เล่ม 31 ตอนที่ 10:
เหล่าวีรบุรุษผู้เป็นประเด็น แปลโดย Cole’s Myth
“เพลงดาบประกายแสง”
วีดเผชิญหน้ากับคลื่นทะเลแล้วเปิดใช้ทักษะ
นกเหยี่ยวพุ่งทะยานและกระจายตัวเข้าปะทะกับตัวคลื่นแล้วก็สลายหายไป
-ค่าความเชี่ยวชาญทักษะดาบประกายแสงเพิ่มขึ้น
|
การฝึกซ้อมภายในทะเลที่มีลมคลุ้มคลั่งช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานาให้กับไอเทมทุกชิ้นได้
หรือแม้แต่เพิ่มพลังมานาให้นักบวชด้วยเช่นกัน สถานที่ที่เต็มไปด้วยฝนตกรุนแรง สายลมกรรโชกคลุมคลั่งไม่เว้นแต่ละวันเช่นนี้
นี่แหละคือทางตอนเหนือของท่าเรือวาร์น่าที่เป็นชายหาดที่แทบจะไม่มีนักสำรวจคนไหนล่องเรือมาที่นี่เลย
“ที่นี่เหมาะที่ฉันจะเพิ่มทักษะได้ดีจริงๆ”
ตัวช่วยที่ดีที่สุดของวีดก็คือสมาธิของเขาเอง
เขาไม่ได้ออกไปตกปลาแต่กำลังเหวี่ยงดาบไปมาบนก้อนหินแทน
คลื่นเหล่านั้นอันตรายมากนั่นก็เพราะมันสูงขนาดปกคลุมเนินหินทั้งลูกได้
เขาต้องเหวี่ยงดาบตัดอย่างเฉียบคมแม่นยำทุกๆครั้งที่คลื่นถาโถมเข้าใส่ตัวเขา
แถมยังต้องข่มสัญชาตญาณความกลัวเอาไว้ในตอนที่มีคลื่นยักษ์ออกมา
มันเป็นสถานที่ที่มืดมนที่ไม่รู้แม้กระทั่งกลางวันหรือกลางคืน
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสัตว์น้ำปรากฏตัวออกมาบ้างในช่วงเย็น
“ของว่างสินะ”
วีดใช้เพลงดาบประกายแสงรับมือกับท้องทะเลพร้อมกับล่าพวกมอนสเตอร์ไปด้วย
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สูงขนาดเข้าไปล่าในดันเจี้ยน แต่ค่าประสบการร์ของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
พวกสัตว์ทะเลพยายามเข้ามาโจมตีเขาแบบเป็นฝูง ทว่าพวกซอยูน บาฮาม็อค
และเอลตินเองก็พยายามเข้ามาขวาง
“ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยงอยู่บ้างแต่ฉันก็ต้องผ่านภารกิจนี้ไปด้วยตัวเองนะ”
วีดไม่หยุดพักแม้ซักนิดถึงแม้ว่ามานาและพลังกายของเขาจะหมดไปแล้วก็ตาม
“ถึงแม้ว่าพวกมอนสเตอร์นั้นจะแข็งแกร่งเกินไปหรือว่าฉันจะหาไอเท็มภารกิจไม่เจอ
ฉันก็จะไม่ยอมแพ้กับภารกิจนี้หรอก!”
มุ่งมั่นไปที่รางวัลเท่านั้น!
วันเวลาผ่านพ้นไปหลายวัน ทักษะความเชี่ยวชาญดาบของเขาก็เพิ่มมากจนที่เขาสามารถปล่อยนกเหยี่ยวออกมาได้จากปลายดาบได้ครั้งละ
5 ตัวจากการโจมตีใส่พายุมา
การใช้มานาก็เพิ่มขึ้นมากทว่าพลังทำลายล้างและระยะของทักษะนั้นก็เพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ทักษะของวิชาดาบประกายแสงเพิ่มขึ้นเป็นขั้นกลางเลเวล 1 แล้ว
“พลังทำลายของเทคนิคดาบเพิ่มขึ้นแล้ว
ฉันคงไปออกล่าในดันเจี้ยนที่อันตรายกว่านี้ได้ละ”
จากนั้นวีดก็เอาแพแล่นออกสู่ทะเล
การล่องเรือหรือแพออกไปในสภาพอากาศที่มีพายุรุนแรงขนาดนี้ด้วยตัวเพียงลำพังแทบเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ถึงยังไงเขาก็มีทักษะเดินเรือที่มากพอเขาถึงได้ตัดสินใจออกเรือไป
พายุทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นส่วนสายลมก็กรรโชกรุนแรงมากเช่นกัน
วีดยืนทรงตัวอยู่บนแพพลางเหวี่ยงดาบไปด้วย ในตอนที่เขาเกือบจะตกลงไปในทะเล
วีดก็จะใช้ประติมากรรมเดิมของเขา ปีกแสงช่วยดึงร่างเอาไว้
วีดต่อสู้เผชิญหน้ากับคลื่นทะเลและพายุฝนที่แสนรุนแรงจนทำให้เขารู้สึกว่าดันเจี้ยนที่เขาเข้าไปก่อนหน้านี้ง่ายไปเลยทีเดียว
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ซอยูนมาที่บ้านของเขาขณะที่ลีฮุนยังอยู่ภายในแคปซูล
เธอมาเยี่ยมเยือนที่บ้านของเขาทั้งวันทั้งคืนหลังจากที่ย้ายมาอยู่ข้างบ้าน
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
เจ้าเนื้อหมาแสดงท่าทีเป็นมิตรมากกว่าที่มันทำต่อลีฮุนซะด้วยซ้ำไป
มันแสดงออกมาด้วยการเห่าและแกว่งหางไปมาไปที่ซอยูน
“เธอรออยู่ใช่ไหมละจ๊ะ กินเยอะๆนะ”
ซอยูนค่อยๆเทอาหารลงไปในชามข้าวของเจ้าเนื้อหมาหรือแม้แต่ให้ของกินเล่นกับมันอย่างมีเมตตา
เจ้าเนื้อหมากินขนมและน้ำซุปกระดูกในขณะที่ซอยูนกำลังแปรงขนให้กับมัน
กุ๊กๆ!
พวกไก่เองก็ต้อนรับซอยูนในตอนที่พวกมันเห็นซอยูนเดินมา
แม้แต่พวกลูกเจี๊ยบก็เดินวนไปมารอบๆตัวเธอ ส่วนเจ้ากระต่ายน้อยทั้งหลายก็นอนแผ่อยู่บนสนามหญ้าพลางมองเธอด้วยสายตาแวววาวสดใสลูกตากลมแบ๊ว
พวกเป็ดเองก็มาหาเธออย่างกับว่าเธอเป็นเจ้าของพวกมัน
“เป็ดควรจะได้อยู่ในแอ่งน้ำสิ.....”
พวกเป็ดและไก่ถูกขังเอาไว้ช่างเป็นภาพที่น่าสงสาร
ซอยูนได้สร้างบ่อน้ำขนาดใหญ่เอาไว้ด้วยในตอนที่สร้างบ้านของเธอขึ้นมาเพื่อพวกเป็ดโดยเฉพาะ
“ฉันจะเอาเป็ดพวกนี้ไป”
“ทำไมหล่ะ?”
“พวกเขาส่งกลิ่นเหม็นหรือว่าส่งเสียงดังให้นายรำคาญไหมหล่ะ?”
“ก็บางครั้ง”
“งั้นฉันจะเอาพวกเขาไปฝึก
แล้วก็เลี้ยงพวกเขาให้ด้วย”
“งั้นฉันฝากดูแลด้วยละกัน”
พวกเป็ดกระโดดลงไปในบ่อน้ำที่มีขนาดใหญ่พอๆให้คนลงไปว่ายน้ำได้เลยทีเดียว
ตอนนี้ซอยูนได้เข้ามาครองหัวใจของเหล่าสัตว์เลี้ยงภายในบ้านหลังนี้แล้ว
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ณ ตอนนี้วีดกำลังเสี่ยงชีวิต!
ผลลัพธ์ที่ได้จากค่าความเชี่ยวชาญเพลงดาบประกายแสงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
อารมณ์ของวีดกำลังพลุ่งปรี๊ดในยามเมื่อสายฟ้าฟาดลงใส่ท้องทะเลแบบกะทันหัน
โชคยังดีที่เขามีใส่ไอเท็มที่ต้านทานสายฟ้าและรอดจากพายุสายฟ้านั้นมาได้
ตอนนี้วีดได้กลายเป็นหัวข้อข่าวร้อนในตอนที่วิดีโอการฝึกของเขาถูกถ่ายทอดออกอากาศ
“ตอนนี้ฉันคงต้องคิดใหม่เรื่องที่จะเปลี่ยนไปเล่นประติมากรจริงๆ
เขาได้ออกไปต่อสู้ใหญ่ๆหลายครั้งมากจริงๆในตอนที่เขาออกไปทำภารกิจแถมตอนนี้ยังต้องมาอดทนทำแบบนั้นอีก”
“คนเขาพูดกันว่าภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพประติมากรนั้นยากที่สุดในบรรดาสายอาชีพอื่นทั้งหมด
แถมตอนนี้แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเขาทำถึงขั้นไหนแล้ว”
ผู้คนได้รับชมการกระทำของวีดแล้วก็คิดว่านั่นคงเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปรมาจารย์
ถ้าหากว่าพวกเขารู้ว่านั่นเป็นภารกิจเพื่อเทคนิคแกะสลักลับไม่ว่าใครก็คงประหลาดใจมากแน่ๆ
ทว่ามันก็คงไม่มีทางถูกเปิดเผยแน่ๆ
เขาคงไม่มีทางยอมบอกพวกเขาถึงแม้ว่าเขาจะได้ทักษะมาแล้วก็ตาม
แต่ถึงยังไงก็มีผู้เล่นประติมากรใหม่มากมายย้ายสายไปสายอาชีพอื่นอย่างจิตรกร
ถ้าหากว่าภารกิจปรมาจารย์จะยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้งั้นก็ควรยอมแพ้ไปตั้งแต่ตอนนี้แล้วก็ย้ายไปเล่นสายอื่นดีกว่า
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
นักดาบ5
ตัดสินใจที่จะเดินเควสภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพก่อนเป็นคนแรก
“ข้าได้ยินว่าเจ้าจัดการพวกมอนสเตอร์ไปจนหมดแล้ว
แล้วช่วงนี้ก็มีพวกกลุ่มโจรป่าที่กำลังเป็นภัยคุกคาม....”
“ให้ข้าฆ่าพวกมันเลยไหม?”
“ศิลปะการต่อสู้ของพวกมันไม่ธรรมดา
มีเพียงบางคนที่มีทักษะการต่อสู้เท่านั้นถึงจะสามารถจัดการพวกมันได้”
นักดาบ5
ตะลุยภารกิจของเขาด้วยทักษะดาบของเขาล้วนๆ
ภารกิจศิลปะการต่อสู้นี้เหมาะกับทักษะของนักดาบ5ได้เป็นอย่างดี
เขาสามารถต่อสู้กับศัตรูมากมายเพื่อที่จะได้แข็งแกร่งมากขึ้น
การเหวี่ยงดาบนั้นถือว่าดีเยี่ยม
ทว่ามันก็ทำให้นักดาบ5หมกมุ่นอยู่กับผลของทักษะนั้นมากเกินไป
ทักษะพวกนั้นถือว่าเป็นประโยชน์มากในสถานการณ์ที่เฉพาะแถมคนที่ใช้มันก็ค่อนข้างดูเด่นมากด้วย
แต่ยังก็เถอะการดูเจ๋งและโดดเด่นในการต่อสู้ก็คงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด
“ทุกวันนี้พวกทหารนั้นค่อนข้างอ่อนแอ
ด้วยกำลังแค่นี้ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าจะรักษาความสงบสุขนี้ได้นานแค่ไหน
ได้โปรดช่วยฝึกทหารเหล่านี้ให้ข้าด้วย...”
“ข้าจะฝึกพวกเขาให้รู้สึกเหมือนตายไปเลยครับ”
นักดาบ5ทำภารกิจไปได้อย่างราบรื่น
โดยไม่มีภารกิจไหนยากจนเกินความสามารถเขาเลยซักนิด
แต่กระนั้นเขาก็กระโจนเข้าใส่อุปสรรคครั้งหนึ่งในภารกิจของเขา!
“ข้าได้ยินว่าท่านจะช่วยผู้คนที่มีปัญหา
ได้โปรดช่วยลูกสาวของเราด้วย”
ชาวไร่คนหนึ่งพูดออกมาขณะที่รั้งแขนของเขาเอาไว้
“พวกมันลักพาตัวลูกสาวข้าไปที่รังโจรรุย
ไม่รู้ว่าพวกมันจะทำอะไรเด็กที่น่าสงสารคนนั้นบ้าง....ได้โปรดช่วยนำทุกอย่างที่พวกมันขโมยไปกลับมาด้วย”
นักดาบ5 พยักหน้าตอบรับ
“ตกลง
ข้าคงต้องตอบรับคำขอของเจ้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น”
ภารกิจผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้บางภารกิจไม่ได้รับแม้แต่ค่าตอบแทน
ทว่าก็ยังได้รับชื่อเสียงและค่าความสนิทสนมกับชาวเมืองก็เพิ่มขึ้นมาแทน
“นี่คือรูปภาพของลูกสาวของข้าที่จิตรกรวาดขึ้นมา”
ตริ้ง!
-ท่านได้รับรูปภาพของภรรยาและลูกสาวของชาวไร่
|
“เมื่อได้เห็นความปรารถนาเช่นนี้แล้วค่อยน่าช่วยเหลือหน่อย”
นักดาบ5เปิดดูรูปภาพที่ไม่มีแม้แต่ค่าตอบแทนใดๆนั้นเพื่อตรวจสอบ
“เฮือกกก”
นั่นคือรูปสาวสวยผมตรงยาวสลวยพร้อมรอยยิ้มอันแสนสดใส!
“คุณพ่อครับ
ท่านบอกว่ารังโจรรุยหรือครับ? ข้าจะไปช่วยนางทันทีเลยครับ”
เขาเข้าไปในรังโจรรุยในทันทีที่เขารับภารกิจมา
เขารีบเข้าไปช่วยเธอ ทว่ากลับสายไปเสียแล้วเพราะว่าเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว
มันคือภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพของเขา
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะล้มเหลวภารกิจก็ยังคงมีโอกาสมาอีกเหมือนเดิมหลังจากนั้นไม่กี่วันถัดมา
ในครั้งนี้มีพ่อค้าคนหนึ่งมาขอให้เขาไปช่วยเหลือลูกสาวของเขา
-ท่านได้รับรูปภาพของหญิงสาวผู้ที่กำลังยืนอยู่บนถนนแห่งเมือง
เรซ
|
“คุณพ่อครับ!”
ในครั้งนี้เขาเขาสามารถช่วยเธอไว้ได้ทันทว่าเธอกลับได้รับบาดเจ็บตอนกำลังออกมา
ทักษะของเขาในความเชี่ยวชาญทางศาตราวุธและการตัดสินใจในการต่อสู้นั้นถือว่ายอดเยี่ยม
ทว่าเขากลับถูกจำกัดเอาไว้ด้วยระดับความเชี่ยวชาญของเกมของเขาที่อยู่แค่ระดับต้นเท่านั้น
“ข้ายังอ่อนแอเกินไป”
สายอาชีพผู้ช่ำชองศิลปะการต่อสู้มักจะได้ภารกิจต่อสู้อยู่บ่อยๆเพราะงั้นเลเวลของเขาถึงจำเป็นอย่างมากในการทำภารกิจ!
นักดาบ5รู้สึกตัวเองไร้พลังเพรางั้นเขาถึงได้ออกไปล่าอย่างหักโหมก่อนที่จะไปทำอย่างอื่นให้สำเร็จให้จงได้
“ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือลูกสาวข้าออกมาได้อย่างปลอดภัย”
“ไม่เป็นไรครับ
ชายชาตรีควรจะทำได้มากกว่านี้”
“ถึงแม้ว่ามันจะเก่ามากแล้วแต่ข้าขอมอบแผนที่ไว้ให้ท่าน
ข้าก็ไม่รู้หรอกว่าเจ้าจะไปเจอกับอะไร.......”
“ไม่ครับ
ข้าไม่ได้ทำเช่นนี้เพราะหวังผลตอบแทน”
“ช่างน่ายินดีนัก! ลูกสาวของข้าก็กลับมาแล้ว
ตอนนี้นางก็คงสามารถแต่งงานกับคู่หมั้นของเธอได้แล้ว”
“อึก”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
-ทักษะการเดินเรือเพิ่มขึ้นเป็น
ขั้นกลางเลเวล 1
ทักษะการแล่นเรือจะเพิ่มขึ้น 2%
และเมื่อกลับลำเรือในสภาพทะเลที่ย่ำแย่จะมีโอกาสล้มเหลวลดลง 6%
การได้รับความเสียหายจากพายุต่อลำเรือลดลง
เมื่อยิงปืนใหญ่การสั่นไหวของตัวเรือจะลดลง
ผลลัพธ์ของทักษะต่างๆที่เกี่ยวกับทะเลเพิ่มขึ้นทั้งหมด
|
ค่าสถานะความอึดเพิ่มขึ้น 15
หน่วย
|
ค่าพลังชีวิตเพิ่ม 500 หน่วย
|
ทักษะการเดินเรือช่วยเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างละ
3 หน่วย
|
ทักษะเดินเรือของเขาเพิ่มขึ้นในตอนที่เขาอยู่บนแพ
นี่ไม่ใช่การล่องเรือที่สบายๆที่มีสภาพไร้ลมอะไรทำนองนั้น
วีดต้องล่องแพและต่อสู้ไปในพายุวันแล้ววันเล่า กลุ่มเมฆดำทะมึนปกคลุมทั่วท้องฟ้าแถมฝนกระหน่ำมาไม่หยุดหย่อน
ครึกๆๆๆครืนนนนนนน!
สายฟ้าอันน่าเกรงขามฟาดลงสู่ท้องทะเล!
เขาต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนหยุดตัวแพเอาไว้ก่อนที่คลื่นจะพลิกมันให้ล่ม
ท่านได้ถูกฝนกระหน่ำใส่เป็นระยะเวลานาน
เลือดของท่านลดลงไป 21%
|
“เจอวิกฤติแล้วสิเราวันนี้”
อันที่จริงแล้ว
ตอนนี้วีดกำลังสนุกซะมากกว่า
ความปรารถนาของเขาคือได้เผชิญหน้าท้าทายกับเรื่องยากๆในตอนที่เขากำลังต่อสู้ไปในคลื่นทะเลที่ซัดกระหน่ำรุนแรง
เขาต้องการที่จะตั้งสมาธิไปที่สิ่งที่เขาทำ หรือว่าจะยอมจมน้ำตายไป
เขาได้ค้นพบด้านมืดที่บ้าระห่ำของเขาขณะที่เชือดเฉือนกับคลื่นทะเลรุนแรง
เขาสามารถทำมันได้อย่างอิสระโดยไร้กฎเกณฑ์หรือว่าศีลธรรมมาคอยตีกรอบ เพราะงั้นแหละผู้คนถึงได้ชอบอยู่บนท้องทะเล
ถ้าหากว่าวีดเลือดหมดจากนั้นเขาคงไปที่ผืนดินแล้วก็ไปนั่งแกะสลักหินงกๆไปเรื่อย
ตอนนี้คือช่วงเวลาของนักดาบผู้กำลังปะทะกับท้องทะเล!
เขาล่องแพไปพลางแกะสลักไปพลางขณะที่ไปต้องผจญกับพวกฉลามไปด้วย
“รู้สึกเหงาตะหงิดๆแหะ”
เขาแกะสลักปลากระโทงน้ำเงินขณะที่มองดูมอนสเตอร์ทะเลต่างๆนานาในทะเลไปด้วย
พายุทะเลที่แสนรุนแรงนี้เองก็บังคับให้เหล่าสิ่งมีชีวิตทะเลพวกนี้ให้ต้องแข็งแกร่งและมีตัวใหญ่เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
ทว่าพวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากว่ายตามกระแสน้ำไปเรื่อยๆ
ในขณะที่วีดฝึกฝนตนเองอยู่บนแพ พวกมันก็จะอ้าปากรออยู่ใต้น้ำ
ท่ามกลางสายลมและฝนกระหน่ำ
สายน้ำดำทะมึนไปด้วยกลุ่มมอนสเตอร์ทะเลอยู่เบื้องล่าง
“นี่ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้วนะเนี่ยตั้งแต่ที่เราเริ่มเควสมา”
ต้องขอบคุณการฝึกฝนอันแสนหฤโหด
ทักษะวิชาดาบประกายแสงของเขาเพิ่มขึ้นเป็นขึ้นกลางเลเวล 4
“นี่คงพอที่จะทำภารกิจสำเร็จแล้วมั้ง”
นี่คือวันที่ 37 แล้ว
พายุที่แสนรุนแรงมากยิ่งกว่าเดิมก็กระหน่ำเข้ามา เชือกที่ผูกวีดไว้กับตัวแพก็มิอาจทนต่อพลังทำลายของคลื่นทะเลได้อีกต่อไปแล้วก็ขาดลงในที่สุด
ผึ่งงงงงงงงง!
วีดที่กำลังตั้งสมาธิไปที่วิชาดาบอยู่ก็ต้องเสียสมาธิและมีปฏิกิริยาตอบโต้ชายไปเพียงเสี้ยววินาที
แล้วก็ตกลงสู่ทะเลลงไปในที่สุด
‘เหยื่อมาถึงแล้ว’
‘คุ้มค่าจริงๆที่รอ’
เหล่ามอนสเตอร์ทะเลขยับครีบของพวกมันว่ายเข้าไปประชิดตัว
มีแม้แต่คราเค่นที่มีร่างกายเต็มไปด้วยหนวดนับสิบ พวกมันตรงดิ่งเข้าไปหาวีด
หมายมั่นจะกินเขาเป็นอาหารอันโอชะ
“อาหารเลิศรสหายาก”
“มนุษย์ที่แข็งแกร่ง”
พวกมอนสเตอร์ชื่นชอบศัตรูที่แข็งแกร่ง
ถ้าหากว่าพวกมันชนะการต่อสู้ ก็จะสามารถเติบโตและสามารถเรียนรู้ได้
มีการต่อสู้มากมายหลากหลายสายพันธุ์บนทวีปเวอร์เซล
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ที่ชนะจะสามารถแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
มนุษย์ที่ตกลงสู่ทะเลย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะอ่อนแอมากยิ่งกว่าสัตว์ที่อยู่ใต้ทะเล
พวกเขาจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ได้
นอกจากนี้ยังมีพายุกระหน่ำที่ยิ่งทำให้พวกเขาอ่อนแอมากยิ่งกว่าเดิม
“บุ๋มๆๆๆ”
วีดพยายามทรงตัวในน้ำให้ได้ทว่าก็ถูกคลื่นซัดแปบกะทันหัน
คลื่นยักษ์สูง 8-9 เมตรลากเขาไปอย่างรุนแรง แต่ทันใดนั้นก็มีคลื่นยักษ์สูง 40-50
เมตรซัดมาอีกระลอก
-ท่านหายใจติดขัด
มีน้ำไหลเข้ามาในปากของท่าน
ความสามารถทางร่างกายของท่านลดลง
|
ตู้มมมมม!
หนวดทั้งสิบของเจ้าคราเค่นกระแทกเข้าใส่ตรงที่วีดว่ายอยู่
ไม้ที่ก่อเป็นแพทั้งหมดแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ส่วนพวกมอนสเตอร์น้ำตัวอื่นๆเองก็พยายามที่จะกลืนเขาลงไป
ทว่าก็ทำได้เพียงกินน้ำเปล่าๆเข้าไป คลื่นทะเลในตอนนี้ไม่ได้ไหลไปในทิศทางเดียวทว่าซัดไปมาหลายทิศหลายทางจนไร้รูปแบบ
-ความเหนื่อยล้าเพิ่มขึ้นถึง 85%
เลือดของท่านลดลงถึงขีดสุด
ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ทักษะ
|
แม้ว่าเขาจะเหนื่อยล้ามาก
ทว่ายิ่งเขาให้สมาธิในการใช้ทักษะมากกว่าเดิมก็จะยิ่งทำให้ค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเขาเพิ่มมากเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือเขากังวลถึงความตายที่ที่จะมาแบบไม่ทันตั้งตัวต่างหาก
ท่ามกลางเวลาที่วิกฤติขนาดนี้
วีดก็ดึงเชือกที่ผูกข้อเท้าของเขาเอาไว้ มันคือเชือกที่ผูกเอาไว้กับถังเปล่า
เขาเกาะอยู่บนถังไม้ที่ลอยอยู่นั่นเอาไว้แล้วก็พยายามหายใจลึกๆ
เขาไม่สามารถทรงตัวเอาไว้ได้เพราะว่าแรงคลื่น
เพราะงั้นเขาถึงได้กลืนน้ำทะเลเข้าไปเป็นจำนวนมาก
ถ้าหากว่าเขาดื่มน้ำทะเลเข้าไปแล้วไม่อาจหายใจได้นั่นก็จะทำให้เขาหมดสติไปเลยก็ได้
ที่เขาเกาะอยู่บนถึงไม้นั้นได้ก็ช่วยเขาได้มากพอควรเลย
“เกือบจะตายไปแล้วจริงๆนะเนี่ย ฉันยังต้องเก็บเงินอีกอยู่นา......”
แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นแต่พวกมอนสเตอร์ทะเลก็ยังอยู่ใต้ทะเลที่มารอกินเขาอยู่อย่างแน่นอน
ตอนที่เขาอยู่บนแพเขาก็จะสามารถใช้ปีกแห่งแสงได้
เพราะงั้นเขาถึงสามารถเล็งใส่พวกมันได้
จากนนั้นพวกมันก็มารวมตัวกันทันทีที่เขาตกลงสู่ทะเล ช่างเป็นเรื่องสยองขวัญซะจริงที่เขาจะโดนพวกมอนสเตอร์ทะเลกิน!
“จงออกมาปีกแห่งแสง!”
ปีกแสงมายึดอยู่ด้านหลังของวีดแล้วนำตัวเขาลอยขึ้นสู่อากาศ
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!
ในช่วงเวลานั้นเอง ถังไม้ก็ถูกบีบแตกเป็นเสี่ยงด้วยปากมหึมาของมอนสเตอร์
เศษชิ้นส่วนของแพไม่เหลือซากให้เห็น
ช่างเป็นเรื่องยากที่จะจับทิศทางได้ในสภาพทะเลคลื่นที่สูง
ฝนฟ้าคึกคะนองเมฆฝนดำทะมันขนาดนี้
“คงต้องรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็ว
แต่ควรไปทางไหนดีวะเนี่ย?”
พายุลมอันแสนคึกคะนองทำให้คลื่นทะเลยิ่งปั่นป่วนมากยิ่งขึ้นไปอีก
ค่าพลังชีวิตและมานาของเขาตกลงไปเรื่อยๆจากลมและฝนที่พัดสาดกระหน่ำรุนแรง ถ้าหากว่าเขาตกลงไปในทะเลในตอนนี้คงไม่สามารถว่ายน้ำไหวเพราะหนักชุดเกราะของเขาแน่
แถมยังมีพวกมอนสเตอร์ทะเลที่ง้างปากรอเขาให้ตกลงไปเป็นเหยื่อ
“ก็มีทางออกอื่นอยู่หรอกนะแต่ว่า.....”
การจะใช้ทักษะมหาภัยพิบัติในตอนนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับดาบสองคม
ภัยพบัติที่กระหน่ำลงในสภาพพายุฝนแบบนี้คงได้ฆ่าเขาอย่างแน่นอน
“แต่ก็อาจจะมีทางที่จะออกไปจากทะเลนี่ได้อยู่”
ก่อนที่จะเลือกวิธีที่สุดโต่ง
เขาเองก็สามารถเลือกที่จะใช้ทักษะประติมากรรมจำแลงกลายร่างเป็นสัตว์ทะเล
อาจจะเป็นปลาหรือปลาหมึกก็ได้ การออกมาฝึกโดยไม่มีแผนสำรองใดๆในสภาพพายุหนักขนาดนี้คงเป็นเรื่องสิ้นคิดจริงๆ
“อืม งั้นแวะไปซักที่ก่อนละกัน”
วีดกางปีกแสงออกกว้าง
แล้วทะยานบินขึ้นไป สายลมทั้งรุนแรงแถมยังมีฟ้าผ่าอีกด้วย
“ดูเหมือนจะไม่ใช่ทางนี้
ไม่มีวี่แววของเกาะอยู่เลย งั้นไปทางขวาดีกว่า”
ทิศทางนี้พายุยิ่งกระหน่ำรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“ทางนี้ก็ไม่ใช่งั้น หักไปทางขวาอีกครั้งละกัน.....”
เขาเปลี่ยนทิศทางไปตามคลื่นที่แสนรุนแรงและน่าหวาดหวั่น
“ทางนี้ก็ไม่ใช่แหะ
ดูเหมือนจะเป็นใจกลางพายุมากกว่า”
วีดเข้าเสี่ยงชีวิตอยู่ตลอด
แม้ว่าตอนนี้พายุจะรุนแรง เขาก็ยังดั้นด้นเข้ามาในทะเลจนได้
ทันใดนั้นก็มีกระดองสีขาวบริสุทธิ์ผุดขึ้นมาเหนือน้ำ!
“นั่นมัน...”
เขาได้มอบชีวิตให้กับประติมากรรมมากมายในเขตลาส
ฟารังค์ มีหลายตัวที่หนีจากเงื้อมมือของวีดแล้วมาอยู่ในทะเล
ในพวกมันก็มีเจ้าเต่า เมลเลนท์
ยูโนโต้!
เต่ายักษ์ที่อาศัยอยู่ในใต้ท้องทะเลลึก
เซอร์กะเคยเล่นกับมันอยู่บ่อยๆ
“เต่างอย
เต่างอย” (เสียงเต่าร้อง ไม่รู้ร้องยังไง)
นั่นคือเสียงตอบโต้ตอนที่มันได้พบวีด
วีดนั้นเป็นคนที่เข้าใจสัจธรรมชีวิตได้เป็นอย่างดี
“การได้ใช้ชีวิตอย่างผาสุกก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว
การได้อ่านนิทานเด็กก่อนนอนนิถือว่าไม่เสียเวลาเปล่าเลยจริงๆ”
“เต่างอย เต่างอย”
“ไปกันเถอะเจ้าเต่า!”
วีดขึ้นไปบนหลังเจ้าเต่า
เดิมทีเต่าชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่เพราะมีทักษะประติมากรรมประทานชีพมันถึงได้มีชีวิตฟื้นคืนมา
มีรอยประทับมากมายอยู่บนกระดองของมันแถมยังมีหอยเกาะอยู่เต็มไปหมด
“ฉันคงฝึกต่อไปบนกระดองนี้ได้แน่ๆ”
เขาใช้กระดองเป็นที่ฝึกฝนต่อไปจนเสร็จสิ้นภารกิจเขา
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
กาลเวลาล่วงเลยผ่านพ้นไปขณะที่วีดฝึกฝนอยู่ท่ามกลางทะเลพายุที่โหมกระหน่ำ
ช่วงเวลามากกว่า 100 วันนั้นไม่ใช้สั้นๆเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดฉันก็เจอสมบัติซะที”
นักผจญภัยเชส
ได้ค้นพบสมบัติของราชวงศ์ที่ทำให้เขาบรรลุภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพจนได้
“เจ้าได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับนักผจญภัยเชสไหม?
เขาพึ่งจะกลายเป็นคนรวยล้นฟ้าเมื่อไม่นานมานี้”
“”เขาพึ่งได้ตำแหน่งเอิร์ลแห่งราชอาณาจักรเบรนท์มานิแถมยังได้ที่ดินมาด้วย
ตอนนี้เขากำลังสร้างบ้านที่ใหญ่ราวกับราชวังอีกด้วยนะ”
เรื่องราวของนักผจญภัยเชสแพร่สะพัดไปทั่วรอยัลโร้ด
ฉากดันเจี้ยนที่เขาขุดค้นพบสมบัตินั้นเป็นที่โด่งดังจนได้มีการฉายซ้ำไปมาตลอดทั้งคืน
นักรบไพธอนกำลังกวัดแกว่งดาบอย่างบ้าคลั่งภายในป่าเอเวอเรียน
ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตต้องห้ามทั้ง 10 ของเวอร์เซล
ภารกิจปรมาจารย์ของเขาคือต้องมาล่าบอสที่นี่ ภารกิจนี้ก็ไม่ได้จำกัดไม่ให้จ้างทหารรับจ้างหรือว่าขอความช่วยเหลือจากคนอื่นทว่าเขาเลือกที่จะฉายเดี่ยว
ไพธอนเป็นคนที่มีสัญชาตญาณอันบ้าคลั่งของหมาป่าเพราะงั้นผู้คนถึงได้ชื่นชอบและเชียร์เขา
ชาวไร่ไมเรทัสก็ได้เรื่อคุยโวเรื่องใหม่ที่เขาถึงฤดูเก็บเกี่ยวจนได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์มาก
การเก็บเกี่ยวที่มากมายมหาศาลขนาดนี้จึงช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของเมืองได้เป็นอย่างดี
จนทำให้นี่กลายเป็นประเด็นข่าวใหญ่ที่บอกว่าไมเรทัสได้ย้ายเข้าปักหลักถิ่นฐานที่อาณาจักรอาเพนแล้ว
“อากาศกำลังดีเลย
แถมยังมีพรจากเทพีเฟรย่าด้วย ต้นน้ำลำธารก็กว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์
ราชอาณาจักรอาเพนนี่เหมาะที่จะเอาไว้เพาะปลูกจริงๆ”
ไมเรทัสเป็นชาวไร่ที่รักสงบ
เขามีที่ดินที่ราชอาณาจักรเดล
ทว่ากลับต้องเสียส่วยค่าภาษีด้วยผลผลิตพืชพันธุ์ที่เขาเก็บครึ่งหนึ่ง
ราชอาณาจักรอาเพนนั้นมีภาษีที่ต่ำแถมค่าธรรมเนียมโกดังเก็บก็ยังถูกอีกด้วย
นี่ถือว่าเป็นกำไรงามๆของเหล่าชาวไร่ชวนสวนที่แท้จริงจนเขาเองยังต้องยอมรับ
วีดเป็นกษัตริย์ที่มีความห่วงใยและคอยสนับสนุนทุกๆอาชีพจนเขาเองก็ชื่นชมเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชุดนี้มีแค่เซตเดียวบนทวีปแห่งนี้เลยนะครับ”
ดราโก้ทำภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพของเขามาถึงภารกิจที่
8 แล้ว
เขาไปที่หมู่บ้านบริเวณชานเมืองของราชอาณาจักรอาเพนเพื่อทำเสื้อผ้าให้กับเหล่าเด็กๆ
เขาตัดเย็บเสื้อผ้า ปักกระดุม และมองดูเด็กที่สวมเสื้อผ้าของเขาวิ่งเล่นไปมา
แม้ว่าพวกเขาจะเป็น NPC ทว่าเขากลับรู้สึกเหมือนเขาเป็นพ่อแม่ที่มอบเสื้อผ้าให้กับลูกๆ
นี่คือสิ่งหนึ่งที่มีเพียงบางคนที่ทำเสื้อผ้าเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
“สัดส่วนกับรอยทอกำลังดี
สมส่วนกำลังพอดี....แถมยังให้ความรู้สึกที่เหมาะด้วย”
บรรดาชาวเมืองที่ได้รับเสื้อผ้าต่างรู้สึกปลื้มปีติยินดี
ถ้าหากชาวเมืองได้รับเสื้อผ้าชุดที่ใช้กับโอกาสเฉพาะผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะดีขึ้นมากกว่าเดิม
ในขณะเดียวกันบรรดาผู้เล่นที่กำลังทำภารกิจปรมาจารย์สายอาชพชฟทำอาหารต่างต้องไปเผชิญหน้ากับสถานที่อันแสนอันตรายทุกข์ทรมาณจากสงคราม
โรคระบาดและหายนะต่างๆนานา
“พบวัตถุดิบแล้ว....ฉันคงต้องทำอาหารทุกอย่างที่มีให้พวกคนหิวโซก่อน”
บรรดาอาหารถูกจัดเตรียมให้กับคนอ่อนแอและหิวโซ
เหล่าชาวเมืองต่างมารายล้อมตั้งแต่ที่พวกเขาได้ยินว่ามีเชฟทำอาหารเดินทางมาถึงจนทำให้ชื่อเสียงเขากระจายไปทั่ว
มีวีรบุรุษมากมายก่อกำเนิดขึ้นมาจากปรมาจารย์สายอาชีพในครั้งนี้
แต่ว่าก็แน่นอนที่มีสายอาชีพที่โชคร้ายที่ต้องทำภารกิจเช่นกัน
อย่างสายอาชีพวอร์ล็อค โจร หรือนักฆ่า
เพราะว่าภารกิจปรมาจารย์นี้สามารถสร้างวีรบุรุษหรือว่ามารร้ายได้ด้วยเช่นกัน
คนแรกที่เลือกทำภารกิจสายอาชีพนักฆ่าก็ตัดสินใจทำภารกิจปรมาจารย์
ตริ้ง!
ภารกิจ:
ทางเลือกของผู้อยู่ในเงา
ท่านคือผู้ที่อยู่ในความมืด
จึงทำให้ท่านสามารถปลิดชีพอันแสนมีค่าได้
หากท่านปรารถนาที่จะลิ้มรสความรุ่งเรืองจงสังหารพ่อค้าผู้ร่ำรวยจำนวน
10 คนภายในเมือง
และหากท่านต้องการกอบโกยชื่อเสียงและเกียรติยศ
โปรดจงสังหารบุคคลผู้ชั่วร้าย 30 คนแห่งทวีปเวอร์เซล
บุคคลผู้ชั่วร้ายนั้นจะต้องมีเลเวลมากกว่าท่าน
ความยากของภารกิจ:
ภารกิจปรมาจารย์นักฆ่า
ข้อจำกัดภารกิจ:
ทักษะลอบฆ่าขั้นสูงเลเวล 7
ท่านจะต้องไม่ถูกจับได้ในตอนที่ทำภารกิจ
|
“ลอบฆ่าพวกคนเลวงั้นหรอ......”
นักลอบฆ่าระดับท๊อปของทวีป
เป็นชายไร้ชื่อที่กำลังนั่งดื่มเบียร์ภายในร้านเหล้าเพียงลำพัง เขาประสบผลสำเร็จภารกิจมากมายบนทวีปเวอร์เซลแห่งนี้แถมยังชอบออกไปล่าอย่างลับๆ
อาชีพสายนักฆ่านั้นไม่จำเป็นจะต้องออกล่าเป็นปาร์ตี้
การทำดาเมจของพวกเขาเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมในสายการต่อสู้
สายกับดักสามารถทำให้พวกมอนสเตอร์ที่แกร่งๆปั่นป่วนได้หรือแม้แต่การโจมตีแบบเฉียบพลัน
นั่นหมายถึงว่าอาชีพสายนักฆ่าสามารถเก็บค่าประสบการณ์และค่าความเชี่ยวชาญทักษะได้ค่อนข้างเร็ว
และแน่นอนว่าพวกเขาเป็นอาชีพที่ต้องแบกรับอันตรายที่มากขึ้นด้วย
“ยิ่งยากก็ยิ่งสนุกสิ”
เขาออกไปจากร้านเหล้าด้วยผ้าคลุมไหล่ที่โบกสะบัดขณะที่เดินย่างเข้าสู่ฝูงคน
นับตั้งแต่วันนั้น
ลอร์ดที่เลวทรามและสมาชิกระดับสูงของวิหารเอ็มบินยูก็เสียชีวิตไปอย่างลึกลับ บรรดาชาวเมืองทั้งทวีปเวอร์เซลก็ต่างยินดี
ทว่าก็ยังไม่เป็นที่กระจ่างมากนักว่าเป็นฝีมือของพวกนักฆ่า ทุกการเคลื่อนไหวคือการซ่อนเร้นที่ไม่มีแม้ซักคนเดียวที่รู้ชื่อของเขาเลย
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ทวีปในตอนนี้นั้นไม่ค่อยต่างจากในช่วงยุคสงครามแย่งชิงดินแดนมากนัก
(Warring
States) อาณาเขตของราชอาณาจักรต่างๆจากสมัยก่อนของรอยัลโร้ด
ได้แปรเปลี่ยนไปจากชัยชนะที่ได้ชิงมาแบบไม่หยุดหย่อน
ราชอาณาจักรลาเซลและคัลลามอร์นั้นได้หายไปแล้ว
แต่ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับวีรบุรุษเกิดขึ้นมากมายแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ความสงบสุขของบ้านเมืองกำลังเสื้อถอยเพราะงั้นพวกเขาถึงได้หวังพึ่งวีรบุรุษ
“อีกไม่กี่วันนี้คงได้มีงานราชาภิเษกอีกแน่ๆ”
เหล่าทหารรับจ้างกลุ่มดาบทมิฬชนะสงครามกลางเมืองมาได้และยังได้รับสืบทอดบัลลังค์แห่งราชอาณาจักรกราเดียน
มันเป็นชัยชนะที่เข้าสู่หัวใจของประชาชนอย่างแท้จริง ณ ตอนนี้ราชอาณาจักรกราเดียนคงอยู่ใต้อำนาจของกลุ่มทหารรับจ้างดาบทมิฬจากการยึดครองมาได้ด้วยสงคราม
“สภาพของพวกอัศวินหล่ะ?”
“ยอดเยี่ยมเลยครับ”
“ถ้างั้นที่ต่อไปที่เราจะไปยึดคือ.....”
พวกเขาบุกโจมตีหมู่บ้านที่อยู่ในอาณาเขตการปกครองของกิลด์โรม
ตั้งแต่ที่กลุ่มสมาพันธมหาอำนาจล่มไปแล้วพวกเขาจึงไม่ยอมพลาดโอกาสในครั้งนี้
“พวกเราต้องยึดหมู่บ้านให้มากๆจากพวกที่อ่อนแอ”
“พวกเรามีกิลด์เฮอร์มีสเป็นพวกอยู่แล้วหนิไม่เป็นไรหรอก”
แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ได้เชื่อในความยั่งยืนของพันธมิตรครั้งนี้หรอก
ทว่าในที่สุดพวกเขาก็ยังต้องเพิ่มกำลังรบจำนวนมากถ้าหากจะพิชิตทั้งทวีป
แม้ว่าพวกกิลด์เฮอร์มีสและกิลด์เมฆาจะยังคงนิ่งเงียบอยู่ทว่าสถานการณ์ก็ยังคงแปลกๆอยู่ดี
กิลด์เมฆายึดครองอาณาเขตมาได้บ้างแต่อำนาจการปกครองราชอาณาจักรพันธมิตรบริเตนกำลังอ่อนลงไปเรื่อยๆ
เหมือนดั่งกับพระอาทิตย์ที่ขึ้นมาโชติช่วงและค่อยๆมืดดับลงไป
พวกเขาพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ให้กับกิลด์เฮอร์มีสและตอนนี้ก็ค่อยๆล่มสลายไปอย่างช้าๆ
นั่นก็เพราะว่าเหล่าผู้เล่นต่างพากันออกไปจากกิลด์ที่พ่ายแพ้
หากพวกเขายอมอยู่ต่อพวกเขาอาจจะกลับต่อสู้กับพวกกิลด์เฮอร์มีสอีกครั้งก็ยังได้
แม้ว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
ทว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรของราชอาณาจักรพันธมิตรบริทเท่นก็อาจจะทำให้พวกเขาสร้างรายได้อย่างมากมายมหาศาลได้หลังจากการต่อสู้นี้
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีผู้เล่นมากมายออกจากกิลด์เมฆาไปหลังจากต้องพ่ายแพ้และรู้สึกอ่อนด้อย
จนทำให้เหล่ากิลด์เมฆาก้าวเดินหน้าเรื่องบ้านเมืองช้าไปจนทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เช่นนี้ได้
ขณะที่กิลด์เฮอร์มีสขยายอำนาจทางทหารอย่างรวดเร็วพวกเขาก็บริหารงานจัดการภายในด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้กิลด์เมฆาไม่มีความสามารถที่จะประกาศสงครามได้เลยด้วยซ้ำไป
แม้ว่าตอนนี้กิลด์เฮอร์มีสจะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรทว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าพวกเขาจะต้องก้าวไปด้วยความเร็วที่น่าหวาดหวั่นในตอนที่พวกเขาทำได้
ณ ราชอาณาจักรฮาเว่น
เป็นราชอาณาจักรทีมีกำลังทหารและกำลังทางเศรษฐกิจที่มั่นคงจนทำให้กิลด์อื่นๆต่างกำลังให้ความสนใจ
ทวีปทางตอนกลางเองก็ได้รับผลกระทบจากพวกวิหารเอ็มบินยู
ผู้เล่นระดับสูงตายไปและกลายเป็นจุดอ้อนภายในสงคราม
ผู้คนชาวเมืองล้มตายไปร้านค้าถูกปิดตายไปตามๆกัน
หลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกช่วงชิงไปสลายหายไปกลายเป็นเถ้าธุลี
แม้ว่าจะมีกำลังทหารและเศรษฐกิจท้วมท้นทั้งทวีปเวอร์เซล
เหล่าผู้เล่นก็ยังคงสูญเสียไปมากมายเช่นกัน
สถานการณ์ทางเหนือ ใต้ ตะวันออก
และตะวันตกก็แตกต่างกันไป แม้แต่ราชอาณาจักรเล็กๆก็ยังมีความสงบสูงอยู่
จึงทำให้เหล่าวิหารเอ็มบินยูจะเข้าไปฝังรากนั้นไม่ง่ายเลย
ทางตะวันออกของทวีป ราชอาณาจักรเบรนท์และโรเซนไฮม์ตัดสินใจที่จะจับมือกันเพื่อต่อกรกับพวกวิหารเอ็มบินยู
ราชอาณาจักของชนเผ่าทั้งสามและพวกเผ่าคนเถื่อนเองก็ยืนหยัดต่อกรกับพวกวิหารเอ็มบินยูอย่างดุเดือด
ส่วนทางตอนเหนือเองก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
จบตอน
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล