้าจะรู้สึกยำเกรงเมื่อพวกเจ้าได้เห็นสิ่งนี้
มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดที่มาจากทะเลทราย”
"ครับ!"
พวกผู้เล่นจับจ้องขณะที่เจ้าของร้านเปิดกล่องอย่างช้าๆ
'นะ...นี่หรอ?"
มันเป็นสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยด้วย!
'รูปแกะสลักกระต่าย'
รูปแกะสลักกระต่ายที่วีดผลิตเป็นจำนวนมากในป้อมปราการเซราบอร์กและขาย 2 เหรียญเงิน
สีของมันซีดจางเนื่องจากการผ่านมานานปีแต่ยามทั้งสองด้านคุกเข่าลงให้ความเคารพอย่างสูงสุด
ผู้เล่นพ่อค้าก็คุกเข่าลงด้วยเนื่องจากบรรยากาศ
******************************
นักรบทะเลทรายของวีดเพิ่มขึ้นถึง 280 คน
"สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เป้าหมาย มันค่อนข้างน่ารำคาญ"
เหล่าบริวารของเขาไม่ใช่ประติมากรรมสลักชีพทั้งหมด
พวกนักรบทะเลทรายผู้กล้าหาญวิ่งเท้าเปล่า
เข้าไปและคุกเข่าหมอบคำนับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น, พวกประติมากรรมสลักชีพได้แต่งงานและมีเด็กๆ
พวกสตรีไม่ได้อ่อนแอเนื่องจากธรรมชาติของทะเลทราย
เด็กๆพวกนั้นเติบโตและเรียนรู้การใช้ดาบจากพวกวัยรุ่น
"จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทราย! ข้าพระองค์มิได้แข็งแกร่งนัก
เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ให้ข้าฯ
ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา "
"ข้าฯใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของข้าฯมาที่นี่ ทรงโปรดรับข้าพระองค์ด้วย
ถ้าข้าฯบกพร่องแล้ว
ทรงโปรดบั่นคอของข้าฯได้!"
"วันแห่งความรุ่งโรจน์ของนักรบทะเลทรายนั้นไม่มีเหลืออีกแล้ว
ด้วยหัวใจและแขนขาของข้าฯ
จะต่อสู้เพื่อพระองค์"
"เช่นเดียวกับบิดาของข้าฯ, ข้าฯมาเพื่อรับใช้สุดยอดนักรบ
ข้าฯยังเยาว์แต่ข้าฯรู้จักการต่อสู้
ทรงโปรดรับข้าพระองค์ด้วย!"
วีดและประติมากรรมสลักชีพของเขาได้สร้างความสำเร็จและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ทั่วทั้งทะเลทราย
พวกนักรบทะเลทรายวิ่งเท้าเปล่ากรูกันมาราวกับดาราเกาหลีได้มาถึงที่สนามบิน
"พวกเราสามารถไปยังพื้นที่ต่างๆในทะเลทรายโดยมีคนเหล่านี้ติดตาม"
วีดยอมรับพวกนักรบทะเลทรายเข้าในกลุ่มของเขา
นักรบทะเลทรายมีข้อมูลข่าวสารมากมาย
เกี่ยวกับทะเลทรายดังนั้นจึงสะดวกง่ายดายในการเลือกสถานที่เป้าหมาย
พวกเขาถูกใช้เป็นไกด์นำทางและเด็กรับใช้
"พวกมอนสเตอร์กำลังอาละวาดใกล้พื้นที่ของเผ่าข้า"
"พวกมันแข็งแกร่งนักหรือ?"
"ใช่ครับ
แต่ถ้านักรบที่แข็งแกร่งเช่นพวกท่านกลุ่มนี้แล้วก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย
พวกเราสามารถเอาชนะต่ออุปสรรคต่างๆ...."
"นั่นมัน!"
วีดไม่ปฏิเสธคำขอใดๆและรับฟังเรื่องราวข่าวสารทั้งหมดจากพวกนักรบ
"มีเมืองลี้ลับ มันเหมือนภาพลวงตาในทะเลทราย ในอดีตที่ผ่านมา, ข้าได้ยินข่าวลือว่าที่นั่นสามารถเพิ่ม
พื้นที่ปกครองได้อย่างมาก"
"พวกอาวุธละ?"
"มันยังกล่าวด้วยว่าสมบัติในตำนานได้หลับใหลอยู่ที่นั่น แต่สิ่งเดียวคือหลุมฝังศพ"
"แล้วมันเป็นพื้นที่อันตรายด้วยศัตรูที่ทรงพลังไหม?"
"ถูกต้อง! มันเป็นสถานที่ที่น่ากลัว"
"งั้นไปกันเลย!"
วีดและเหล่าบริวารของเขาเร่งรีบสู่ทะเลทราย หน่วยนักรบทะเลทรายติดตามวีดที่กำลังขี่เจ้าอูฐแบกเทรี่ยน!
และแล้วพวกเขาได้มาถึงสุสานด้วยประสิทธิภาพและความรวดเร็ว
"สู้! พวกคนที่บาดเจ็บควรดูแลตัวเองระหว่างนี้คนอื่นๆเคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ"
พวกนักรบทะเลทรายร่วมมือกันออกล่าด้วยความรวดเร็วมากเนื่องจากบารมีของวีด
เมืองลี้ลับแห่งเมตาเปียเต็มไปด้วยมอนสเตอร์เผ่าพันธุ์ปีศาจในตำนาน
เป็นเวลา 57 วัน ตั้งแต่ภารกิจ
ได้เริ่มขึ้นและเขาบรรลุเลเวล 640!
วีดแค่โบกมือ เหล่านักรบทะเลทรายจะมารวมตัวกันราวกับก้อนเมฆ
ในความเป็นจริง,
เวลานี้เขามีมานาเหลือเฟือในการอัญเชิญ เหล็ก-1 และเหล็ก-5 แต่ไม่ต้องใช้พวกมันอีกต่อไป
เขาค่อนข้างเข้ากันได้ดีกับเหล่าบริวารที่ยอมพลีชีพให้ง่ายๆ
"อย่าหยุดเมื่อพวกศัตรูวิ่งเข้ามาและต่อสู้จนกว่าจะยุติ"
"เป็นเกียรติยิ่ง, ราชาผู้ยิ่งใหญ่!"
นอกเหนือจากดันเจี้ยน, ไม่มีพวกมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมากมายนักในทะเลทราย
เขาจำเป็นต้องใส่ใจกับ
รายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในภารกิจ
"มหาจักรพรรดิ, โปรดสั่งการ"
"พวกมอนสเตอร์แข็งแกร่งมาก โจมตีพวกมันซึ่งๆหน้าเลย!"
พวกนักรบทะเลทรายพุ่งตัวเองเข้าสู่การต่อสู้
ขณะที่วีดและเหล่าประติมากรรมสลักชีพของเขายืนอยู่ด้านหลัง
นอกจากนี้,มีนักบวช 12 คนที่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ทุกเมื่อ
หากขนาดของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มันก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะท่องไปในทะเลทราย
-
ผู้กล้าแห่งทะเลทรายได้แสดงความโหดเหี้ยมและอำมหิต
-
มหาจักรพรรดิที่มีกลิ่นเลือดคละคลุ้งรอบตัวเขา
-
มันเป็นความโหดร้ายที่ไม่สงวนชีวิตของเหล่าบริวารเพื่อเอาชนะทุกการท้าทาย
วีดสั่งการเหล่าบริวารของเขาอย่างไร้ความปราณีและมีประสิทธิภาพ
บารมีและจิตวิญญาณการต่อสู้ก็เติบโตขึ้น
มันอาจดูโหดร้ายแต่ที่นี่คือทะเลทราย
พวกเขาทำตามคำสั่งอย่างเข้มแข็ง! ความอยู่รอดและความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญ
ที่สุดในทะเลทราย ดังนั้นพวกเขาจึงตื่นเต้นกับชัยชนะมากขึ้นในแต่ละครั้ง
ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆเช่นเดียวกับการให้เกียรติแก่กันตั้งแต่แรก
ตริ๊ง!
-คุณมีความเชี่ยวชาญศิลปะการใช้ดาบ
|
ดาบได้ถูกใช้ฟาดฟันมอนสเตอร์มากมายและในเวลานี้คุณได้เข้าใจมันโดยสมบูรณ์
|
คุณได้ไปถึงตำแหน่งที่คุณกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบและไม่มีที่ใดให้ก้าวต่อไปอีก
|
ค่าการทำลายพื้นฐานของดาบจะเพิ่มขึ้น
500%
|
ทักษะดาบสามารถยกเลิกได้ทุกเวลาและมานาสามารถคืนกลับมา
|
ขอบเขตการโจมตีขยายออก
|
ทักษะการโจมตีสามารถเรียนรู้ได้โดยง่ายและทักษะความชำนาญจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
|
จะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
เมื่อป้องกันการโจมตีด้วยดาบ
|
สามารถเรียนรู้ทักษะดาบของศัตรู
|
ทุกสถานะเพิ่มขึ้น
40
|
สามารถรับภารกิจต่อสู้โดยไร้ข้อจำกัด
|
จะดึงความสามารถแฝงของอาวุธออกมาและค่าการทำลายเดิมเพิ่มเป็นสองเท่า
|
ความทนทานของดาบจะไม่ลดลงบ่อยและมันจะไม่แตกหัก
|
- ได้รับสมญานาม 'ปรมาจารย์แห่งดาบ'
|
คุณสามารถเข้าพบกษัตริย์โดยไม่ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงหรือความสัมพันธ์แต่ก่อน
|
เหล่าอัศวินและนักรบจะเข้ามาท้าทายท่าน
|
ประสิทธิผลของจิตวิญญาณการต่อสู้และคุณสมบัติพิเศษเฉพาะจะเพิ่มขึ้นและ
จะไม่ได้รับผลกระทบจากศัตรูในเลเวลที่ต่ำกว่า
|
ปรมาจารย์นักดาบ!
เขาทำมันสำเร็จผ่านภารกิจของโนดูลหากแต่เขาเป็นผู้เล่นคนแรกบนทวีป
"มันพิ่มสูงขึ้นจากระดับขั้นสูงเลเวล9และในที่สุดฉันก็เข้าใจมัน"
ความปีติของวีดมีเพียงเล็กน้อยมาก
พลังของปรมาจารย์ดาบไม่ใช่สิ่งที่ดีเยี่ยม
น่าแปลก,
ศิลปะการใช้ดาบดั้งเดิมของเขายังอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 4 จากนั้น, เขาก็ได้กลายเป็นปรมาจารย์การตั้งรับ
และเวทมนตร์
ทั้งเชี่ยวชาญทักษะการโจมตีนับไม่ถ้วน
เวทย์ไฟและเวทย์ธาตุก็บรรลุถึงระดับสูงด้วย
พลังของเวทย์ไฟและธาตุไฟในทะเลทรายเป็นสิ่งที่
ยิ่งใหญ่มาก
เขาไม่รู้สึกต้องการสรรค์สร้างสิ่งอื่นนอกเหนือจากธาตุไฟพื้นฐานอย่างเช่นซาลามานเดอร์
ร่างปัจจุบันของวีดสามารถใช้ความสามารถพิเศษของนักรบทะเลทราย, ซึ่งได้รับการสนับสนุน
จากประติมากรรมวินาศและพลังชีวิตและมานาที่สูง
แน่นอน,
เขาใช้ค่าสถานะทางศิลป์เพื่อปรับเปลี่ยนระหว่าง
พละกำลังหรือความว่องไวตามความจำเป็น
"ขอบพระทัยฝ่าบาท
พระองค์เป็นผู้มีพระคุณที่ได้ปกปักรักษาเผ่าของพวกข้าพระองค์"
"ข้าเคยได้ยินว่าตะวันดวงใหม่กำลังฉายแสงขึ้นในทะเลทราย, ขอบพระทัยฝ่าบาท"
100 วันได้ผ่านไปในวันเดียว วีดได้ออกล่า, จัดหาเสบียงจากร้านค้า,
ขายประติมากรรมของเขา
และใช้การแกะสลักเมฆา(Cloud
Sculpting) สิ่งนี้ก่อให้เกิดเครื่องเทศ, ทะเลสาบ
และแม่น้ำ ภายในสองสามปี
ให้หลัง เมืองทั้งหลายจะกลายเป็นเมืองใหญ่
กระดานข่าวเต็มไปด้วยความโกลาหลจากผู้เล่นในทะเลทรายแดนใต้
และแคว้นในปกครอง
-
การกระทำของเทพสงครามวีดในทะเลทราย
-
มันเป็นรางวัลใหญ่จริงๆ!
-
หลายเมืองมีชื่อเสียงหลังจากวีดได้กระโจนเข้าใส่
-
ภูมิประเทศได้เปลี่ยนไป เหตุผลหรือ? ผมไม่รู้
มันคือการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มรูปแบบ
อะไรคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับวีด?
-
ผู้คนในแค้วนปกครองกล่าวขานกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ
-
เวทย์มนต์ใดกันที่สามารถสร้างเมืองได้แค่ข้ามคืน? ผมไม่สามารถเชื่อได้กระทั่งได้เห็นมันด้วยตัวเอง
-
เพื่อนของผมหลับไปที่เนินทรายและตื่นขึ้นที่ใจกลางเมือง
ครั้งแรกผมคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหก
และไม่เชื่อเพื่อนของผม นี่มันเรื่องสำหรับละครทีวี
-
มันแปลกๆเล็กน้อย ประวัติของวีดได้ถูกบันทึกในหนังสือประวัติศาสตร์ราวกับเขาเป็นคนสูงวัย
เขาได้เป็นผู้กล้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทะเลทราย
-
ผมก็เหมือนกัน ผู้คนพูดต่อๆกันเกี่ยวกับวีดราวกับเขามีชีวิตเมื่อร้อยปีก่อน
-
โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!
-
โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!
-
โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!
-......
-
ห้ามกระหน่ำโพส ความเห็นของพวกโจ๊กหญ้ามีมากกว่า 1,000 คอมเมนท์!
ผลการกระทำของวีดถูกเผยแพร่กระจายเป็นเรื่องสามัญ แต่ภารกิจนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้เผยแพร่
เขาแค่เพียงมุ่งมั่นในการเป็นผู้ที่แข็งแก่งขึ้นในทะเลทราย
ซอยูนอยู่อย่างปลอดภัยในเมืองและทำงานที่สมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดง(the
Red Sun Mercenary Guild) งานหลักที่เธอทำคือการได้รับมอบหมายจากพวกพ่อค้าและตัดสินใจว่าควรรับภารกิจใด
-
จับเจ้าละมั่งขนขาวในทะเลทรายเคนเซร่า(Kensera)
ทะเลทรายเคนเซร่าเต็มไปด้วยคำเล่าลือเกี่ยวกับละมั่งขนขาวที่
มักปรากฏขึ้นที่นั่น
จับเจ้าละมั่งขนขาวเพื่อให้ฉันสามารถส่งเป็นของขวัญให้พวกขุนนาง
ระดับความยาก
: D
ลูกค้าชำระเงิน
: 950 เหรียญทอง
|
-
ค้นหาแร๊คคูนที่หนี
เจ้าแร๊คคูนได้หนีจากคอกของพวกเรา
จับมันก่อนที่มันจะหนีไป
มันไม่ใช่ภารกิจยากเย็นแต่ขุนนางแห่งตระกูลเลสโบ(the
Lesbo nobles)
จะมีความไว้วางใจในตัวคุณมากขึ้น
ระดับความยาก
: F
ลูกค้าชำระเงิน
: 35 เหรียญทอง
|
-
คุ้มกันพ่อค้าม้าผ่านพื้นที่มาลด์(Mald)
มีข่าวลือว่าพวกโจรกำลังปรากฏตัวแถบพื้นที่มาลด์
พวกพ่อค้าได้ร้องขอสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงให้ความคุ้มครองพวกเขาผ่านที่นั่น
เงินจำนวนมหาศาลจะถูกมอบให้ถ้าพวกเขาได้รับความคุ้มครองผ่านโดยปลอดภัย
แต่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพวกโจร
ระดับความยาก
: C
ลูกค้าชำระเงิน
: 1,300 เหรียญทอง
|
-
สำรวจพื้นที่เออร์กัน(Urkan)
สมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงต้องส่งหน่วยสอดแนมเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่เออร์กัน
ส่งนักรบรับจ้างที่ว่องไวเหมาะสม
ระดับความยาก
: F
|
-
ไม่ให้มีการปล้นสะดม
กลุ่มของพ่อค้าถูกโจมตีโดยเผ่าทะเลทรายซีกี(Zeke)
ถ้าพวกนักรบรับจ้างขโมยของจากพวกมันก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ยุติธรรม
และพวกนักรบรับจ้างจะไม่ถูกตำหนิ
แต่เผ่าทะเลทรายจะไม่ลืมว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
|
ซอยูนได้มอบหมายคำร้องขอให้กับนักรบรับจ้างที่เหมาะสมหลังจากเธอตัดสินใจรับพวกเขา
100 วันผ่านไปไปในวันเดียว ดังนั้นผลลัพธ์จึงกลับมารวดเร็ว
นักรบรับจ้างบางคนล้มเหลวและตาย
ขณะที่คนอื่นๆประสบความสำเร็จอย่างมาก
ซอยูนได้รับการยืนยันข่าวสารใหม่ทุกวันเป็นสำคัญ
ขณะที่เธอทำงานในสมาคมนักรบรับจ้าง
"เวลานี้งานเสร็จสมบูรณ์อย่างยอดเยี่ยม"
"มันเป็นเรื่องดีที่คุณแก้ไขปัญหางานที่ให้ไปอย่างรอบครอบถี่ถ้วน"
"ดี, ฉันก็ไม่พบข้อผิดพลาดในการทำงานครั้งนี้"
"โอ้! นี่ละสมบูรณ์แบบ....! น่าประทับใจ ในอนาคต ข้าส่งคำร้องขอทั้งหมดผ่านทาง
นักรบรับจ้างตะวันแดง"
ความสามารถของซอยูนในการจัดการกับข้อมูลนั้นหาที่เปรียบมิได้ นอกจากนี้,
เธอยังรู้รายละเอียด
ข่าวสารทุกอย่างของนักรบรับจ้าง ดังนั้นเธอไม่รับคำร้องขอใดๆที่เสี่ยง
เธอยังมอบลูกค้าชั้นดีให้กับวีดและ
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
"คุณคิดว่ามันจะยากไหม?"
"อืม มันง่ายจริงๆ
มันควรจะจบลงเร็วๆนี้ คุณอยากจะให้ทำอะไรอีกไหม?"
"นี่เป็นคำร้องขอให้ต่อสู้กับการร่อนทองผิดกฎหมายที่แม่น้ำโคซูม่า(Kosuma)"
"ฉันจะรับไว้"
"มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่พอควร"
"ไม่อะ ฉันจะพลาดโอกาสนี้ในการรับทองจากพวกเขาได้อย่างไร?"
"......"
"ฉันสามารถใช้แรงงานพวกนี้เพื่อเติบโต"
วีดและกองกำลังของเขาประสบความสำเร็จอย่างหมดจดในงาน
เช่นเดียวกับความสามารถของซอยูน
ที่ได้รับการยอมรับ,อำนาจสั่งการของเธอเหนือเหล่านักรบรับจ้างยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
"ข้าได้เฝ้าสังเกตมา 8 ปีแล้ว เจ้าเป็นสตรีผู้เดียวที่พวกเราไว้วางใจ
เหล่านักรบรับจ้างให้ความเชื่อมั่น
อย่างยิ่งในตัวเจ้า
ในอนาคตเจ้าจะต้องเป็นผู้นำสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงของพวกเรา"
เธอขึ้นถึงตำแหน่งของรองผู้บัญชาการของสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดง เธอได้แผ่ขยายสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงออกไป
-
สาขาของสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงได้เปิดขึ้นในเมืองโอชาเรม(Ocharem)
-
สาขาของสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงได้เปิดขึ้นในเมืองบูฮาเรส(Buhares)
-
สำนักประสานงานของสมาคมนักรบรับจ้างตะวันแดงได้เปิดขึ้นในโอเอซิสนูคุด(Nukud
Oasis)
ทักษะบริหารของซอยูนส่งผลให้เกิดการเปิดสาขาของสมาคมในพื้นที่กว้างใหญ่ของทะเลทราย
เนื่องจากความจริงที่ว่า 100 วันผ่านไปในวันเดียว, เธอกลายเป็นที่รู้จักท่ามกลางสมาคมนักรบรับจ้าง
วีดเห็นเมืองต่างๆเติบโตขึ้นกว่าเดิม
3-4 เท่า หลัง 12 ปีผ่านไป, พวกมันได้กลายเป็นมหานครยักษ์
ค่าตอบแทนสำหรับคำร้องขอต่อสมาคมก็เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนั้น, ธุรกิจการค้าก็ได้พัฒนาเนื่องจากพวกพ่อค้า
สามารถทำการค้าได้อย่างปลอดภัย
"ความปลอดภัยของพื้นที่รูมิ(Rumi)ลดลง พวกนักรบรับจ้างควรส่งคนออกไปที่นั่น
ข้าจะส่งนักรบรับจ้างบางส่วนร่วมไปกับท่านวีดครั้งหน้าที่ท่านมาเยี่ยม"
ทะเลทรายเจริญรุ่งเรืองภายใต้มือของเธอ
**************
โดยที่เวลาได้ผ่านไป 19 ปีในภารกิจ, วีดและเหล่าประติมากรรมสลักชีพได้ถึงระดับที่มีการบันทึกเอาไว้
พวกเขาทะลุผ่านเลเวล 740! ทักษะที่สำคัญได้เข้าใจอย่างถ่องแท้และยังได้รับค่าประสบการณ์
2เท่าจากดันเจี้ยน
วีดจดจำข้อมูลอย่างพิถีพิถันล่วงหน้า
ความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไปในภารกิจ
ในช่วงแรกๆ
'ฉันควรจะฆ่ามังกรที่ป่วยและแก่ชราไร้เรี่ยวแรงหรือเปล่า? อืม, ฉันรู้สึกกังวลเรื่องการตาย'
เจ้ามังกรมีชีวิตอยู่จริงแท้แน่นอน หนังที่หนาหมายความว่าดาบก็ยากตัดขาดหรือโจมตีด้วยเวทย์ก็สูญเปล่าไร้ความหมาย
พลังชีวิตมหาศาลหมายถึงต้องใช้เวลา 2-3 วันเพื่อที่จะฆ่ามันอีกด้วย
หลังจากผ่านไปครึ่งปี
'เลเวลของฉันเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะลดระยะการเดินทาง
ภารกิจสามารถเปลี่ยนแปลง
ได้อย่างสิ้นเชิงขึ้นอยู่กับผลลัพธ์'
วีดและเหล่าบริวารกวาดล้างทั่วท้องทะเลทราย
'จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทราย ชื่อที่พวกเขากำลังเรียกเรานี่ใช้ได้ ในความทรงจำของฉันในคอนติเน้นท์ออฟแมจิคได้เพิ่มพูนขึ้นหลังเวลาอันยาวนาน
ในเวลานั้นไม่มีอุปสรรคใดในหนทางของฉันอีก ฉันมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไร
จะเจอกับมอนสเตอร์ที่น่ากลัว'
ในช่วงครึ่งปีหลัง
'การล่ามังกรตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือ? มีมังกรป่วยอยู่บริเวณใกล้ๆนี้ไหมนะ?'
เขาอยากต่อสู้จริงๆเขาพยายามไปต่อสู้กับฝูงมอนสเตอร์หรือมังกรสักตัว
ความแข็งแกร่งของวีด
และเหล่าบริวารในทะเลทรายนั้นไร้ขีดจำกัด
นักรบทะเลทรายผู้แข็งแกร่งหลังจากประสบความโหดร้าย
ทั้งหมดทั้งมวล
"พวกเรามีชีวิตกลับมาจากถ้ำดาคุน(the Dakhun Cave), ฝ่าบาท!"
"กระหม่อมนำมอนสเตอร์ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่กระหม่อมได้จับมา นักรบ 785 นายได้มุ่งหน้าไปที่นั่นและ
มีเพียง 377 คนที่ได้กลับมา"
พวกนักรบทะเลทรายเรียกขานราชาวีด เขาไม่ได้ครอบครองดินแดนใดหรือเหล่าราษฎร
แต่อำนาจอิทธิพลของวีดแผ่ขยายปกคลุมทั่วทั้งทะเลทราย
อำนาจและประชากรของชนเผ่าทะเลทรายเติบโตขึ้นและ
พวกเขาอุทิศชีวิตแก่วีดอย่างซื่อสัตย์
แน่นอน, ถ้าวีดอ่อนแอลงแล้วพวกนักรบทะเลทรายจะกระโจนเข้าใส่เขา
แต่พวกนักรบทะเลทรายติดตามวีด
เพราะว่าพวกเขายอมรับว่าวีดนั้นแข็งแกร่ง
พวกเขาชัดแจ้ง ดังนั้นวีดสามารถควบคุมพวกนักรบทะเลทรายได้ทั้งหมด
ยอดนักรบสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อวีดทุกวัน บางคนเสียชีวิตอย่างมีเกียรติในขณะที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
แต่ชีวิตของนักรบทะเลทรายไม่ได้เป็นแง่บวกเสมอไป
"ไอ้สาระเลวอัปลักษณ์นั่น! แกมันใช้ไม่ได้แค่เพื่อนกินข้าวเท่านั้น เฮสทีเก้อ(Hestiger),
ทำไมแกไม่สกัดไอ้มอนสเตอร์ที่กำลังจะฆ่าข้าแต่แรกวะ?
นำหน้าไปเลย!"
"รับบัญชา นับเป็นเกียรติ"
"ถ้าแกไม่ชนะการต่อสู้นี่ แกก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นลูกน้องของข้า"
"กระหม่อมจะชนะได้แน่นอน"
วีดสังเวยผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาอย่างโหดร้าย
อารมณ์ปรวนแปรของเขาจากคอนติเน้นท์ออฟแมจิคได้หวนกลับคืนมา
เหล่าประติมากรรมสลักชีพ
เป็นการลงทุนที่สำคัญแต่เขาไม่สนใจถ้าพวกนักรบทะเลทรายต้องตาย
ขณะที่ภารกิจได้ดำเนินก้าวต่อไปข้างหน้า, เขาไม่สามารถดูแลลูกน้องของเขาเป็นรายบุคคลได้
นักรบทะเลทรายมากว่า 1,000 คนที่ติดตามเขาได้ประสบกับความเจ็บปวดนั้น
โปรดติดตามตอนต่อไป..
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล