เล่ม 32
ตอนที่ 10 : บันทึกการค้นคว้าของร็อดเดอริค แปลโดย Spicygorhot
【 “มีความสวยงามต่างๆมากมายในสิ่งเล็กๆรอบตัวเรา
เราแค่ไม่ได้คำนึงถึงมัน”
“ข้าเห็นแสงอุทัยส่องสว่างเหนือท้องทะเล
หลังจากนั้นข้าก็ถามตัวเองถึงประติมากรรมที่ข้าเคยสร้าง”
“ความงามไม่ใช่สิ่งที่สามารถเห็นได้ถ้าไม่ไตร่ตรองให้ดี
มันจะกลายเป็นเพียงเงาสะท้อนในความทรงจำ”
“หยาดน้ำฝนที่ร่วงหล่นจากก้อนเมฆสวยงามขนาดไหน?
หยดน้ำที่หล่นลงบนดอกไม้
ต้นไม้และ ใบไม้ ช่างสวยงาม เราถูกห้อมล้อมด้วยสิ่งสวยงามมากมายแต่เราเดินผ่านมันไป”
“มันก็เป็นเหมือนกับแสงแดดในวันที่แดดจัด แสงกลายมาเป็นรากฐานในการสร้างประติมากรรม
เรารู้เกี่ยวกับเรื่องแสงมากเท่าไหร่? แสงอันอบอุ่นส่องเป็นประกายบนชิ้นงานอันก่อให้เกิดความสุข....”
“มันจะไม่ดีหรือถ้าเราจะลองมองหาความสวยงามในสถานการณ์ที่แสนจะสงบและรื่นรมย์?”
“ข้าเห็นด้วยกับการค้นคว้าวิธีในการอธิบายถึงความงาม”
“ทุกคนต่างมีความทรงจำเช่นนี้
เมื่อข้าเห็นสิ่งที่สวยงามที่สุด...มันเหมือนกับว่าข้าเจอภาพมายาที่ทำให้ทุกสิ่งหยุดนิ่ง”
“ความสวยงามไม่เคยรอใคร ถ้าโลกหยุดเมื่อไหร่
เช่นนั้นการหาความสวยงามคงง่ายขึ้น”
ประติมากรที่เอ่ยเกี่ยวกับความสวยงามที่เล็กจ้อยนั้นปรารถนาที่จะหยุดโลกนี้
ช่างเป็นจินตนาการที่แปลกพิกล
ถ้าเวลาถูกหยุด, ก็สามารถเสพสุขไปกับความงดงามผ่านน้ำและสายลม
ความสวยงามของโลกสามารถอธิบายได้ผ่านประติมากรผู้สังเกตโลกใบนี้ด้วยความรอบคอบ
เหล่าประติมากรตัดสินใจที่จะนำเสนอความสวยงามในการพูดคุยของตนเอง
ถ้าทุกสิ่งบนโลกสามารถหยุดลงได้ พวกเขาก็สามารถคำนึงถึงความสวยงามในช่วงนั้นได้
การแกะสลักกาลเวลา!
ข้าร็อดเดอริคและข้าตัดสินใจในเป้าหมายนี้กับประติมากรคนอื่น
ๆ 】
เป้าหมายอันน่าตกตะลึง!
“เฮื้อก!”
วีดชื่นชมพวกประติมากรจากใจจริง
“ประติมากรควรจะเกิดมาพร้อมกับความทะเยอทะยาน
ถ้าพวกเขาแค่ขายรูปปั้นไปวันๆคงไม่สามารถอยู่รอดมาได้ ทุกคนคงตายหมด! ถ้าภารกิจนี้สำเร็จ เราคงสามารถเอาของที่พวกเขาสร้างขึ้นมาได้”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ในขณะที่วีดกำลังต่อสู้กับมอนทัส, ทุกที่ในโมราต้าต่างเงียบลง
“อ่า...”
“ไม่มีทาง...”
“เฮ้ย ได้ไง? เขาบาดเจ็บจากการช่วยพวกอัศวินอีกแล้ว”
“หลบสิ! ถ้าเขาหลบไม่ได้ ไม่มีทางชนะหรอก....”
มีเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวังบ้างเป็นครั้งคราวในโรงเตี๊ยม
แม้แต่พวกที่กำลังดื่มเบียร์ต่างก็นั่งเงียบกริบ ไม่เหมือนในอดีต,ตอนนี้คนที่เริ่มเล่นในอาณาจักรอาเพ่นสามารถเล่นเผ่าปักษาได้แล้ว
นอกจากนี้ในการพัฒนาทักษะทางกายภาพที่คล้ายกัน,พวกเขาสามารถกางปีกและบินบนท้องฟ้า คนที่กลายมาเป็นนักธนูและนักรบสามารถช่วยเหลือได้มากในการต่อสู้บนที่โล่ง
มีบางครั้งที่พวกเขามาร่วมการออกล่าด้วย
เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่จะเห็นพวกตัวละครที่สร้างขึ้นใหม่เกาะบนกิ่งไม้และกระพือปีกพวกเขา
มนุษย์,ออร์ค,เอลฟ์,คนแคระ,คนเถื่อนและเผ่าอื่นๆนั่งรวมกันอย่างเงียบงันขณะที่การต่อสู้ของวีดดำเนินต่อไป
จังหวะที่วีดสามารถพิชิตวงกตร็อดเดอริคได้สำเร็จ, ในเวลานั้นความเงียบก็แพร่ไปทั่วโรงเตี๊ยมและจัตุรัสในโมราต้า
“ไชโย!”
“สามารถกินไก่ทอดได้ฟรีมากเท่าที่ท่านต้องการ! มาที่ร้านซานดร้าสิ!”
“ผมเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมสวนแห่งสายลม เซฟเรามีทักษะการทำอาหารขั้นต้นระดับ
6 วันนี้เรามีเบียร์ฟรีสำหรับพวกท่านทุกคน!”
“โจ๊กหญ้า1200 ที่ ร้อนๆตรงจัตุรัสรีบมากันน้า!”
“ราคาพิเศษ! เพื่อเป็นการระลึกถึงความสำเร็จของกษัตริย์วีด,เราพร้อมซื้อแจ็ปแทมในราคามากขึ้นถึง 14%!”
“ดาบยาวลดราคา! จะลับคมให้พิเศษสำหรับวันนี้เท่านั้น และจะให้หินลับมีด 3 ก้อน
อย่าพลาดโอกาสนี้เชียว!”
“เทศกาลลดราคา! ของทุกอย่าง 3
เหรียญทองหรือน้อยกว่านั้น”
ทั่วทั้งอาณาจักรเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
และภารกิจระดับอาณาจักรก็ปรากฏขึ้น
ติ๊ง!
-ราชวังของอาณาจักรอาเพ่น
|
อาณาจักรอาเพ่นได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
คนเถื่อน,เอลฟ์,คนแคระ,ออร์ค,และประชากรของอาณาจักรนิฟเฮมที่รวมอยู่ในพื้นที่อันกว้างใหญ่
เมืองต่างๆมากมายผุดขึ้นมาตอนที่ความสงบสุขบังเกิด
กษัตริย์วีดได้สร้างประเทศนี้ขึ้นด้วยความกล้าหาญและจิตวิญญาณ
จงสร้างราชวังที่จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอาณาจักรอาเพ่น
|
ระดับของภารกิจ:ภารกิจระดับอาณาจักร
ค่าตอบแทน:ค่าอุทิศในอาณาจักร
ข้อจำกัด:เฉพาะผู้ที่อยู่ในอาณาจักรอาเพ่น
|
ด้วยค่าชื่อเสียงของวีดและความจงรักภักดีของประชาชนของเขาทำให้เกิดภารกิจระดับอาณาจักรขึ้น
เมื่อการก่อสร้างราชวังในอาณาจักรเสร็จสิ้น,ภาษีและเบี้ยเลี้ยงในอาราจักรจะเพิ่มขึ้น
อาณาจักรอาเพ่นมีเงินเก็บมากมายในคลัง
เป้าหมายของวีดคือการยักยอกเงินที่จะใช้ในการก่อสร้าง
2 ล้านเหรียญทอง!
“มีแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“นี่เราต้องทำงานอีกแล้วนับจากวันนี้?”
“เราต้องเลือกว่าจะสร้างราชวังที่ไหน และมันจำเป็นต้องมีถนนไปถึงเหมืองหินในการจัดส่งวัตถุดิบด้วย!”
ผู้เล่นอาณาจักรอาเพ่นนั้นคุ้นเคยกับการก่อสร้างขนาดใหญ่
พวกเขาได้สร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ในทุกพื้นที่ของอาณาจักร
“ตอนนี้ในตัวผมเต็มไปด้วยไฟในการสร้างงานศิลปะ
ในราชวังต้องมีการตกแต่งให้มากที่สุด”
“เกราะสำหรับอัศวินเหรอ......ไม่ต้องขายแล้วเอาไปส่งให้หอหลวงในการจัดแสดงดีกว่า”
จิตรกรและช่างตีเหล็กเริ่มเตรียมความพร้อม
แม้แต่พวกคนทำเครื่องเคลือบและประติมากรก็มีความสุขที่จะได้ทำงานนี้
“เราคงต้องอบโคลนแล้ว”
“ผมจะเริ่มสร้างงานประติมากรรมนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป”
เหล่าสถาปนิกถูกเรียกตัว
“ต้องหรูหรา..”
“ต้องสมเกียรติสำหรับท่านวีด”
“เรามีทุนอยู่ที่ 2 ล้านเหรียญทองแต่.....”
“ช่างเถอะยังไงงบก็เพิ่มอยู่ดี”
“เราควรจะสร้างตรงไหนดี?”
สถานที่ตั้งนั้นสำคัญมาก
ราชวังคือศูนย์กลางการปกครอง
ความจงรักภักดีของประชาชนที่อาศัยใกล้กับราชวังจะสูงมากและจะไม่ลดลง
และมันยังสามารถขยายอิทธิพลไปในพื้นที่ข้างเคียง
ในตอนนี้อาณาจักรทางตอนเหนือเต็มไปด้วยพื้นที่รกร้างและหมู่บ้านโทรมๆทำให้อิทธิพลทางการเมืองนั้นสำคัญมาก
ราชวังมีบทบาทในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงมีหลายคนเสนอให้สร้างที่โมราต้า
“ถ้าสร้างที่โมราต้า”
“โมราต้าจำเป็นจะต้องถูกรู้จักในเรื่องของเมืองที่ยอดเยี่ยมไปทั่วทั้งทวีป
มันจะต้องดีกว่านี้แน่ถ้ามีวังหลวงเพิ่มเข้ามา”
“และการที่มีถนนง่ายต่อการขนย้ายวัสดุบวกกับความจำเป็นในการใช้คนงาน มันจะช่วยย่นระยะเวลาในการก่อสร้างได้ด้วย”
“แต่ปัญหาคือไม่มีที่ว่างมากพอในการสร้างในโมราต้านะครับ”
“ถ้าเรารื้อถอนพื้นที่ตรงหมู่บ้านกระท่อมล่ะ”
“ไม่ได้เด็ดขาด!”
เมื่อเมืองโมราต้าขยายขึ้น บ้านระดับกลางและหรูหราก็ถูกสร้างขึ้นมา
แต่กระท่อมถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ ยิ่งหมู่บ้านกระท่อมเติบโตขึ้นงานศิลปะและประติมากรรมที่เต็มไปด้วยความสวยงามก็ผุดขึ้นตามตรอกซอกซอย
“งั้นเราควรจะสร้างที่ไหนดี?”
“เราต้องมองให้กว้างขึ้น”
นักผจญภัย,พ่อค้า,ลัทธิโจ๊กหญ้าก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มาช่วยตัดสินสถานที่ก่อสร้าง
แผนที่ทวีปทางเหนือถูกกางออกในการหาพื้นที่ก่อสร้างราชวัง
“แถบชายฝั่งก็เล็กไป”
“จะไม่ดีกว่าเหรอที่เราจะเอาตรงนั้นไปพัฒนาด้านท่าเรือ?”
“แม้ว่าปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ทีละขั้นตอน, แต่ตอนนี้มีหลายที่ในอาณาจักรที่ยังไม่สามารถพัฒนาได้”
“แม้ว่าทางตอนเหนือกำลังตื่นขึ้นแต่ก็มีหลายหมู่บ้านถูกฝัง”
“หมู่บ้านทางตอนเหนือนั้นโดนผลกระทบจากอากาศที่หนาวเย็นและถูกมอนสเตอร์โจมตี
เมื่ออาณาจักรอาเพ่นถูกตั้งขึ้นจึงมีการขยายพื้นที่อย่างรวดเร็วแต่ก็มีบางหมู่บ้านที่ถูกทำให้หายไปอย่างถาวรโดยมอนสเตอร์”
บันทึกและการผจญภัยจำนวนมากจะหายไปเมื่อหมู่บ้านถูกทำลาย
หากหมู่บ้านใหม่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในอนาคตจะต้องเกิดความทรมานและความผิดพลาดขึ้นเมื่อเดินทางไปรอบพื้นที่
“มีโอกาสมากที่จะมีการพัฒนาด้านการเงินในอนาคต”
“มันคงจะดีถ้าเราสามารถหาบันทึกของอาณาจักรนิลฟ์เฮม”
“ไม่ควรมีหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง”
“พื้นที่เรียบๆพร้อมน้ำตกก็คงดี”
ปัญหานี้ยากพอๆกับการเลือกเมืองหลวง
“แล้วพื้นที่ระหว่างป้อมเวอร์โก้และอุทยานแห่งทวยเทพหละ?”
“ตรงนั้นมันไม่ใช่ตรงกลางของภาคเหนือนะ?”
“เดี๋ยวมันก็เป็นจุดศูนย์กลางในอนาคตเองแหละ ระยะทางก็กำลังพอดีและที่ว่างก็เยอะด้วย”
“สามารถสร้างถนนได้”
“แต่ปัญหาคือแม่น้ำมันใหญ่ไม่พอนะสิ...ราชวังต้องมีพื้นที่กว้างขวาง พื้นที่สร้างบ้านและย่านการค้าด้วย”
ผู้เล่นที่นี่คุ้นเคยกับทางเหนือดี
ที่ดินเปล่าระหว่างป้อมเวอร์โก้และอุทยานแห่งทวยเทพนั้นใหญ่มากถ้าเทียบในมาตรฐานของโมราต้า
แต่ถ้าดูจากการเจริญเติบโตที่รวดเร็วของโมราต้าแล้ว, พวกเขารู้สึกว่าพื้นที่อื่นๆก็สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหาพื้นที่ ที่ดีที่สุดในการตั้งราชวังที่สามารถทำให้บ้านเมืองรุ่งเรือง
“ไม่จำเป็นต้องสร้างวังตรงพื้นที่ราบสักหน่อย”
“หะ?”
“ผมเคยผ่านแถบภูเขาตรงนี้มาก่อนและมันสวยงามมาก
ภูเขาแถบนี้สูงชันและขรุขระเหมือนที่ป้อมเวอร์โก้
พวกเราสามารถสร้างวังข้ามภูเขาได้”
“ราชวังที่ใหญ่โตและหรูหราท่ามกลางธรรมชาติ...”
“ที่ๆ สามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง”
“แต่การสร้างวังบนที่สูงมันยากมากเลยนะและแพงด้วย“
“แต่มันก็จะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดีที่สุด และไม่จำเป็นต้องนึกถึงการลดค่าใช้จ่ายด้วย”
ราชวังที่เป็นสัญลักษณ์ทางเกียรติยศของอาณาจักรอาเพ่นจะถูกสร้างขึ้นเหนือภูเขา
อาคารสมาคมต่างๆและพื้นที่เชิงการค้าจะถูกสร้างตามแนวตีนเขาขณะที่บ้านเรือนอยู่ตามที่ราบ
ถ้าราชวังสร้างเสร็จมันจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีมาก
ถ้าวีดสร้างประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่แถบนั้นอีกก็ยิ่งดึงความสนใจไปได้มากเท่านั้น
ราชวังที่เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรกำลังจะเกิดขึ้น
“มีอาสาสมัครที่เหมาะสมหลายคนแต่ต้องเตรียมการสักพักกว่าจะพร้อม”
“ผู้คนเริ่มเรียกร้องแล้ว พวกเขาอยากจะทำงานเร็วๆ”
“เรารีบมาร่างแบบกันดีกว่า”
“พวกเราจะทำงานหามรุ่งหามค่ำตั้งแต่วันนี้”
“ผมไม่สนหรอกแม้ว่าบริษัทจะจ่ายให้เท่าไหร่.... ผมรู้สึกดีกว่าถ้าจะทำงานให้อาณาจักรอาเพ่น”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
กิลล์เฮอร์มีสได้สร้างกองทัพที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา
พวกเขาไม่ได้พอใจไปกับการถูกเรียกว่ากิลล์ที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาได้ฝึกกองทัพพวกนี้ไว้อย่างลับๆในการยึดครองทวีป
“อาวุธจากพวกคนแคระหละ?”
“สร้างได้ไม่มีปัญหาครับ”
“กำลังพลหละ?”
“ขวัญกำลังใจดีเยี่ยมและถูกฝึกมาอย่างดีที่สุดแล้วครับ”
ทหารในสังกัดของกองทัพได้รับการฝึกมาอย่างยาวนานและสรรหามาอย่างดี
เงินทุนจำนวนมหาศาลจากอาณาจักรฮาเว่น คัลลามอร์ ราเซล และสัมพันธมิตรแห่งบริทเท่นถูกใช้ไปกับการทหาร
ทหารระดับสูงถูกฝึกมากกว่าทหารส่วนใหญ่ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะมีเงินทุนเท่าไหร่,ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนคนในประเทศ
-หมู่บ้านถูกกวาดล้างโดยวิหารเอ็มบินยู
|
-พื้นที่แถบราเฮสได้รับความเสียหาย
|
พวกเขาใช้พวกวิหารเอ็มบินยูเป็นข้ออ้างในการเกณฑ์ไพร่พลมาฝึก
เงินจำนวนมหาศาลถูกใช้ไปกับเสบียงและการเกณฑ์ทหารจำนวนมากดังนั้นภาระของพวกเขาจึงใหญ่หลวงนัก
ลาฟาเย่เรียกประชุมแม่ทัพและอัศวินมากกว่า
100 คน
“นี่คือแสงครามครั้งสำคัญเราจะไม่หยุดจนกว่าทั้งทวีปจะเป็นของเรา”
“สงครามจะเริ่มเมื่อไหร่?”
ชายแดนของราชอาณาจักรฮาเว่นติดกับอาณาจักรต่างๆมากมาย
และราชอาณาจักรนี้ก็แข็งแกร่งมากจนไม่มีใครเทียบได้ เป็นเรื่องที่คาดได้ว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรต่อต้านเกิดขึ้น
พวกเขาเลยคิดที่จะบุกพร้อมกันในทีเดียว
เมื่อกลุ่มพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น, คงต้องใช้เวลานานพอสมควรในการรวบรวมกองทัพ แผนของพวกเขาเลยเป็นการโจมตีสายฟ้าแลบ
และเมื่อถึงจังหวะหนึ่งพวกเขาก็เชื่อว่าไม่มีกองทัพอะไรสามารถหยุดพวกเขาได้
“ตอนนี้ทุกคนกำลังตื่นเต้นไปกับความสำเร็จของวีดงั้นตอนนี้คือโอกาสของเรา”
ผู้เล่นเลเวลสูงทุกคนรู้ดีว่าวีดคือคนที่สามารถพิชิตวงกตร็อดเดอริค
กิลล์ที่มีชื่อเสียงมากมายต่างก็ล้มเหลวแม้จะมีการช่วยเหลือจาก NPC
ยังไม่นับที่วีดสามารถเคลียร์มันได้ด้วยตัวคนเดียว เขานำพวก
NPC สู่สนามรบและดึงเอาประสิทธิภาพของทุกคนมาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ค่าความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้แต่หมู่บ้านอันแสนห่างไกลยังพูดถึงเรื่องนี้รวมถึงพวกสถานีถ่ายทอดสด
โปรแกรมที่เกี่ยวกับวีดได้ออกอากาศหลายครั้ง
เขาเป็นคนที่ผู้เล่นในรอยัลโร้ดให้ความเคารพมากที่สุด ทำให้ความนิยมในตัววีดนั้นล้นหลามอย่างมาก
“ตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับวีด การโจมตีจะเริ่มขึ้นในอีก 10 วัน
ให้รีบนำทัพไปประชิดชายแดน”
การวางแผนก่อสงครามในแต่ละอาณาจักรถูกเตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว
กำลังผลชั้นยอดที่ถูกจัดเตรียมโดยกิลด์เฮอร์มีสมีมากถึง 4 ล้านคน กองทัพที่พวกเขาซ่องสุมอย่างลับๆ ได้เกณฑ์เข้าสู่สงครามนี้ด้วย
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
การแกะสลักกาลเวลา!
เป็นชื่อที่ทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ควรที่จะพลาดโอกาสนี้
“ถ้าเราสามารถหยุดเวลาได้…”
เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าเขากังวลเมื่อไหร่ เช่นนั้นเขาคงสามารถหยุดเวลาแล้วทำสิ่งที่เขาต้องการได้ พวกประติมากรสามารถแกะสลักได้อย่างไม่สิ้นสุด
“ฉันคงจะปล้นธนาคาร
ไม่สิ อันดับแรกคงไปที่ห้างและขโมยเงินกับของมีค่าก่อน เงินที่ได้มาคงมากพอที่จะอยู่อย่างสบายไปตลอดกาล”
ถ้าเขาได้ทองเขาคงจะหัวเราะออกมาดังๆ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ตาม วีดอ่านบันทึกต่อไป มันคงจะดีมากถ้าเขาได้ทักษะมา
แต่เขาก็คิดถึงข้อเสียเช่นกัน
【ข้าพยายามที่จะแกะสลักเวลาให้สำเร็จแต่มีกำแพงขวางทางข้า
ข้าไม่รู้วิธีการหยุดกระแสเวลาบนโลกใบนี้
ข้าจึงตัดสินว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้
เราจึงยอมแพ้และหันไปกับการปลูกพืช
ต้นพืชที่โตและปลดปล่อยกลิ่นอันแสนหอม
แม้จะไม่ใช่ประติมากรรมแต่ก็สวยงาม 】
“ไม่!”
วีดกรีดร้องออกมา มันเหมือนกับว่าอยากได้ข้าวสวยแต่ดันได้ข้าวเปลือก
【การปลูกต้นไม้สู่งานศิลปะที่ยิ่งใหญ่
ต้นพืชจะหยั่งรากไปใต้พื้นดินและมอบความสุขให้ทุกคนบนทวีป
แม้ในพื้นที่ทุรกันดาร ต้นไม้ก็สามารถหยั่งรากและเติบโตได้
แล้วประติมากรก็ถามว่า
“แต่ถ้ามันกลายมาเป็นดอกไม้ละ?”
“ไม่ใช่ว่าดอกไม้จะหมดความสวยงามหลังจากเหี่ยวเฉางั้นเหรอ?”
“แม้แต่ชาวนาก็สามารถปลูกต้นไม้ได้...”
“เรากำลังสำรวจความงดงาม ศิลปะที่จะถูกสร้างจากต้นไม้”
การโต้เถียงกันเรื่องดอกไม้และต้นไม้ยังคงดำเนินไปอีก
2 วัน และมีบางคนพูดขึ้น
“ดอกไม้จะเหี่ยวเฉาลงหลังจากเบ่งบานเพียงไม่กี่วัน
ไม่ใช่ว่าการแกะสลักเวลามีความจำเป็นมากกว่างั้นรึ?
เราจะได้ไม่พลาดทุกความงดงามรอบตัวเรา?”
“นั่นก็จริง”
“แต่ความยากนี่..”
“ศิลปะและความสวยงามไม่ได้ถูกสร้างง่ายๆ ทุกอย่างมีราคาของมัน”
“เรากลับมาประเด็นเรื่องการแกะสลักกาลเวลาดีกว่า”
ช่างแกะสลักมีความรู้และความสามารถในระดับที่เหมาะสมกับด้านอื่นๆ
มีผู้รอบรู้ด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ดาบ เวทย์มนตร์ ฯลฯ พวกเขารวมตัวกันเพื่อศึกษาเวทมนตร์แห่งกาลเวลา
10 ปีผ่านไป เหล่าประติมากรยังคงดื้อรั้นและไม่ยอมแพ้
พวกเขาอ่านประวัติการผจญภัย หนังสือประวัติศาสตร์และทฤษฎีเวทมนตร์ ความหลงใหลนี้จำเป็นที่จะต้องให้กำเนิดงานศิลปะ
พวกเขาเป็นช่างแกะสลักที่ดีที่สุด ข้าถามพวกเขาว่าทำไมพวกเขาถึงหลงใหลในการค้นหานี้
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในการแกะสลัก”
“ผ่านประวัติศาสตร์…ศิลปะการแกะสลักได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขุนนางชอบภาพเขียนมากกว่างานประติมากรรมดังนั้นวันหนึ่งข้าต้องการส่งต่อไปยังช่างแกะสลักรุ่นต่อไปเพื่อแสดงถึงความงามอันเปล่งประกาย”
เราศึกษาการแกะสลักกาลเวลา
แต่ล้มเหลว แต่สายพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงมนุษย์ เอลฟ์ และคนแคระศึกษางานเขียนที่บันทึกไว้ทั้งหมดและในที่สุดก็พบกับเบาะแส
โนดูลและฮิลเดรัน
ตำนานความรักแห่งการก้าวข้ามผ่านกาลเวลา
เพื่อที่ทั้งสองจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตราบชั่วนิจนิรันดร์】
บันทึกของร็อดเดอริคจบตรงนี้
ตริ๊ง!
-คู่รักแห่งเกาะโบโรตะ
|
บันทึกของร็อดเดอริคกล่าวถึงเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้
โนดูลและฮิลเดรัน
จงสืบหาคู่รักที่พยายามที่จะหลบหนีขีดจำกัดแห่งเวลา
ร็อดเดอริคทิ้งหลักฐานไว้เพียงน้อยนิดในเป้าหมายครั้งนี้
ระดับความยาก:ภารกิจเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
ข้อจำกัด:ภารกิจจะล้มเหลวถ้าคุณตาย
|
วีดเอาไอเทมออกมาจากกล่องที่เก็บบันทึกของร็อดเดอริค
คัมภีร์อัญเชิญโกเล็มไฟ
คัมภีร์อัญเชิญอุกกาบาต
แผนที่เกาะโบโรตะ
เรื่องราวของดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เล่มที่ 73
เข็มทิศที่หยุดทำงานไปแล้ว
กุญแจบ้านแห่งหนึ่งในเกาะโบโรตะ
ทรายแห่งกาลเวลา
“หืมมมมม”
มันคือคัมภีร์เวทย์มนต์ที่ดึงความสนใจเขาเป็นอย่างมาก
และการจะใช้มันก็แค่ฉีกมันเท่านั้นในตอนนี้ยังไม่มีผู้เล่นคนไหนที่สามารถอัญเชิญโกเล็มไฟได้
ร็อดเดอริคได้ใช้มันในการต่อสู้และประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าบาฮามอคเลย
“และคัมภีร์ที่สามารถเรียกอุกกาบาต... ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้แหะ
แต่ก็คาดหวังอะไรไม่ได้มากหรอก อาจจะเป็นสัตว์หรือมอนสเตอร์สร้างโดยเอลฟ์แล้วชื่ออุกกาบาตก็ได้
ตรวจสอบ!”
วีดตรวจสอบคัมภีร์ทันที
-จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ล็อดเดอริกได้เก็บเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ‘อัญเชิญอุกกาบาต’ในคัมภีร์นี้
มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายในการสร้างสิ่งนี้
เมื่อคัมภีร์ถูกฉีกออก จะมีอุกกาบาตหล่นลงมาที่พื้น
ข้อแนะนำ: เมื่อใช้แล้วไม่สามารถหยุดกลางคันได้ ความแม่นยำต่ำ จะทำลายล้างพื้นที่อย่างกว้างขวาง
|
“ของจริง!”
“เราสามารถใช้ไอ้นี่ทำลายปราสาทได้เลย”
วีดกำลังจินตนาการว่าถ้ามีคนใช้ไอ้นี่ในโมราต้าจะเกิดอะไรขึ้น
อุกกาบาตหางยาวล่วงลงมาจากฟากฟ้า สิ่งก่อสร้างพังลงมาอย่างรวดเร็ว ผู้คนล้มตาย
ทุกอย่างพังพินาศอย่างไม่อาจยอมรับ
“เราคงต้องตามเบาะแสนี้ไปจนกว่าจะได้การแกะสลักกาลเวลา”
วีดได้ยินเรื่องเกี่ยวกับโนดูลและฮิลเดรันจากผู้คนในทวีป
“ คู่รักที่รักกันมากที่สุดงั้นรึ
? โนดูลและฮิลเดรันไงละ ”
“พวกเขาอยู่ด้วยกันชั่วกาลนานแม้จะมีการต่อต้านจากครอบครัวพวกเขา”
“เด็กสาวข้างบ้านผมพึ่งตกหลุมรัก คงจะดีมากถ้าเธอพบคนที่ดีอย่างโนดูล”
ผู้คนล้วนพูดถึงโนดูลกับฮิลเดรัน
และเกาะโบโรตะ พวกนักผจญภัยต่างก็สนใจแต่ไม่มีใครรู้ว่าเกาะอยู่ตรงไหน
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“น่าสนใจมาก”
ยูบยองจินนั่งอยู่บนขอบที่นั่งของเขาในขณะที่ดูวีดผจญภัย
เขาเป็นผู้สร้างรอยัลโร้ดแต่ไม่ได้เล่นมันโดยตรง เขาพอใจกับการดูผู้อื่นมากกว่า
“รึว่าเราควรจะเล่นรอยัลโร้ดดี?”
ระบบเอไอโชว์ให้เห็นการเคลื่อนที่ของวีดผ่านหน้าจอต่างๆและมันน่าทึ่งมาก, วีดสามารถรอดได้แม้กระทั่งสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
-ทหารปีศาจปีโอโกะที่ใกล้จะตาย
เหลือพลังชีวิต 1439 วีดโจมตี
|
ข้อความผุดขึ้นมาดั่งดอกเห็ดทุกครั้งที่วีดเคลื่อนไหว
การเคลื่อนที่โดยใช้บลิ้งค์อย่างคล่องแคล่วแม้ว่าเขาจะไม่ได้ไอเทมที่ดรอปจากทหารปีศาจ(บลิ้งค์
:
ชั่วพริบตา ดุจกระพริบตา)
“แสดงพลังทำลายล้าง.........ขณะที่บัญชาทหารด้วย”
มันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกอัศวินศักดิ์สิทธ์และนักบวชในการป้องกัน
มีทหารปีศาจมากมายและพวกทัลลอสที่ตื่นขึ้น แม้แต่มอนทัสกับร็อดเดอริคกำลังสู้กัน, ช่างปาฏิหาริย์ยิ่งนักที่อัศวินศักดิ์สิทธ์สามารถรอดจากระลอกการโจมตีของทหารปีศาจได้
แน่นอนว่าพวกเขาจะผ่านประสบการณ์ในวงกตมาแล้ว
พลังและความรอบคอบของพวกเขาก็สามารถเห็นได้ การร่วมมือกับนักบวชและความศรัทธาทำให้พวกเขารอด
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือกระบวนทัพในการป้องกันที่ยังไม่พังลง
พวกปีศาจจะติดที่กำแพงสามขั้นและการรักษาและการอวยพรจากนักบวช แม้แต่อัศวินที่อ่อนที่สุดยังรู้ว่าต้องทำอะไร
แม้ว่าทหารปีศาจจะแข็งแกร่งแต่พวกมันก็โจมตีมาทีละตัวและถูกจัดการโดยอัศวิน
สถานการณ์ไม่ได้แย่อะไรมากตราบเท่าที่ยังอยู่ในกระบวนทัพนี้ แต่อัศวินที่ยอดเยี่ยมที่แท้จริงต้องสามารถจัดการด้านการป้องกันได้
เอไอโชว์ให้เห็นถึงกระบวนทัพและวิเคราะห์ออกมาว่ามีสิทธิ์ที่จะพังน้อยมาก
“แม้ว่าพวกอัศวินศักดิ์สิทธ์และนักบวชจะลดลง
แต่ก็สามารถจัดการกับปีศาจได้ด้วยการร่วมมือกัน”
แม้ว่าวีดจะยอดเยี่ยมแต่ความสามารถในการต่อสู้ก็เป็นของพวกเขาเอง
วีดได้รับทักษะมาจากการผจญภัย ชื่อเสียงที่สะสมมาจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนต่างประทับใจในตัวเขา
“ไม่จำเป็นต้องดูการตอบสนองของทวีปก็รู้”
ยูบยองจินเช็คแค่ตรงส่วยจัตุรัสแอสเตโล(Astello) ผู้แรกที่สามารถพิชิตวงกตที่แปดและวีรบุรุษผู้สังหารปีศาจ!
“อ่า,นักผจญภัยวีดและประติมากรวีด ทวีปนี้ช่างโชคดี”
“ไม่สำคัญแล้วถ้าวิหารเอ็มบินยูมาท่านวีดจะสั่งสอนพวกมันเอง”
“วงกตร็อดเดอริค! นรกบนผืนทวีปถูกพิชิตโดยท่านวีด”
“ข้าอยากที่จะฟังเพลงเกี่ยวกับการผจญภัยนี้
เพลงที่เกี่ยวกับการผจญภัยในวงกตร็อดเดอริคจะได้รับความนิยมอย่างมาก”
วีดนั้นพิเศษมากและผู้คนในทวีปต่างพูดถึงเขา
จนถึงตอนนี้วีดประสบความสำเร็จในการผจญภัยมากมายและมีบางอันที่ได้ถ่ายทอดสดออกไป
และยังเป็นคนที่พัฒนาโมราต้าขึ้นมาด้วยมือของตน ดั่งทางตอนเหนือในตอนนี้
เป็นเรื่องปกติที่ถูกครอบงำและลัทธิโจ๊กหญ้าเป็นผู้ปลูกฝัง
ลัทธิโจ๊กหญ้าเป็นกลุ่มที่ผู้เล่นและผู้คนในตอนเหนือเข้าร่วม และถูกคุมโดยผู้เล่นหลากหลายเลเวล
ลัทธิโจ๊กหญ้าเป็นกลุ่มที่สร้างขึ้นมาด้วยพลังแห่งโจ๊กหญ้า, ไม่ใช่ศาสนา! ลัทธิโจ๊กหญ้ามุ่งไปที่ความอิสระ
การสำรวจ การผจญภัย และวัฒนธรรม แต่ถ้าดูในความเชื่อมั่นที่มีต่อวีดแทบไม่ได้ต่างจากพวกเอ็มบินยูเลยสักนิด
ผู้เล่นเริ่มต้นที่เริ่มในอาณาจักรอาเพ่นเข้าร่วมลัทธิและคอยเชียร์วีดและจ่ายภาษี
และเขาแถบไม่ได้ทำตัวเป็นผู้นำเลย
เขาแค่เทความมุ่งมั่นที่เขามีให้โมราต้า และคอยให้ผู้เล่นอาณาจักรรับผิดชอบกิจการภายในของอาณาจักร
เมื่อดูจากภาพรวม ความสามารถในการดูแลบ้านเมืองของวีดนั้นสูงมาก
เขาเตรียมพื้นที่ในการสร้างจัตุรัสในตอนที่สร้างโมราต้าและลงทุนไปกับมัน
เขาสร้างศูนย์ศิลปะที่เป็นแหล่งในการกระจายค่าวัฒนธรรมและการสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ก็คอยดึงผู้เล่นเข้ามา
ภาษีที่ต่ำและค่าตอบแทนที่สูงจะกระตุ้นความอยากในการช่วยเหลือที่นี่
แม้จะมีสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่แน่นอน
แต่พวกเขาก็ไม่ได้สำรองเงินไว้เลย
หัวใจของผู้เล่นต่างเชื่อมโยงกันด้วยรูปปั้นขนาดใหญ่และความภักดีของผู้เล่นที่เริ่มต้นในโมราต้าก็สูงเป็นพิเศษ
ทุกที่แถวโมราต้าเป็นดินแดนรกร้างแต่ในตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
เมืองนี้ให้ความรู้สึกที่ทำให้ผู้เล่นไม่อยากจากไปหลังจากได้มา
แม้ว่าพวกเขาจะสำรวจทางเหนือเสร็จแล้วก็ตามและหมู่บ้านกระท่อมก็เป็นเหมือนเครื่องหมายยืนยันว่าราชาที่นี่เอาใจใส่ผู้เล่นเริ่มต้น
ผู้เล่นที่เริ่มต้นในอาณาจักรอื่นๆค่อนข้างจน
พวกเขาต้องประหยัดไปสักพักในการซื้อบ้าน แต่ในโมราต้าและอาณาจักรอาเพ่นพวกเขาสามารถสร้างบ้านได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจะไม่มีอะไรพิเศษแต่ก็อยู่ใกล้ๆกับกลางเมือง
หมู่บ้านกระท่อมที่อยู่ไม่ไกลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้เล่น
ความจริงที่ว่ามันทั้งถูกและสบายในการอยู่ที่โมราต้ากระจายไปอย่างรวดเร็ว
วีดได้เปลี่ยนหมู่บ้านที่ใกล้ล่มมาเป็นอย่างปัจจุบัน
“เป็นไปไม่ได้ที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน
อย่างไรก็ตามมันก็ยังสนุกในการดู”
ยูบยองจินตัดสินใจที่จะนั่งดูอย่างสบายๆ
เขากำลังรอเวลาที่วีดจะล้มเหลวและล้มลง แต่ลึกๆเขาก็แอบเชียร์วีดเช่นกัน
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
พวกดาร์กเกมเมอร์เริ่มสนับสนุนอาณาจักรอาเพ่น
หัวข้อ:กลุ่มล่ามอนปริศนาในอาณาจักรอาเพ่น
หัวข้อ:มาที่ดันเจี้ยนหนวดสิ แล้วคุณจะโชคดี
หัวข้อ:เพิ่มเลเวล? จากเวล 300 ถึง 400 นี่คือที่ๆเหมาะสม
หัวข้อ:พื้นที่หาไอเท็มสำคัญในทวีปทางตอนเหนือ
ผู้เล่นระดับท็อปของกลุ่มเริ่มสำรวจทางเหนือและแบ่งปันข้อมูลผ่านกระดานข่าวสาร
“อืม, เราไปตรงนี้กันเถอะ”
“แม้ว่าราคามันจะแปลกๆ...แต่นี่คือแดนเหนือ คงปกติล่ะมั้ง”
“นี่แหละคือเหตุผลที่ที่นี่เป็นที่นิยม"
พวกดาร์คเกมเมอร์ที่กระจายตัวอยู่ที่ทวีปมารวมกันที่อาณาจักรอาเพ่น
พวกเขาเป็นพวกที่ชื่นชอบความอันตรายและสร้างตัวเลือกที่ไม่มีใครคาดคิด
คนที่เป็นนักกวีสามารถเก็บข้อมูลอย่างรวดเร็วจากชาวบ้านละแวกนั้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาส่วนใหญ่ชอบที่จะล่ากันอย่างเงียบๆ
พวกเขาล่าและเคลียร์พื้นที่มากมายที่ๆอาณาจักรอาเพ่นสามารถสร้างเมืองได้
“ขายสร้อยคอน้ำตาระดับกลางจ้า”
“กระซิบมาหาผมถ้าพวกคุณเจอไม้เท้าเวทย์มนต์ของจิปัง”
“ขายวัตถุดิบตีเหล็ก 5000 เหรียญทอง”
ไอเท็มดีๆมากมายถูกขายในจัตุรัส
อาวุธและวัสดุมากมายจากพวกดาร์คเกมเมอร์ที่ล่ามาได้ในดันเจี้ยน และพวกเขายังพบดันเจี้ยนใหม่ๆอีกมาก
ผู้คนส่วนใหญ่ก็เจอดันเจี้ยนลับเช่นกันแต่พวกเขายังอ่อนแอเกินไปที่จะจัดการได้และตายลง
ในอีกด้านหนึ่งพวกดาร์คเกมเมอร์คุ้นเคยกับการล่าเป็นอย่างดี
พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือกับพวกมอนสเตอร์โดยการประเมินพฤติกรรมพวกมันก่อนจะล่าอย่างจริงจัง
ธุรกิจการค้าของพวกเขาค่อนข้างไร้สาระ
เมื่อเทียบกับเวลาที่พวกเขาออกล่า พวกเขาสามารถกลับมาพร้อมกับกระเป๋าที่เต็มไปด้วยไอเทม
แน่นอนว่าก่อนออกล่าก็เช่นกัน ผ้าพันแผล อาหาร อุปกรณ์การเอาชีวิตรอด กับดักและเครื่องมือปลดกับดัก
พวกเขาสนุกกับที่นี่มาก กระท่อม โรงละคร การแสดง แม้ว่าภาษีจะมากขึ้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
หลังจากวีดทำภารกิจสำเร็จ เขาก็เดินทางกลับมาที่โมราต้าพร้อมพวกนักบวชและอัศวิน
ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เขาจึงคิดที่จะไปวิหารลูห์กับเฟรย่าห์
“ค่าอุทิศตนหายเยอะแน่”
แม้ความจริงที่ว่าเขาสามารถพิชิตวงกตได้ก็ตาม
มันไม่ได้ทำให้เขาสบายใจเลย ผู้ชมทางถ่ายทอดสดยอมรับค่าบารมีและค่าความเป็นผู้นำของเขา
เขาบัญชาผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างดีเยี่ยม
ดวงตาที่แหลมคมในการหาโอกาสชนะพร้อมไปกับการคุมกองกำลังของเขามากพอที่จะทำให้มีผู้คนสรรเสริญ
วีดมีทักษะมากมายแต่ที่น่ากลัวที่สุดคือการนำทัพของเขา
“วีดสามารถชนะได้ทุกภารกิจแหละถ้ามีลูกน้อง”
“เขาแข็งแกร่งก็จริงแต่ยิ่งเก่งถ้ามีลูกน้องคอยช่วย”
“เขาจะไม่ปล่อยให้พวกเขาตายด้วย”
“เขาเห็นคุณค่าในชีวิตของผู้คน”
นั่นคือการตอบสนองของผู้คนที่ดูการถ่ายทอดสด
“ผมอยากจะเป็นหนึ่งในปาร์ตี้ร์ที่นำโดยเทพสงครามวีดจริงๆ”
“จริงๆแล้ว, การเดินทางของเขาก็ประกอบไปด้วยผู้เล่นเลเวลสูง”
“ในอนาคตผมจะไปสู้เคียงข้างท่านวีดให้ได้!”
พวกเขาแทบไม่ได้รู้เจตนาที่แท้จริงของวีดเลย
‘เราจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จแม้จะต้องให้บางคนเป็นเหยื่อล่อก็ตาม....’
วีดเดินทางมาถึงโมราต้าด้วยถนนเส้นหลัก
เมืองที่ดีที่สุดของตอนเหนือที่ๆศิลปะและสิ่งปลูกสร้างอันแสนงดงามถูกสร้างขึ้น!
โดยปกติถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยฝูงชนและเกวียนพ่อค้า
“โอ้,
ยินดีด้วยนะ!”
“ไชโยให้ท่านวีด!”
“ผมรู้ว่าคุณจะต้องทำสำเร็จ!”
ผู้เล่นยืนอยู่ที่ข้างถนนและโปรยดอกไม้
พวกเขารู้ว่าวีดจะต้องกลับมาที่โมราต้าเลยมารอเขาพร้อมดอกไม้แสดงความยินดี
วีดได้รับดอกไม้มากมายและคำสรรเสริญทุกที่ที่เขาเดินผ่าน
เป็นพิธีต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่!
ลัทธิโจ๊กหญ้าเป็นผู้จัดงาน
ผู้เล่นใหม่อยู่บนหลังคาและระเบียงมองดูวีดผู้เป็นไอดอลของพวกเขา
แม้แต่หมู่บ้านกระท่อมยังเต็มไปด้วยผู้คนรอที่วีดจะมาถึง พิธีเป็นที่บ่งชี้ว่าผู้คนนิยมในตัววีดมากแค่ไหน
“เตรียมของแบบนี้มัน.....”
สีหน้าของวีดไม่ได้บ่งบอกถึงรอยยิ้มแห่งความสุข
“ถ้าไปล่าตอนนี้จะได้ภาษีเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่กันเนี่ย”
แต่นอกเหนือจากโมราต้าตอนนี้มีเมืองอีก 20 เมืองในอาณาจักร
ภารกิจและการค้าขายเกิดขึ้นมากมายทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมั่นคง
อาณาจักรทางเหนือยังมีพื้นที่อีกมากให้ได้ขยาย
วีดรอจนจบพิธีต้อนรับและไปที่วิหารลูห์ นักบวชขั้นสูงรอเขาอยู่
“ข้าได้ข่าวมาว่าท่านไปผจญภัยในที่ๆแสนลำบาก”
“ไม่มีอะไรมากหรอกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของวิหารท่านช่วยข้ากันภัยอันตรายได้มากมาย”
“มีความสูญเสียที่มากมายแต่ภัยต่างๆยังไม่หมด อัศวินที่มีประสบการณ์นั้นจำเป็นในการพัฒนาศาสนา
เด็กๆที่โตขึ้นที่นี่จะช่วยปกป้องความยุติธรรมด้วยคมดาบและบทสวด”
ตริ๊ง!
-ค่าอุทิศตนของวิหารลูห์ลดลง 892
|
ค่าชื่อเสียงและเกียรติของวิหารเพิ่มขึ้น!
การดำเนินการเผยแผ่ศาสนาจะดำเนินไปอย่างแข็งขันและจำนวนผู้ศรัทธาจะเพิ่มขึ้น
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเลื่อนขั้นสามารถรับภารกิจใหม่ได้
|
ค่าอุทิศตนลดลงไปมากกว่าที่เขาคิด
อัศวินศักดิ์สิทธิ์มากมายได้รับการเลื่อนขั้นและมีภารกิจใหม่มากขึ้น
-กำจัดปีศาจที่หมู่เกาะโพมูแลน
-คนหายที่ไอดีน
-กำจัดฐานที่มั่นที่สามของวิหารเอ็มบินยู
-การบูชายัญที่ผิดพลาด
ภารกิจระดับ A
และ S! ภารกิจนี้จะมอบให้กับวีดเท่านั้น
“มีหลายสถานที่รอบ
ๆ ทวีปที่ต้องการการปกป้องเพื่อให้เกิดสันติภาพ แล้วข้าจะพบท่านอีกในโอกาสหน้า”
“คำอวยพรแห่งลูห์จงสถิตอยู่กับท่าน”
สถานการณ์ของวีดในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถมาช่วยทำภารกิจศาสนาได้
เขาจึงออกมาและเดินทางไปที่วิหารเฟร์ย่าห์
“ข้าสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยต้องขอบคุณการปกป้องจากเทพีเฟร์ย่าห์”
“ความเสียหายช่างมากมาย
เราเชื่อในตัวท่านแต่...”
นักบวชแห่งเฟร์ย่าห์ตำหนิเขาบ้าง
แน่นอนอยู่แล้วเพราะนักบวชที่ตายไปส่วนมากมาจากที่นี่ ค่าชื่อเสียงของเขาลดลงไปจากการที่อัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวชตายลง
“อย่างไรก็ตามท่านวีดก็กลับมาอย่างปลอดภัย ข้าจะรอโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับท่านในอนาคต
ช่างดีนักที่อัลเวลอนกลับมาได้พร้อมกับประสบการณ์มหาศาล”
ตริ๊ง!
-ค่าอุทิศตนของวิหารเฟรย่าห์ลดลง 2493
|
ความอวยพรและพระคุณของวิหารเฟรย่าห์ในตอนเหนือลดลง.
จากการสูญเสียที่มากมายกิจกรรมของวิหารเฟรย่าห์จะลดลง.
|
เขามีค่าอุทิศกับวิหารเฟร์ย่าห์มากกว่าวิหารลูห์อย่างมากมันเลยไม่เป็นปัญหามากนัก
ในตอนนี้วิหารเฟรย่าห์เป็นศาสนาหลักของคนในอาณาจักร แต่ถ้ามีนักบวชตายมากๆจะมีโทษเช่นกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจและการผจญภัย
“ช่างเหอะ เราผ่านมันมาแล้ว”
ตอนนี้วีดต้องเน้นไปที่เทคนิคแกะสลักขั้นสุดท้าย
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
อาณาจักรฮาเว่นได้ประกาศแถลงการณ์ในวันที่ราชวังสร้างเสร็จ
<เป็นเวลาเนิ่นนานที่พวกเราหยุดและได้เฝ้ามองในขณะที่หวังว่าทวีปนี้จะสงบสุข
แต่สหายของเราในทวีปนี้กลับไม่สนใจ การต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดทั่วทุกหนแห่งทำให้วิหารเอมบินยูเริ่มมีอำนาจ! สถานที่ ที่พวกผู้เล่นเริ่มที่จะอาศัยอยู่ได้เริ่มน้อยลง (จากการที่พวกเรากดขี่ประชาชนจนไม่มีที่พึ่งต้องหันไปหาวิหารเอ็มบินยู (//กิลล์เฮอร์มีสไม่ได้กล่าวผู้แปลกล่าวเอง)นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเรากิลล์เฮอร์มีสปราถนา
และเราคือผู้มีอำนาจมากพอจึงจำเป็นต้องทำบางอย่าง เราตัดสินใจที่จะทำให้ทวีปนี้เกิดความมั่นคง
ผู้ที่ไม่เข้าใจพวกเราสามารถที่จะด่าทอเราได้แต่มันจะยิ่งโกลาหลมากขึ้นถ้าเราไม่ทำสิ่งใด
ความกล้าหาญที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการสู้กับมอนสเตอร์หรือศัตรูแต่คือการยืนหยัดเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องนั้นคือความกล้าหาญที่แท้จริง(//และความหน้าด้านที่หนาจด/ผู้แปล)
เรากิลล์เฮอร์มีสจะใช้จิตวิญญาณอันแรงกล้านี้ในการรักษาความสงบแห่งทวีป
>
พวกเขาใช้เหตุผลทางด้านศีลธรรมในการประกาศสงครามทั่วทั้งทวีป!
สงครามเกิดขึ้นในทุก ๆ ด้านของอาณาจักร พวกเขาเริ่มฝ่าด่านชายแดนของราชอาณาจักรอื่นๆ
สมาชิกระดับสูงในกิลล์นำพวกอัศวินและทหารสู่อาณาจักรอื่นๆ
จากนี้ไป, พวกเขาไม่สนแล้วว่าจะเป็นการเปิดเผยขุมกำลังหรือไม่ และหน่วยรบจำนวน 70000
คนนำโดยเรนโซลร็อตก็มุ่งหน้าสู่อาณาจักรอาเพ่น
พลังของกิลล์เฮอร์มีสได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา
พวกเขาตั้งใจที่จะยึดครองอาณาจักรอาเพ่นที่ท้าทายพวกเขามาอย่างยาวนาน
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง”
“มันก็คาดได้จากการที่พวกมันสงบเกินไปตั้งนาน”
ทั้งทวีปไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาถูกมองเป็นคนเลวตั้งนานแล้ว กิลล์โรม กิลด์ทหารรับจ้างดาบทมิฬ,กิลล์ราชสีห์แห่งดวงดาวและกิลล์เมฆาเริ่มที่จะตอบโต้
“พวกมันมีกองทหารที่ใหญ่จริงๆ”
“แม้ว่าราจะลงทุนแทบทั้งหมดไปกับการทหารก็จริงแต่...”
“เราไม่สามารถที่จะจัดการกับพวกมันได้เพียงลำพัง”
“มาตั้งกลุ่มพันธมิตรกันเถอะ”
ทั้ง 5 กิลล์ร่วมมือกันอย่างรวดเร็ว
ในสมัยก่อน
พวกเขาล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรกับกิลล์เฮอร์มีสจนกระทั่งกลุ่มพันธมิตรแห่งบริทเท่นถูกรุกราน
และเมื่อกิลล์เฮอร์มีสหยุดคืบหน้า พวกเขาก็เหมือนจะตัดขาดกัน
แต่ยังแอบติดต่อกันอย่างลับๆ
-เราต้องสู้กับกิลล์เฮอร์มีส ไม่ก็โดนยึดทั้งทวีป
-มันแข็งแกร่งเกินไปเราต้องร่วมมือกัน
-พวกเราอยู่ใกล้กับพวกมันมากเกินไป
สู้ไปกับกลุ่มอื่นๆสามารถทำให้พวกนี้อ่อนแอได้
กิลล์โรม กิลด์ทหารรับจ้างดาบทมิฬ
กิลล์ราชสีห์แห่งดวงดาวตัดสินใจที่จะโจมตีกิลล์เฮอร์มีสด้วยกัน
ด้วยการที่พวกเขาร่วมมือกันสร้างกลุ่มพันธมิตรนั้นพวกเขาถือเป็นขวากหนามสำคัญของกิลล์เฮอร์มีสและต้องโดนกำจัดออกไปก่อน
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“สงครามนี่มันน่าเบื่อชะมัด”
ชาวนามิเรทัสเช็ดเหงื่อด้วยผ้าขนหนูในขณะที่กำลังสวมหมวกฟางอยู่
แต่หมวกใบนี้นั้นไม่ใช่ไอเทมธรรมดา
-หมวกฟางที่ติดขนไก่
|
ความทนทาน
9/15 ค่าการป้องกัน 8
หมวกฟางที่ทักขึ้นอย่างหลวม
ๆ
ในสมัยก่อนหมวกใบนี้ถูกใช้งานโดยชาวนาพัลบอน(Pulbons)ผู้ช่วยทวีปนี้ไว้ในปีที่ทวีปขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
|
ข้อจำกัด:เฉพาะผู้เล่นอาชีพชาวนา
ระดับ
430
ค่าความเพียร
1200
ทักษะพิเศษ:มีโอกาสที่ค่าปัญญาจะเพิ่มขึ้นตอนหว่านเมล็ด
มอนสเตอร์จะไม่ค่อยให้ความสนใจ
นกที่นั่งบนหมวกฟางอาจนำเมล็ดพันธุ์พิเศษที่มาจากแดนไกลติดมาด้วย
แทนที่ค่าความอึดจะลดลงในการทำงาน
บางครั้งค่าความอึดจะเพิ่มขึ้น
สามารถทนพายุได้เป็นเวลานานโดยไม่เสียเลือด
สามารถใช้พลังในการฟื้นฟูภูมิประเทศที่เสียหาย
โอกาสในการเก็บเกี่ยวพืชบนผืนดินที่ถูกทำลายได้เพิ่มขึ้น
สามารถซ่อมได้อย่างง่ายดายแม้ค่าความทนทานจะถึง
0
|
เป็นไอเทมที่เขาพบโดยบังเอิญระหว่างการสำรวจพื้นที่รกร้าง
“ถ้าสงครามรามมาถึงที่นี่....”
มิเรทัสมีนิสัยที่เหมือนกับชาวนา
เขาชอบมองดูต้นพืชเติบโตในตอนที่ฤดูกาลได้เปลี่ยนไป เขายังมียุ้งฉางและสวนผลไม้ขนาดใหญ่ในอาณาจักรอาเพ่น
แถมเขายังติดตั้งระบบชลประทานที่จะดึงน้ำในแม่น้ำใกล้ๆมาใช้ในการเพาะปลูกอีกด้วย
“สิ่งที่เราทำได้.....ทหารคงต้องการเสบียง”
มีแต่กษัตริย์วีดเท่านั้นที่รู้ว่าจริงๆแล้วมีประชากรเท่าไหร่ในอาณาจักรอาเพ่น
ลอร์ดในแต่ละพื้นที่ไม่สามารถที่จะเอาประชากรที่มีมาบวกกันได้ พื้นที่ส่วนใหญ่ในอาณาจักรถูกปกครองโดยกษัตริย์วีด
อย่างไรก็ตาม ,มิเรทัสสามารถประมาณจำนวนประชากรได้ ชาวนาเป็นอาชีพที่ไวต่อเรื่องการผลิตและบริโภคอาหาร
ราคาจะตกถ้าอาหารมากเกินไปแต่ผู้คนจะอดอยากถ้าอาหารน้อยเกินไป
มีการบริโภคมากขึ้นเป็นบางครั้งตั้งแต่ที่เขามาที่นี่
มนุษย์ ออร์ค คนแคระ คนเถื่อน เผ่าปักษาและเผ่าต่างๆ และจำนวนผู้เล่นใหม่ที่มหาศาล
เมื่อสงครามเริ่มขึ้น, ข้าวจะจำเป็นอย่างมากในการทหาร ออร์คกำลังแพร่พันธุ์ที่ป้อมเวอร์โก้
พวกเขาเป็นเผ่าที่เกิดและตายเร็วพอๆกัน การเติบโตของพวกเขาแตกต่างจากคนปกติอย่างมาก
เมื่อมีมอนสเตอร์เก่งๆหรือมาก่อกวนในพื้นที่
ออร์คจะเป็นพวกแรกที่ก้าวไปต่อสู้ ผู้เล่นออร์คมือใหม่ที่จัดการมอนสเตอร์ได้จะเอาไอเทมมาขายที่ป้อมเวอร์โก้
ตอนนี้ป้อมเวอร์โก้กลายมาเป็นศูนย์รวมของคนแคระ เอลฟ์ ออร์ค และพ่อค้า
“ซื้อธนูจากเราชาวเอลฟ์! จะไม่ขายให้ทุกคน เฉพาะผู้ที่คู่ควรเท่านั้น”
“ทวนเหล็กกล้าเมดอินโมราต้าจ้า!!! ถ้าซื้อมากกว่า 600
เล่มลดราคาพิเศษ”
“ลูกออร์คชอบเนื้อกวางตากแห้ง ยืนรอก่อนนะครับ,คุณออร์ค”
“นี่คือรองเท้าบูทพิเศษ"
อำนาจที่แท้จริงของอาณาจักรอาเพ่นคือเศรษฐกิจ
พ่อค้ายุ่งอยู่กับธุรกิจที่และการติดอาวุธให้กับพวกออร์ค พวกออร์คได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสงครามและจัดการชุมนุม
“ชวิค, มีสงคราม”
“ชวิท ชวิท, น่าสนใจ ที่นี่เริ่มน่าเบื่อแล้ว”
“ข้าควรไปขอให้พวกช่างตีเหล็กมนุษย์และคนแคระเอาสนิมออกจากทวนข้าหน่อยแล้ว
ชวิท ชวิท!”
“เราจะไปสู่สนามรบ,ชวิท!”
ออร์คเป็นพวกแรกที่อยากที่จะต่อสู้
พวก เขารู้ดีว่าพวกออร์คถูกกดขี่มากเพียงใดในตอนกลางของทวีป
พวกเขาไม่สามารถที่จะผ่านจุดตรวจในเมืองเพียงเพราะพวกเขาไม่ใช่มนุษย์
ความสามารถเฉพาะตัวของเหล่าออร์คนั้นไม่ได้เก่งมาก
แต่ด้วยจำนวนที่สูงกว่าทำให้พวกกิลด์ที่ปกครองพื้นที่แถบนั้นจึงไม่ต้องการพวกมันในพื้นที่
และออร์คก็จะลดจำนวนของมอนสเตอร์ในบริเวณล่าอีกด้วย
แน่นอนว่าพวกเขาก็สามารถที่จะพาออร์คลงดันได้แต่พวกออร์คนั้นน่ารำคาญและกินงบมหาศาล
พวกเขารู้สึกเสียใจทันทีที่เห็นประสิทธิภาพของพวกออร์คในบริเวณป้อมเวอร์โก้
“ตั้งแต่ที่พวกมนุษย์เริ่มเข้าสู่ช่วงโกลาหล เราก็จำเป็นที่จะต้องช่วยกัน
อีกอย่างพวกนี้ทำเบียร์อร่อย!”
“เพื่อที่จะปกป้องผืนป่าเราจำเป็นต้องเข้าร่วมสงคราม”
คนแคระและเอลฟ์ก็เหมือนกัน
ทุกเผ่าพันธุ์ในอาณาจักรอาเพ่นเข้าร่วมสงคราม
ลัทธิโจ๊กหญ้า! กลุ่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือก็เข้าร่วมสงคราม
“พวกนั้นกำลังเดินทางมากำจัดพวกเรา....เราจะสู้!”
“หึหึ,ฉันกำลังรอสงครามที่จะมาถึง”
“ไปกันเถอะ”
ในสมัยก่อน,พวกเขาช่วยจบสงครามในโมราต้า!
ในตอนนั้นพวกเขาส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เล่นใหม่แต่ตอนนี้จำนวนพวกเขาเพิ่มขึ้นจนไม่อาจนับได้
“บอกทุกหน่วยให้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้”
“ให้ทุกหน่วยเตรียมคนอย่างน้อย 40,000 คน ทำได้ไหม?”
“หน่วยโจ๊กเห็ดพิษ
ดูเหมือนจะไม่ได้สำรวจดันเจี้ยน.....เดี๋ยวไปบอกให้”
พวกเขาเริ่มรวบรวมผู้เข้าร่วมเพื่อทำสงครามผ่านเครือข่ายการสื่อสารของลัทธิโจ๊กหญ้า
“กิลล์เฮอร์มีส?”
“ฆ่ามัน!”
“ร่วมสงคราม?”
“พร้อมลุย!”
“เราควรจะรวมตัวที่ไหนดี?”
การแจ้งเตือนนั้นเพียงพอที่จะโน้มน้าวใจพวกเขาโดยไม่จำเป็นต้องพูดให้มากมาย
นักรบในภาคเหนือเริ่มเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ล่า
ในอีกด้านหนึ่งผู้เล่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็เริ่มคุยกันในโรงเตี๊ยม
“กิลล์เฮอร์มีสกำลังจะยึดทั้งทวีปจริงๆแล้ว”
“พวกเขามีความมุ่งมั่นมากกลุ่มพันธมิตรสามารถต่อสู้กับพวกเขาได้นานแค่ไหนกันนะ…?
ติดตามตอนต่อไป
ผู้แปล :
Spicygorhot
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล