เล่ม 31 ตอนที่ 9:
ความรวดร้าวของวิหารเอ็มบินยู แปลโดย Cole’s Myth
ลีฮุนตามหาสถานที่เหมาะๆสำหรับภัยพิบัติครั้งถัดไป
“ที่ๆพวกวิหารเอ็มบินยูเกาะกลุ่มกันมากที่สุด.....”
เป็นเรื่องสะดวกที่จะตรวจสอบบอร์ดข่าว
มีโพสท์มากมายพูดถึงเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่พวกวิหารเอ็มบินยูกำลังรวมกำลังกองทัพขนาดใหญ่เข้าโจมตี
แม้แต่หน้าโฮมเพจของสถานีถ่ายทอดสดก็ได้บอกถึงสถานที่ๆอันตรายที่พวกวิหารเอ็มบินยูประจำการอยู่
“ดูเหมือนว่าจะมีไม่กี่ที่ที่พวกวิหารเอ็มบินยูเข้าควบคุมอยู่”
เขาสามารถขี่เจ้าไวทรีเจาะทะลวงเข้าไปในอาณาเขตของศัตรูได้
มีผู้คนมากมายที่รักในความถูกต้องและเชื่อมั่นในเลเวลของตัวเองเข้าเผชิญหน้ากับความตายอย่างไร้ประโยชน์
ลีฮุนจะไม่ยอมทำอะไรไร้หัวคิดแบบนั้น เพราะว่าเขาเองก็มีภาระหน้าที่น่าปวดหัวของตัวเองมากพออยู่แล้ว
มันคงเป็นเรื่องที่อันตรายมากแน่ที่จะเข้าไปอยู่ในวงล้อมของพวกวิหารเอ็มบินยูและยังมีทักษะมหาภัยพิบัติอีกด้วย
“ฉันต้องเข้าไปโจมตีในจุดที่ปลอดภัยที่สุด”
ลีฮุนค้นหาสถานที่แบบนั้น สภาพพื้นดินและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติจำเป็นต้องมีความเหมาะสมสำหรับสร้างภัยพิบัติขึ้นมา
ณ ปราสาทเบอร์เนิร์ดแห่งราชอาณาจักรไอเดิร์น!
กองทัพของวิหารเอ็มบินยูกำลังเข้ารุกราน
ส่วนทำเลที่ตั้งการปิดล้อมก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ สถานที่แห่งนี้ติดกับทะเลบวกกับกระแสลมอันรุนแรง
“เหมาะเลย
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่พื้นที่ที่สมบูรณ์แบบ พวกนั้นก็คงจะเลี่ยงไม่ได้และต้องเจอกับภัยพิบัติของฉัน”
ลีฮุนไม่สามารถควบคุมภัยพิบัติหรือว่าปรับความรุนแรงได้อย่างใจคิด
เขาเคยคิดที่จะใช้พลังทำลายล้างของภูเขาไฟแต่ภัยพิบัติแบบอื่นก็คงควบคุมไม่ได้เหมือนกัน
“ฉันคงต้องเขียนคำเตือนซักหน่อยละ”
ลีฮุนล็อกอินเข้าแอคเค้าท์ของเขาเข้าโฮมเพจของรอยัลโร้ด
มีข้อความนับพันอยู่ในเมล์ของเขา
โดยปกติเขาจะไม่ค่อยอ่านเนื้อหาในเมล์แต่จะแค่มองดูหัวข้อแบบผ่านๆ
มีการขอเซ็นสัญญาโฆษณาและเป็นสปอนเซอร์สินค้ามากมาย ส่วนข้อความที่พวกแฟนๆส่งมาก็เหมือนกับเมล์สแปมเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีนิสัยชอบอ่านหัวข้อของเมล์อยู่ดี
ลีฮุนคลิกเข้าไปในกระดานข่าว
“คงต้องเขียนแบบง่ายๆ”
หัวข้อ:
ผมคือวีด นี่คือคำขอร้อง
ผมมีแผนที่จะไปต่อสู้กับวิหารเอ็มบินยูที่ปราสาทเบอร์เนิร์ดแห่งราชอาณาจักรไอเดิร์น
ผมขอเตือนเหล่าผู้เล่นที่อยู่ที่นั่นว่าจะมีภัยพิบัติที่คล้ายกับป้อมปราการโอดินปรากฏขึ้น
พวกเขาควรจะระวังตัวและไปซ่อนในที่หลบภัยในปราสาทในวันพรุ่งนี้
ทันทีที่ลีฮุนเขียนโพสท์นั้นลงไป
มีข้อความตอบกลับมาราว 2,000
ข้อความในเสี้ยววินาที
-คนแรก
-ก็แล้วแต่
-พอซักทีเถอะ
-ดูที่เนื้อหาสิเว้ยไม่ใช่มาดูคอมเมนท์
-นี่วีดจริงหรอ?
-ฉันก็ซุนฮีวอนตัวจริงนะ
-ฉันว่านี่คงเป็นเรื่องตลกละ
แต่นี่มันไอดีของเทพสงครามจริงๆนี่หว่า
-คุณวีดเขาไม่มาเขียนอะไรแบบนี้ในนี้หรอกเว้ย
ปัญญาอ่อน
-ฉันก็ชื่อวีดนะ 555
-เอ๋ นี่มันวีดจริงๆนิ
-คนที่เขียนโพสท์นี้คือเทพสงคราม
วีดตัวจริง
-ฉันไม่รู้หรอกว่าใครปัญญาอ่อน
แต่นี่มันสุดยอดไปเลย
โพสท์ของลีฮุนมียอดผู้เข้าอ่านเพิ่มขึ้นนับหลายร้อยภายในไม่กี่วินาที
แถมมันยังถูกแชร์ออกไปในกระดานข่าวอื่นๆและกลายเป็นหัวข้อข่าวใหญ่อย่างรวดเร็ว
มันถูกแพร่กระจายอย่างกว้างขวางจนเป็นข่าวไปถึงหูของพวกผู้ประกาศข่าว
-ตอนนี้ผมอยู่ที่อาณาจักรทัลเลน
ถ้าจะไปปราสาทเบอร์เนิร์ดภายในวันพรุ่งนี้ด้วยม้าพอจะเป็นไปได้ไหมครับ?
-ฉันอยู่ที่อาณาจักรทัลเลน กำลังหาคนร่วมเดินทางไปปราสาทเบอร์เนิร์ด
ต้องการคนที่มีทักษะขี่ม้าขั้นต้นเลเวล 6 หรือทักษะควบคุมรถลากขั้นกลาง
-ฉันอยากจะไปต่อสู้เหมือนกับท่านวีด
ไปกันเถอะ
-ขอไปด้วยคน
ฉันไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้เห็นภัยพิบัติครั้งนี้หรอก
-อั๊ยยะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่อาณาจักรไอเดิร์นแล้ว
ได้เห็นภัยพิบัติเต็มตาแน่ๆ
บรรดาผู้เล่นที่ได้เห็นข้อความของลีฮุนต่างพากันมารวมตัวที่ปราสาทเบอร์เนิร์ด
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ณ ปราสาทเบอร์เนิร์ด
วิหารเอ็มบินยูมีแผนการที่จะโจมตีที่นี่เพราะงั้นเหล่าบรรดาผู้เล่นก็พากันย้ายออกไปยังพื้นที่อื่น
แต่อย่างไรก็ตามวีดก็กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาผู้เล่นเหล่านั้นต่างพากันเทเลพอร์ตมาหรือว่าเดินทางจากอาณาจักรอื่นๆเพื่อที่จะมายังราชอาณาจักรไอเดิร์น
ปราสาทเบอร์เนิร์ดมีบรรยากาศของความหรรษางานเทศกาลในขณะที่เหล่าผู้เล่นยังอยู่
บรรดานักท่องเที่ยวที่มาถึงปราสาทแห่งนี้ต่างก็ต้องเข้ามาทางประตูเข้าเมืองหลัก
“เร็วๆเข้า
พวกวิหารเอ็มบินยูมันใกล้เข้ามาแล้ว”
“แล้วภัยพิบัติหล่ะ”
“ยังไม่มานะ”
“พวกเราพึ่งจะมาถึงหน่ะ”
บรรดาผู้เล่นทั้งหลายที่พากันเดินหรือว่าขี่ม้ามาจากที่ไกลแสนไกลนั้นอยู่ใกล้จนแทบจะเข้าไปติดกับกำแพงเมืองอยู่แล้ว
ถ้าหากว่ารวมพลังของพวกผู้เล่นทั้งหมดนี้มาต่อสู้การป้องกันของปราสาทเบอร์เนิร์ดคงจะเพิ่มขึ้นซัก
10 เท่า
“พวกวิหารเอ็มบินยู!”
“กองทัพพวกมันเข้ามาใกล้จากทางใต้แล้ว!”
เหล่าผู้เล่นต่างรู้สึกถึงความคาดหวังสะท้อนรุนแรงอยู่ภายในทรวงอกของพวกเขาแม้ว่าจะเห็นพวกปีศาจและคลั่งลัทธิในกองทัพวิหารเอ็มบินยูเข้าใกล้ก็ตาม
“ท่านวีดจะใช้อะไรกำจัดพวกมันกันนะ?
มันต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ”
“แน่นอน
ฉันละอยากเห็นพวกมันถูกกวาดล้างไปที่เดียวให้หมดเลย”
ช่างเป็นเรื่องยากที่จะได้เผชิญหน้าช่วงเวลาที่น่าหวั่นเกรงเช่นนี้ภายในรอยัลโร้ดโดยไม่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไป
เหล่าสาวกวิหารเอ็มบินยูเริ่มหน้าตรงตั้งเป้าไปที่ปราสาทเบอร์เนิร์ด
เสียงกรีดร้องขับกล่อมพร้อมถ้อยเสียงพึมพำสวดมนต์ชวนขนลุกที่พวกเขาเปล่งให้กับเทพเอ็มบินยูดังออกมา
สังหารแด่องค์เทพเอ็มบินยู
สังเวยซากศพเราด้วยความปีติยินดี
วจนะแห่งเทพเอ็มบินยูตรัสต่อเราเพื่อผลาญโลกจนย่อยยับ
กวาดล้างจนหมดสิ้น
จากนั้นพวกปีศาจก็เอาอาวุธปิดล้อมขนาดใหญ่ของพวกมันออกมา
“เมื่อไหร่ท่านวีดจะมา? อีกไม่ถึง 30 นาทีเจ้าพวกนั้นก็จะมาถึงแล้วนะ”
“เขาไม่ใช่พวกอัจฉริยะหรอกหรอ?
ดูเขาทำตอนออกอากาศครั้งที่แล้วสิ”
“มาสายดีกว่าไม่มานะ”
“บางทีช่วงเวลาเหมาะๆมั้ง?
เขามักจะปรากฏตัวแบบเซอร์ไพร์ตลอดเลยนิ”
เหล่าผู้เล่นต่างเตรียมพร้อมกับป้องกันปิดล้อมพร้อมกับเหล่าทหาร
พวกเขาอยู่ภายในปราสาทเบอร์เนิร์ดเพราะงั้นพวกเขาจึงต้องสู้หากต้องการมีชีวิตรอดไปได้
กองทัพวิหารเอ็มบินยูกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้ว
พวกมันเดินขบวนทัพมาตั้งแต่ไกลทว่าเมื่อดูจากพลังของพวกไฮพรีสจึงดูไม่ธรรมดาเลย
“อีกนานแค่ไหนนะกว่าเขาจะมา?
ถ้าเขาไม่มาพวกเราคงตายอย่างสูญเปล่า”
“เขาต้องมาแน่ ถ้าเขาไม่มาฉันจะสาปแช่งเขาไปจนตาย”
ความหวั่นวิตกของพวกเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นทวีคูณ
และทันใดนั้นก็มีบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นเหนือทะเล
มันทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือผืนน้ำ
“นั่นมันอะไรน่ะ?”
“สะ สุดยอด!”
เหล่าผู้เล่นพากันรวมตัวอยู่ที่กำแพงเมือง
นั่นเป็นเพราะว่าที่นั่นเป็นที่ที่พวกเขาสามารถมองเห็นพายุหมุนทั้ง 12
ลูกที่เคลื่อนตัวจากทะเลมาที่พื้นดินได้อย่างชัดเจน
ถ้าหากพวกผู้เล่นนั้นตายไปและกลายเป็นเครื่องสังเวยก็คงเพราะมาเพียงเพื่อเห็นลมพายุหมุนนี้เท่านั้น!
เบี้องหน้าพายุหมุนนั้นมีวีดที่ขี่อยู่บนเจ้าปิงหลงที่กำลังร้องโอดครวญด้วยความเสียใจ
“นายท่าน
ทำไมครั้งนี้ต้องเป็นข้าด้วยละ?”
“เจ้าไวทรีมันหนีไปนะสิ!”
เจ้าไวทรีไม่ได้มาพบเขาตามที่นัดหมายเพราะงั้นเขาถึงได้มาช้า
ปิงหลงบินไปด้วยกำลังทั้งหมดของมันขณะที่ลมพายุหมุนวนอย่างบ้าคลั่งด้านหลังของมัน
พายุหมุนทั้ง 12 ลูกเคลื่อนตัวไปและผสานกันในบางครั้ง และในบางทีก็จะกลายเป็นลูกใหญ่ขนาดที่เหนือจินตนาการ
ใหญ่จนถึงขนาดที่สามารถเห็นก้นทะเลได้เลยด้วยซ้ำ
พลังทำลายล้างของพายุหมุนครั้งนี้คงจะมากพอที่จะฉีกปิงหลงเป็นชิ้นๆจนไม่เหลือซาก
“นายท่าน
ในตอนนี้ข้ามีความสุขที่ได้อยู่กับท่าน ได้โปรดจัดงานศพให้ข้าด้วยหากข้าตายไป”
ปิงหลงผู้หวาดกลัวบินไปด้วยกำลังทั้งหมดของเขาพลางทิ้งคำสั่งเสียเอาไว้ด้วย
พายุหมุนพวกนั้นช่างน่าหวั่นเกรง
วีดลองนึกย้อนกลับไปว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาใช้เวลากับเจ้าปิงหลง
“ไม่ต้องห่วง
เดี๋ยวฉันจะเตรียมถั่วแดงเอาไว้”
“ทำไมท่านต้องเอาถั่วแดงมาด้วยละ?”
“ฉันจะไม่ส่งแกไปแบบสูญเปล่าหรอก
ฉันต้องแยกส่วนที่เป็นประโยชน์ออกแล้วเอามันไปขายด้วย”
วีดต้องการที่จะทำธุรกิจขายน้ำแข็งใส
“โควกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
ในทีสุดวีดและปิงหลงก็ได้มาถึงพร้อมกับพายุหมุนแล้ว
“โห สุดยอด”
“ท่านวีด ข้ากำลังรอท่านอยู่เลยครับ!”
“ฮะฮ๊า! คุ้มจริงๆที่ได้มา”
มีผู้คนนับร้อยอยู่บนเนินหินใกล้ๆชายฝั่ง
พวกเขาไม่ยอมไปไหนแม้ว่าจะมีพวกวิหารเอ็มบินยูอยู่ใกล้ๆได้แต่ตั้งตารอให้วีดมาถึง
เลเวลของพวกเขาก็ค่อนข้างสูงพอควร ทว่าอุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขาต่างหากละที่สำคัญ ผู้เล่นเหล่านี้ปรารถนาที่จะได้รับประสบการณ์เจ๋งๆจากความตายท่ามกลางภัยพิบัติในครั้งนี้
“ตัวข้ากำลังลอยแล้ว”
“ฮะฮ๊า เจ๋งสุดยอด!”
“โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!”
สายลมอันน่าพรั่นพรึงดูดร่างของเหล่าผู้เล่นและกระหน่ำจู่โจมใส่กองทัพวิหารเอ็มบินยู
กรีซซซซซซซซซซซซซซ!
เหล่าปีศาจร้องโหยหวนขณะที่พวกมันถูกดึงขึ้นไปในอากาศ
พายุหมุนผ่านเข้ามาถึงผืนดินแล้วพร้อมกับถอนรากต้นไม้ใหญ่ไปตามทาง
แม้ว่าพวกปีศาจเหล่านั้นจะฝังเท้าพวกมันลงไปในพื้นลึกแค่ไหนหรือว่าพยายามดึงร่างกายยึดไว้แค่ไหนก็ยังต้องถูกกระชากไปพร้อมกับสายลมนั้น
พายุหมุนทั้ง 12 ลูกรุดหน้าไปทางกองทัพวิหารเอ็มบินยูและเหลือทิ้งไว้แต่ความพินาศ
ซูมมมมมมมมม!
พายุงวงช้างขนาดมหึมาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
แล้วกระแทกลงสู่พื้นดินรุนแรงพร้อมกับกวาดพวกคลั่งลัทธิ อัศวินทมิฬ หรือแม้แต่พวกนักบวชไปจนหมด
ลมหมุนอันแสนบ้างคลั่งเหล่านั้นเชื่อมต่อกันและรวมตัวกันจนกลายเป็นพลังทำลายล้างที่น่าพรั่นพรึงอย่างแท้จริง
อาวุธปิดล้อมมากมายถูกฉีกกระชากจนไม่เหลือชิ้นดีและบางส่วนก็ตกลงสู่ท้องทะเลไป
โล่เหล็กทั้งหลายก็ไม่อาจหยุดสายลมนี้เอาไว้ได้
ในยามที่เหล่าสาวกคลั่งลัทธิถูกดูดหายไปในวังวน
เหล่าผู้เล่นที่มายังเบอร์เนิร์ดต่างพากันรู้สึกขนลุกไปตามๆกัน
“นี่มันไม่ขำแล้ว”
“โห น่ากลัวชะมัด”
“อย่างกับฝันไปเลยแหะ”
มันช่างเป็นภาพที่ชวนตะลึงมากที่มีวีดผู้ที่กำลังขี่ปิงหลงบินผ่านกองทัพวิหารเอ็มบินยูพร้อมกับลมพายุหมุนตามหลังเขามา
เป็นเสน่ห์ที่แม้แต่เหล่าผู้เล่นเลเวลสูงก็ยังต้องคารวะให้
“ในรอยัลโร้ดมีเพียงผู้เล่นระดับสูงสุดเท่านั้นแหละ
ถึงจะมีความสามารถระดับนี้”
“นี่คงกลายเป็นตำนานไปแล้วมั้ง?
ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
“มันยากจริงๆที่พวกนักเวทย์จะเชี่ยวชาญเวทย์ลมแล้วยังต้องเพิ่มทักษะให้ได้ระดับนี้ด้วย”
เหล่าผู้เล่นต่างรู้สึกชื่นชมในพลังทำลายล้างของวีด
“ปิงหลง
ถ้ายังเป็นยังงี้พวกเราได้เดี้ยงแน่ บินเร็วกว่านี้อีกสิเว้ย”
“สุดแล้ว....ข้าทำดีที่สุดแล้วครับ”
ปิงหลงนั้นมีขนาดใหญ่มากและก็ช่วยไม่ได้ที่มันจะได้รับผลจากพายุหมุนเป็นอย่างมาก
แม้ว่ามันจะตะบี้ตะบันบินด้วยกำลังทั้งหมดให้เร็วแค่ไหน
พายุหมุนนั้นก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากไปอีก พลังของพายุหมุนนั้นรุนแรงมากจนผู้เล่นที่อยู่ภายในปราสาทเบอร์เนิร์ดถูกผลักไปจนแทบยืนไม่อยู่
วีดหันกลับไปมองพายุหมุน
“ปิงหลง”
“ครับ นายท่าน”
“ฉันมีข่าวร้ายแล้วก็ข่าวดี
อยากได้ยินข่าวไหนก่อน”
“ข่าวดีครับ”
“พายุหมุนลดเหลือ 8 ลูกแล้ว”
“ดีจัง”
“แล้วข่าวร้ายก็คือพวกมันรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม”
“นั่นไม่ใช่ข่าวดีซักนิดเลยนะครับ”
“แต่แกก็สบายใจอยู่แปบนึงหลังจากได้ยินข่าวดีนิ”
“......”
พายุหมุน 4 ลูกทะลุทะลองผสานเข้าด้วยกันกับพายุลูกอื่นๆแล้ว
พลังของมันก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก 4 ลูกใหญ่และ4 ลูกเล็กกำลังไล่ตามมาจากด้านหลัง
ขบวนกองทัพของวิหารเอ็มบินยูหายไปจนหมดสิ้นเพราะแรงพายุ
การต่อกรกับลมพายุอันแสนรุนแรงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
จนทำให้เหล่าวิหารเอ็มบินยูกลายเป็นเครื่องเซ่นสังเวยให้กับพายุหมุนไปจนหมด
เหล่าปีศาจ สาวกคลั่งลัทธิ และอัศวินทมิฬเองก็กำลังลอยละล่องไปในอากาศพร้อมกับปิงหลง
พวกเขาถูกเหวี่ยงไปทั่วด้วยแรงพายุ
เพียงแค่พวกเขาตกจากที่สูงนั่นก็แทบจะสูบพลังชีวิตของพวกเขาไปจนหมดแล้ว
สิ่งที่น่าพรั่นพรึงยิ่งกว่าคือการติดอยู่ในใจกลางวังวนของพายุหมุนนั้น
ระยะทางระหว่างพายุแต่ละลูกนั้นค่อนข้างกว้างเพราะงั้นถึงได้มีหลายอย่างถูกดึงเข้าไปในพายุนั้น
ไม่ว่าจะเป็นไม้ หิน ต้นไม้ น้ำ ต่างก็ผสมปนเปไปพร้อมกับเหล่าอัศวินทมิฬ
ปีศาจและเหล่าสาวกคลั่งลัทธิ
“เราจะโดนดึงเข้าไปแล้ว บินให้เร็วกว่านี้ไม่ได้หรอ?”
“นี่เร็วก็สุดที่ข้าทำได้แล้วครับ”
“คงไม่หรอก”
จากพลังของทักษะมหาภัยพิบัตินั้นก็ได้บอกเขาแล้วว่าจะต้องไม่ติดร่างแหเข้าไปเด็ดขาด
ภัยพิบัติจำพวกแผ่นดินถล่มหรือหน้าผาถล่มนั้นเป็นสิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ทว่าพายุหมุนนั้นกลับต่างออกไป
มันเป็นภัยพิบัติที่สามารถทำให้บ้านไม้ทั้งหลังหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนอากาศยังสามารถถูกอัดจนกลายเป็นเศษก้อนกรวดได้ในพริบตาด้วยแรงอัดอากาศ
“ภัยพิบัตินี้คงอยู่ไม่นานนักหรอก
ปิงหลงเตรียมบินกลับ!”
เจ้าปิงหลงเชื่อฟังคำสั่งของวีดแล้วค่อยๆลดความเร็วลง
สัญชาตญาณของมันบอกให้บินต่อไป แต่เจ้าปิงหลงก็ยังหายใจเข้าและค่อยๆลดความเร็วแล้วบินหันกลับไป
เขาเชื่อมั่นในตัววีดหลังจากความสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างด้วยกันมา
ทันทีที่เขาชะลอความเร็วลง เจ้าปิงหลงก็รู้สึกได้ถึงแรงดูดของพายุหมุนทันที
“เดี๋ยวก่อน …….ตอนนี้แหละ....ยิงเลย!”
ลมหายใจเยือกแข็งถูกปล่อยออกมาจากปากเจ้าปิงหลงปะทะเข้าใส่พายุหมุน
พายุหมุนเหล่านั้นผ่อนแรงลงไปชั่วครูแต่ก็ได้เพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น
จากนั้นมันก็เริ่มหมุนและฉีกกระชากน้ำแข็งนั้นในทันที
และตอนนี้มันยิ่งเหมือนพายุน้ำแข็งยิ่งกว่าพายุหมุนทั่วๆไป
จากนั้นการเคลื่อนที่ของลมก็หยุดลงจนเหลือแค่พายุหมุนลูกยักษ์ที่รวมเข้าหากัน
สายตาของปิงหลงเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจขณะที่มองไปที่พายุหมุนลูกนั้น
พายุหลายลูกที่ผสานเข้าหากันและกันเริ่มขยายขนาดมากขึ้น
“ปิงหลง บินไป!”
เจ้าปิงหลงยินดีอย่างมากที่ได้รับคำสั่งเช่นนั้น
วีดและปิงหลงหนีออกไปจากลมพายุอันบ้างคลั่งแล้วบินไปทางกองทัพวิหารเอ็มบินยูที่เหลืออยู่
พายุหมุนนั้นมีซากศพลอยล่องเต็มไปหมด
ส่วนเศษซากที่ถูกทำลายก็กระจัดกระจายอยู่หน้าปราสาทเบอร์เนิร์ด
แล้วจากนั้นพายุลูกนั้นก็สลายหายไปในที่สุด
กองทัพวิหารเอ็มบินยูร่วงหล่นลงจากท้องสู่พื้นดิน
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!
“สรร...เสริญ....เทพ.....เอ็มม...บินยู”
เหล่าปีศาจและสาวกคลั่งลัทธิต่างกระจัดกระจายไปทั่ว
กองทัพวิหารเอ็มบินยูได้รับความเสียหายมากกว่า 20% อัศวินทมิฬและนักบวชที่ติดอยู่ในพายุตายไปเกือบทั้งหมด
แม้ว่าพวกปีศาจและสาวกลัทธิจะไม่ได้รับความเสียหายมากนักแต่ขวัญกำลังใจพวกเขาก็ต่ำถึงขีดสุด
เหล่านักบวชชั้นสูงของเอ็มบินยูล่าถอยกลับไปพร้อมกับอัศวินทมิฬบางส่วนในตอนที่ภัยพิบัติเข้ามาถึง
พวกเอ็มบินยูไม่ได้มีสปิริตของการเสียสละเหมือนกับพวกอัศวินองครักษ์
กองทัพระดับสูงนั้นยังปลอดภัยกันดีอยู่ทว่าความเสียหายที่ได้รับนี้ทำให้ระบบการสั่งการพังทลายลงไป
ขวัญกำลังใจซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสู้รบและกองกำลังได้ลอยละลิ่วหายไปตามสายลมที่พัดมา
วีดขี่ปิงหลงบินไปทางปราสาทเบอร์เนิร์ดและปลดใช้ทักษะราชสีห์คำราม
“ไปกันเถอะพวกเรา! เราจะต้องชนะศึกครั้งนี้!”
ปราสาทเบอร์เนิร์ดปกครองโดยลอร์ดที่เป็นNPC
วีดไม่ใช่กษัตริย์ภายในดินแดนทางตอนกลางเพราะงั้นเขาถึงไม่มีอำนาจ
ทว่าเขาได้แสดงถึงพลังและความเป็นผู้นำของเขาออกไปแล้ว
“เปิดประตู!”
ประตูถูกเปิดออกด้วยคำสั่งของลอร์ด
จากนั้นพวกผู้เล่นก็กรูกันออกไปเพื่อต่อสู้กับวิหารเอ็มบินยู
ยังมีหนทางที่ยังสามารถต่อสู้และปกป้องปราสาทเอาไว้ได้
ยิ่งศัตรูที่ยังไม่สามารถตอบโต้กลับได้อย่างเต็มที่ก็ยิ่งเป็นผลดีที่จะเข้าไปโจมตีพวกเขาตรงๆ
มีอัศวินทมิฬและนักบวชชั้นสูงหลงเหลืออยู่บ้าง
ทว่าศึกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับศึกข้างเดียว นับตั้งแต่ที่วีด ฟีนิกซ์ วิหคทอง
วิหคเงิน และบาฮามอร์คปรากฏตัวออกมา
“กร๊ากกกกกกก”
ส่วนเจ้าไวทรีที่มาสายก็พึ่งบินร่อนลงมาจากท้องฟ้า
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
กองทัพของวิหารเอ็มบินยูได้รับความเสียหายอย่างมาก
ทว่ากำลังรบหลักที่มีอัศวินทมิฬและนักบวชชั้นสูงก็ยังอยู่ดีเพราะพวกเขาล่าถอยออกมาได้ทัน
ส่วนพวกสาวกลัทธิและปีศาจที่พยายามที่จะตอบโต้วีด ประติมากรรมสลักชีพของเขา
และเหล่าผู้เล่นของปราสาทเบอร์เนิร์ดก็ต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด
กองกำลังหลักล่าถอยออกมาทันทีที่สถานการณ์ไม่สู้ดี
แต่ว่ายังไงศึกนี้ก็เป็นศึกที่ใหญ่จึงทำให้ผู้คนได้รับค่าชื่อเสียง ของลูท
ค่าสถานะและค่าความสำเร็จมามากมาย
“ท่านวีด ข้าต้องขอบคุณมากครับ”
“ข้าซึ้งใจจริงๆ”
วีดรีบขึ้นไปอยู่บนปิงหลงและบินลับหายไปจากสายตา
เหล่าผู้เล่นไม่อาจลืมความทรงจำตอนที่ปีกอันแสนวิเศษของปิงหลงสยายออกตอนนั้นได้เลย
มหาภัยพิบัติครั้งที่สามของเขาถูกใช้ในราชอาณาจักรโรเซนไฮม์
ภายในราชอาณาจักรโรเซนไฮม์มีหลายพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของวิหารเอ็มบินยู
ขณะที่เขากำลังเสาะหาทำเลเหมาะๆ
เขาก็พบเข้ากับป้อมปราการที่พวกวิหารเอ็มบินยูสร้างขึ้น!
อาหารและอาวุธจำนวนมหาศาลถูกกักตุนเอาไว้ภายในป้อมปราการ
“มีกองทัพอย่างน้อยก็ 70,000 กอง แถมยังสร้างอาวุธปิดล้อมเอาไว้เยอะซะด้วยแหะ”
คงจะพูดได้ว่าที่นี่คือที่มั่นสำคัญของวิหารเอ็มบิยูที่จะเข้ายึดครองโรเซไฮม์โดยสมบูรณ์
วีดตัดสินใจที่จะทำลายที่นี่ในขณะที่เจ้าไวทรีกำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“ฉันเคยทำเรื่องแย่ๆมานักต่อนักแล้ว
แต่นี่มันก็แค่น้ำจิ้มเท่านั้นแหละ”
เขาแกะสลักภัยพิบัติอีกสองสามอย่าง
ในครั้งนี้ความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะงั้นวีดถึงได้เตรียมบางอย่างที่เหมาะสมเอาไว้แล้ว
“มันสวยอย่างที่คิดไว้เลย”
วีดขี่ไวทรีและบินขึ้นไปเหนือป้อมปราการ
มันจะต้องถูกออกอากาศทางสถานี
KMC และ CTS
แน่ๆ เพราะงั้นสภาพอากาศที่เหมาะสมถึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง
“เราต้องใช้ความโด่งดังของวีด”
บรรดาสถานีออกอากาศทั้งหลายต้องการให้เขาร้องเพลง
เหตุผลก็เพราะว่ามีผู้รับชมมากมายต่างให้ความสนใจมัน ทว่าวีดก็ปฏิเสธออกไป
เขาจะไม่ยอมร้องเพลงออกมาหากเวทีนั้นไม่ใช่การต่อสู้ครั้งใหญ่
“ผมจะไม่ยอมร้องเพลงอันแสนมีค่าของผมแบบเรื่อยเปื่อยหรอกนะครับ”
ขณะนั้น เหล่ามดยักษ์กินไม้กินหินกินเหล็กไปทั่วป้อมปราการ
เหล่าปีศาจและสาวกลัทธิที่อยู่ภายในป้อมปราการเองก็พยายามกระเสือกกระสนดิ้นรนต่อสู้ด้วยเช่นกัน
สิ่งก่อสร้างพังทลายขณะที่เปลวเพลิงลุกโหมกระหน่ำ
ถึงอย่างไรก็ตามมดยักษ์พวกนั้นก็คืบคลานออกมาจากพื้นแบบไม่หยุด
เล็ดลอดออกมาจากช่องประตูดูน่าขนพองสยองกล้าว
พวกมันมีปีกเล็กกระจ้อยร่อยที่บินไปได้แค่ 4-5 เมตรเท่านั้นในแต่ละครั้ง ณ
พื้นที่ราบกว้างนี้ กว้างถึงขนาดที่พวกเขาจะสามารถใช้เวทย์ไฟก็ยังได้
ทว่าป้อมปราการนั้นเป็นสภาพแวดล้อมแบบปิดกั้น
มันจึงกลายเป็นพื้นที่ทำเลทองสำหรับพวกมดยักษ์เหล่านั้น
เหล่ามอนสเตอร์พยายามคลานออกมาจากช่องว่างหรือว่ารูของสิ่งก่อสร้าง
ขณะที่พวกมดยักษ์เริ่มกัดกินเสบียงและแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้อาวุธต่อกรกับพวกมันได้
สิ่งก่อสร้างบ้านพักได้รับความเสียหายรุนแรงส่วนพวกสาวกลัทธิก็ตายไปมากมาย
แม้ว่ามันจะดูโหดร้าย
ก็กลับไม่ได้หยุดอยู่แค่ภัยพิบัติแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
จนบัดเดี๋ยวนี้วีดเคยใช้ภัยพิบัติมามากมายหลายอย่างที่เป็นภัยพิบัติแบบอาศัยสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
ทว่าภัยพิบัติครั้งนี้นั้นกลับเป็นสิ่งมีชีวิตแทน
มดแดงยักษ์กัดเพดานจนเป็นรูและวางไข่เอาไว้มากมาย
ไข่พวกนั้น
อาจสามารถฟักออกมาเป็นมดเด็กได้แล้วภัยพิบัติแบบนี้ก็คงจะซ้ำรอยอีกครั้ง
“ขนาดบ้านที่ฉันเคยอยู่เมื่อก่อนนี้ยังมีปัญหาเรื่องมดเลย”
วีดนึดถึงบ้านที่เขาเคยเช่าอยู่ตอนที่ยังเป็นเด็ก
ถ้าหากว่าเขาทำนมหกแม้ซักหยดเดียวก็มักจะถูกพวกมดรบกวนในทันที
ถึงขนาดว่าเปิดฝาน้ำอัดลมไว้แค่แปบเดียวก็มีมดมารุมทึ้งแล้ว
ถ้าพวกมดได้โตขึ้นมาอย่างดีแล้ว ก็จะกลายเป็ฯเรื่องยากไปในทันทีที่จะกำจัดพวกมัน
พื้นที่นั้นก็จะเต็มไปด้วยมดฝูงใหญ่ในทันที
“แม้ว่าพวกมดจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนมนุษย์
แต่ถ้าหากว่าไม่เหลืออาหารเอาไว้ในบ้านให้พวกมันแล้วละก็
พวกมันก็จะพยายามกัดกินเนื้อเข้าไปแทน”
ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้วีดหวนนึกถึงความทรงจำแย่ๆเมื่อครั้นอดีต
นี่แหละคือพลังของประสบการณ์!
แล้วป้อมปราการแอลเลซ่าก็หายไปตลอดกาล
ตรื้ง!
-ท่านคือผู้ที่เป็นส่วนสำคัญในการโจมตีวิหารเอ็มบินยูอย่างต่อเนื่อง
วิหารเอ็มบินยูที่กระจายอยู่ทั่วทวีปคือวายร้าย!
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีนี้มิอาจคาดการณ์ได้
และเหล่าศัตรูก็คงยากที่ฟื้นตัวได้ง่าย
ท่านได้ปกป้องความสันติสุขของทวีป
ศาสนจักรและอาณาจักรทั้งหลายต่างชื่นชมในวีรกรรมของประติมากรผู้นี้
|
-ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 3 หน่วย
-เสน่ห์เพิ่มขึ้น 4160 หน่วย
-จิตวิญญาณนักสู้เพิ่มขึ้น 4 หน่วย
-ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขี้น 11
หน่วย
-ความสำเร็จทางศาสนาและราชอาณาจักรที่ได้ประกาศสงครามกับเอ็มบินยูเพิ่มขึ้น
2190 หน่วย
|
ฉายา:
ได้รับฉายา ‘วีรบุรุษผู้กอบกู้ทวีป’
ฉายานี้จะมอบให้กับผู้ที่ได้รับความสำเร็จสูงสุดบนทวีปเวอร์เซล
ท่านสามารถรับสมัครทหารเพื่อนำไปต่อกรกับวิหารเอ็มบินยูได้
อัศวินองครักษ์ อัศวินอิสระ และพาลาดินจะน้อมรับคำบัญชาจากท่าน
นี่คือครั้งแรกที่ได้มอบฉายา
วีรบุรุษผู้กอบกู้ทวีปเวอร์เซล หากมีคนอื่นสามารถสร้างความสำเร็จได้มากกว่าท่าน
ท่านจะสูญเสียฉายานี้ไป
ขณะที่ฉายายังอยู่
ชาวเมืองทุกคนจะรู้จักท่านเป็นอย่างดี
ท่านจะได้รับความเคารพจากชาวเมืองทุกคน
ผลจากค่าความเป็นผู้นำและอำนาจบารมีในการต่อสู้จะเพิ่มขึ้น
27%
ได้รับเกียรติยศสูงสุด
โชคดีเพิ่มขึ้น 45 หน่วย
|
วีดได้รับรางวัลใหญ่จากการทำภารกิจที่เกี่ยวกับภัยพิบัติในครั้งนี้
“ฉันต้องกลับไปรายงานภารกิจ ไวทรี
ไปกันเถอะ”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ขณะที่ราชวังกำลังก่อสร้าง
กิลด์เฮอร์มีสก็กำลังบริหารการจัดการภายในสำหรับพื้นที่ใหม่ที่พวกเขายึดครองมาได้
พวกลอร์ดได้รับมอบหมายให้สร้างถนนที่เชื่อมต่อแต่ละสถานที่เข้าไปที่จักรวรรดิ
ไร่นาพื้นที่เกษตรกรรมก็ขยายออกไป พื้นที่เมืองก็ถูกพัฒนา
เหมืองแร่ก็ถูกสร้างขึ้นเช่นกัน
ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด
สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเขาก็คือการขยายกำลังทางทหาร อัศวินก็ทยอยเกณฑ์ทหาร
ส่วนเหล่าผู้บัญชาการทั้งหลายก็ออกไปกวาดล้างมอนสเตอร์
มีเพียงผู้นำระดับสูงจำนวนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้รู้แผนการรบของกิลด์เฮอร์มีส
“เราต้องรีบยึดครองทั้งทวีปให้ได้
จะไม่มีการพักรบอีกต่อไปแล้ว”
“เราจะฝึกพวกนักธนูใกล้เสร็จแล้วครับ
แต่หน่วยนักเวทย์ยังมีปัญหาอยู่......”
“โครบินยุนเป็นคนดูแลไม่ใช่หรอ?”
“เราต้องการเวลาอีกนิดเพื่อเพิ่มความสามารถพวกชาวเมือง
แต่ถึงยังไงพวกนักเวทย์ในตอนนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว”
กิลด์เฮอร์มีสมีกลยุทธ์ในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับพวกนักเวทย์
ถึงแม้ว่ามันจะมีราคาค่อนข้างแพงแต่มันก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความสามารถของกิลด์
พวกเขายังลงทุนในการค้นคว้าและพัฒนาอีกด้วย
พวกเขาสอนให้ชาวเมืองเก่งขึ้นและสร้างหน่วยรบนักเวทย์ขึ้น
กิลด์เฮอร์มีสที่สถาปนาจักรวรรดิฮาเว่นขึ้นเตรียมตัวที่จะพิชิตราชอาณาจักรทั่วทวีป
พวกเขาไม่ยอมหยุดและเตรียมพร้อมกองกำลังขึ้นมาอย่างดี
“วีดสร้างวีรกรรมออกมาอีกแล้ว”
บรรดาชาวเมืองของจักรวรรดิฮาเว่นพากันพูดถึงวีดทุกวี่ทุกวัน
ส่วนพวกพ่อค้าที่มาทำการค้าขายภายในตลาดหรือพวกคนงานที่อยู่ภายในร้านเหล้าก็พากันแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของวีดที่ต่อกรกับวิหารเอ็มบินยูไปทั่ว
วีดถูกเรียกว่าเป็น วีรบุรุษของทวีปเพราะงั้นเหล่ากิลด์เฮอรมีสถึงไม่ค่อยชอบใจนัก
“ดูเหมือนว่าเขาคงกำลังทำภารกิจปรมาจารย์ของประติมากรอยู่
ท่านบาร์ดเรย์ ท่านอยากจะพูดอะไรเรื่องนี้หน่อยไหมครับ?”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด
ตอนนี้ไม่ใช้เวลามาจัดการมัน”
“มันเป็นตัวการที่ก่อปัญหาให้กับกิลด์เราเลยนะครับ
คงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะปล่อยมันไปแบบนี้”
ผู้นำกิลด์ระดับสูงสองสามคนค้านหัวชนฝาเกี่ยวกับการจัดการเรื่องวีด
วีดได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับศักดิ์ศรีของกิลด์เฮฮร์มีสมามากมายหลายครั้ง ตั้งแต่ที่จักรวรรดิฮาเว่นได้ถูกสถาปนาขึ้นพวกเขาจึงอยากจะเกียรติและศักดิ์ศรีของพวกเขาคืนมา
บาร์ดเรย์ได้ล้างแค้นวีดตั้งแต่ที่อยู่เหมืองเมลเบิร์นแล้ว
เพราะงั้นลาฟาเย่ถึงได้พิจารณาเรื่องของเขาเป็นแค่ปัญหารองเมื่อเทียบกับพวกกิลด์อื่นๆในทวีป
“หยุดได้แล้ว
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากังวลเรื่องวีดนะ แล้วเรื่องภารกิจปรมาจารย์หล่ะ? จะไม่สนใจเรื่องนั้นแล้วหรือไง
ถ้าวีดเป็นคนแรกที่ทำสำเร็จมันคงซื้อใจคนได้มากเลยนะ เป้าหมายของเราคือพิชิตทวีปนี้
และเราต้องมีสมาธิกับเรื่องนี้เท่านั้น”
“เข้าใจแล้วครับ”
ลาฟาเย่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามเพื่อครองทวีป
จึงได้ตัดสินใจที่จะเพิกเฉยเรื่องวีดไปก่อนในตอนนี้
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดมาถึงสเตลล่า เทีย ภายในเมืองโรเดียมเพื่อรายงานภารกิจ
“เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย”
“แน่นอน ข้าได้กอบกู้สันติสุขให้กับทวีปแล้วในฐานะประติมากร
และก็กลับมาอย่างปลอดภัย”
“คงจะหนักหนาและอันตรายมากแน่ๆ”
“ไม่เลยครับ ข้าก็แค่ทำตามใจสั่งว่านั่นคือสิ่งที่คุ้มค่า
ภารกิจของข้าก็คือช่วยเหลือผู้คนที่ถูกกดขี่โดยพวกวิหารเอ็มบินยู”
ตริ้ง!
-สำเร็จภารกิจชำระล้างความโกลาหลของทวีปด้วยภัยพิบัติ
เหล่าสาวกวิหารเอ็มบินยู ณ
ป้อมปราการโอดิน ปราสาทเบอร์เนิร์ด และป้อมปราการแอลเลซ่า ได้รับความรวดร้าวจากมหาภัยพิบัติแล้ว
ผู้คนภายในทวีปจะรู้จักวีรกรรมของวีด
วิหารเอ็มบินยูที่ไล่ต้อนผู้คนด้วยคำลวงและความหวาดกลัวโดนขัดขวางไว้ได้แล้ว
-เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
-ความเชี่ยนชาญทักษะแกะสลักเพิ่มขึ้น
-ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1618
หน่วย
-ความสำเร็จในการแผ่ขยายอำนาจของวิหารเอ็มบินยูลดลง
32%
|
“ข้าจะบอกเจ้าเกี่ยวกับความงามอันเจิดจรัส”
“ข้าฟังอยู่”
“มีเส้นทางมากมายให้ออกค้นหา
เพราะงั้นเหล่าประติมากรถึงได้มีความคิดเห็นขัดแย้งกันอยู่บ่อยๆขณะที่พูดคุยสังสรรค์กัน”
“......”
และเขาก็จำต้องทนฟังเรื่องราวต่างๆนานาเป็นเวลานาน
ประติมากรบางคนก็นิสัยแย่ ส่วนคนอื่นๆก็ขี้เมา
วีดจำข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้ยินได้แม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรนัก
เพราะว่าข้อมูลบางอย่างนั้นก็อาจจะเป็นเงื่อนงำเมื่อเขาต้องไปเผชิญกับภารกิจโหดหินนั้น
‘ดื่มเหล้าแล้วก็ถกเถียงกัน
เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆด้วย แถมยังขายประติมากรรมเอาไปใช้หนี้อีก.....
มีประติมากรหลายแบบจริงๆที่พยายามแกะสลักความงามอันเจิดจรัสนี้’
จากนั้นวีดก็สรุปเรื่องราวว่าอะไรคือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำ
“เจ้าต้องไม่ยอมแพ้ที่จะพยายามแสดงความงามอันเจิดจรัสออกมา
เจ้าต้องเดินหน้าต่อไปแม้ว่าจะมีอุปสรรคบนทวีปมาขวางกั้น
มันจะช่วยได้อย่างมากหากเจ้าเรียนรู้ที่จะโอนอ่อนไปพร้อมกับสายลมและคลื่นทะเล
แล้ววันเดือนปีที่.......”
“หือ?”
“มันอาจต้องใช้เวลาเนินนานเพื่อที่จะแกะสลักธรรมชาติของโลกนี้ขึ้นมาได้
หยาดเหงื่อต้องผ่านการทำงานที่ยากยาวนานที่สามารถแสดงออกมาทางถ้อยคำของประติมากรได้”
แม้แต่เนื้อไม้ของต้นไม้ที่โดนโค่นยังดูงดงามแล้วเมื่อเวลาผ่านพ้นไปก็จะมีกิ่งก้านแผ่สานออกมาอีกครั้ง
หยาดฝนที่พรุ่งพรูก็จะมารวมตัวที่หุบเขาแล้วเมื่อเวลาที่ผ่านพ้นไปก็จะกลับกลายเป็นน้ำตกอันชื่นช่ำ
มันคือความงดงามอันแสนเจิดจรัสของธรรมชาติที่แม้แต่ประติมากรก็ไม่อาจเทียบเคียงได้
“บางสิ่งบางอย่างที่ถูกสร้างมาต้องผ่านเวลายาวนานที่คงเรียกได้ว่าเป็น
ความมหัศจรรย์
เหล่าประติมากรต้องพากเพียรผ่านความยากลำบากเพื่อสรรสร้างความงดงามด้วยเช่นกัน
เจ้าเคยได้ยินหรือคุ้นเคยกับพวกภูติไหม”
“ก็นิดหน่อยครับ....ความสัมพันธ์เราไม่ค่อยดีนัก”
เขาเคยได้รับภารกิจที่เกี่ยวกับการเยียวยาปีกของราชินีภูติเทเนดอนที่โดนมังกรสาปเอาไว้
แต่ถึงยังไงความยากของภารกิจนั้นมันสูงมากแล้วก็ยังไม่ใช่ภารกิจที่เร่งรีบด้วย
เพราะงั้นเขาถึงไม่ได้รีบร้อนมากนัก
เขาเคยช่วยเหลือราชินีเทเนดอนด้วยการฆ่าบัลข่านเพราะงั้นพวกภูติถึงได้ยังคงรู้สึกขอบคุณเขาอยู่
บางครั้งพวกเขาก็จะปรากฏตัวออกมาในตอนที่เขาทำอาหารภายในดันเจี้ยน วีดรู้สึกพอใจที่ได้กินอาหารอร่อยๆ
ส่วนพวกภูติก็จะหายไปในตอนที่เขายอมแบ่งขนมปังบาร์เลย์ให้พวกเขาบ้าง
“แม้ว่าเจ้าจะรู้สึกหวั่นเกรงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
แต่ประติมากรรมชิ้นหนึ่งก็ยังต้องใช้เวลานานเพื่อสร้างมันอยู่ดี
เหล่าภูติสามารถช่วยเหลือเจ้าได้อย่างแน่นอน”
ตริ้ง!
ภารกิจ:
ดาบแห่งแสงที่ปัดเป่าทุกสิ่ง
ปรมาจารย์ประติมากร ซาฮับ
ได้ทิ้งทักษะเคล็ดลับมีดแกะสลักเอาไว้ มันเป็นเทคนิคที่สามารถใช้แสงจันทร์ปราบศัตรูได้!
ท่านได้พัฒนาทักษะมีดแกะสลักและยังได้เรียนรู้ทักษะเพลงดาบประกายแสง
เพิ่มพูนความเชี่ยวชาญทักษะเพลงดาบประกายแสงของท่านด้วยการมองดูสายลมและคลื่นทะเล
ยิ่งสายลมและคลื่นรุนแรงแค่ไหน ท่านก็จะได้รับประสบการณ์ได้เร็วมากเท่านั้น
ความเชี่ยวชาญบัดนี้ของท่านคือ
ขั้นต้อนเลเวล 6 ต้องเพิ่มขั้นให้ถึงขั้นสูงเลเวล 2 ให้ได้ภายใน 110 วัน
ระดับความยาก:
ภารกิจเทคนิคแกะสลักลับสุดท้าย
ข้อจำกัดของภารกิจ:
ต้องการทักษะเคล็ดลับมีดแกะสลักและทักษะเพลงดาบประกายแสง
ภารกิจจะล้มเหลวหากท่านจมน้ำตาย
|
ช่างเป็นภารกิจที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
ทว่าวีดก็เคยชินกับเรื่องแบบนี้ซะแล้วแหละหลังจากที่เขาฝึกกับพวกนักดาบมากหลายครั้งแล้ว
ทว่านี่ไม่ใช้เพียงแค่ภารกิจเดียวเท่านั้น
ตริ้ง!
ภารกิจ:
การแกะสลักที่ต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
ความงดงามมากมายภายในโลกมิได้เกิดขึ้นในเพียงข้ามคืน
จงทำประติมากรรมธรรมชาติ
หากสำเร็จแล้ว
เหล่าภูติจะไปรวมกันเพื่อหาท่านและมอบของขวัญให้
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่ประกอบด้วย
การแกะสลัก ภูติ และสถานที่ได้
ระดับความยาก:
ภารกิจเทคนิคแกะสลักลับสุดท้าย
ข้อจำกัดภารกิจ:
ทักษะแกะสลักธรรมชาติ
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเหล่าภูติ
ภารกิจจะล้มเหลวหากท่านตาย
|
เขาได้รับภารกิจจากราชินีภูติเทเนดอนมาแล้ว
แต่โชคดีที่ภารกิจของเขาคือสร้างเคล็ดลับแกะสลักลับซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงกันเลย
แต่ถ้าหากว่าเขาไม่ตัดสินใจในตอนนี้เขาก็คงพลาดโอกาสที่จะได้ภารกิจเทคนิคลับนั้น
“ก็คงต้องทำภารกิจที่ด่วนก่อน......ฉันต้องทำให้ทักษะถึงขั้นสูงเลเวล
2 ภายใน 110 วันให้ได้”
ความเชี่ยวชาญทักษะโจมตีเติบโตได้ง่ายกว่าทักษะดาบทั่วๆไป
แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะเพิ่มให้ได้แบบปุบปับ
“ถ้าทักษะเพลงดาบประกายแสงฉันสูงกว่านี้แล้วละก็
ไม่รู้เลยแหะว่าต้องเพิ่มเลเวลมันมากแค่ไหน
ถึงยังไงก็เถอะถ้าฉันใช้มันบ่อยๆซ้ำๆคงจะพอเพิ่มมันได้อยู่หรอกมั้ง”
ความคิดของวีดตอนนี้คือมุ่งหน้าไปที่ชายหาด
ชายหาดนี้ไม่ธรมมดาเลยเพราะชายหาดของแดนเหนือนั้นมีลมรุนแรงที่มีคลื่นซัดกระหน่ำ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
โดยปกติบรรดาผู้เล่นพ่อค้ามักจะมาที่ปราสาทเวนท์อยู่บ่อยๆ
แล้วราชอาณาจักรอาเพ่นก็ยิ่งขยายเติบโตมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“นี่มันของขึ้นชื่อของราชอาณาจักรอาเพ่นนี่!
สินค้าชั้นยอดจริงๆ
มีหลายคนกำลังตามหาอยู่เลยข้าอยากจะซื้อเอาไว้เยอะๆเลย”
“ในช่วงยุดของจักรวรรดินิฟล์เฮม
เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องมอนสเตอร์ เหมือนอย่างเราในตอนนี้เลย”
“ข้ารู้สึกขอบคุณราชาอาณาจักรอาเพนจริงๆที่ได้ปกครองดินแดนเหนือ
ทว่าเราเหล่าอัศวินก็ยังคงจงรักภักดีต่อจักรวรรดินิฟล์เฮมจนกว่าพวกเราจะตาย”
“อาหารจากโมร้าตาทั้งสดแล้วก็อร่อยมากจริงๆ
ที่นั่นก็โด่งดังเรื่องการเย็บผ้าด้วยนิ? ที่นั่นต้องมีเจ้าเมืองที่วิเศษมากแน่ๆ”
เหล่าชาวเมืองและนักล่าต่างรู้สึกประหลาดใจในตอนที่ได้ค้าขายกับเหล่าพ่อค้าที่เป็นผู้เล่นจากอาณาจักรอาเพน
เหล่าพ่อค้าตางรู้สึกพอใจกับเส้นทางการค้าของพวกเขาและเดินทางทั่วดินแดนเหนือด้วยความกระหายมากยิ่งขึ้น
พวกเขาจะขับรถม้าที่ลากเกวียนเพื่ออกตามหาหมู่บ้านแห่งใหม่ๆ
จนทำให้พวกเขาได้กลายเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางการค้าใหม่ๆ
นี่แหละคือขบวนการพ่อค้าแห่งเมืองโมราต้า!
บรรดาพ่อค้าที่ค้นพบหมู่บ้านและค้าขายได้ก็จะได้รับค่าประสบการณ์และเงินมากมาย
พวกเขาลงทุนเงินไปจำนวนมากที่ราชอาณาจักรอาเพนเพราะงั้นพวกเขาถึงได้ปรารถนาที่จะได้รับกำไรจากการกรรมสิทธิ์ค้าขายนั้นๆ
ทว่าสิ่งนี้เปลี่ยนไปตั้งแต่ที่กามองได้เปิดเส้นทางสู่ปราสาทเวนท์
‘ฉันจะกอบโกยคนเดียวคงไม่ไหว
ถึงแม้ว่าการผูกขาดของฉันจะจบลงไปตั้งแต่ที่พวกพ่อค้าเข้ามาแล้วก็เถอะ’
‘แต่ก็คงจะดีขึ้นแหละมั้งถ้าหมู่บ้านมันพัฒนาขึ้นนะ’
‘มีที่มากมายในแดนเหนือที่ถูกปิดเอาไว้พร้อมกับการพัฒนาที่นิ่งชะงัก
ถ้าหากพวกพ่อค้าเข้าไปได้ละก็การพัฒนานั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ’
ระดับของการค้านั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของหมู่บ้านและจำนวนประชากรภายในนั้น
“ข้ามาที่นี่เพื่ออาหารเจ้าอยากจะซื้อขายไหม?”
“แน่นอน! เจ้านำอาหารดีๆมาให้ตั้งเยอะ...แต่ก็อย่างที่เจ้าเห็น
หมู่บ้านของเรานั้นเก่าและก็คงไม่มีเงินให้แลกเปลี่ยนมากขนาดนั้น เจ้าจะยอมรับเขี้ยวของมอนสเอตร์หรือว่าหนังสัตว์แทนการจ่ายได้ไหมละ?”
“ได้สิ”
ตริ้ง!
-ณ
หมู่บ้านทัลลันได้ปรากฏเทศกาลขึ้น
มีอาหารนำเข้าจากพ่อค้าภายนอกมาค้าขาย
โกดังธัญญาหารที่ว่างเปล่าได้ถูกเติมเต็มแล้ว เหล่าชาวเมืองต่างรู้สึกโล่งใจ
ความสามารถในการผลิตของชาวเมืองเพิ่มขึ้น
300%
เป็นเวลา 1 เดือน
วัฒนธรรมและเทคโนโลยีของหมู่บ้านจะพัฒนาเร็วมากยิ่งขึ้นในระยะเวลาสั้น
ถ้าหากว่ามีเสบียงอาหารที่คงที่อัตราการให้กำเนิดของหมู่บ้านก็จะเพิ่มขึ้น
ไฟในตัวของเหล่าชาวเมืองได้ถูกจุดขึ้นแล้ว
อาคันตุกะสามารถมาเข้าร่วมและสนุกสนานไปกับงานเทศกาลได้
|
ขนมข้าวและข้าวสาลีที่เป็นของขึ้นชื่อของราชอาณาจักรอาเพนสามารถขายได้ภายในงานเทศกาลการเจริญเติบโตด้านการผลิตก็ดีขึ้น
เทคโนโลยีก็ได้รับการพัฒนา ส่วนอัตราการให้กำเนิดก็ดูน่าพอใจ
ตามหมู่บ้านทางตอนเหนือแถวธุรกันดารและตามภูเขาที่เคยมีมาตั้งแต่สมัยยุคจักรวรรดินิฟล์เฮม
ถ้ายิ่งมีประชากรเพิ่มมากขึ้นเท่าไรเหล่าพ่อค้าก็จะยิ่งค้าขายได้มากขึ้นเท่านั้น
แล้วถ้าหมู่บ้านที่เติบโตในเมืองใหญ่นั่นก็จะยิ่งทำให้มีสินค้าชั้นดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
หมู่บ้านที่ปลีกอยู่ตามภูเขาที่ยังไม่ถูกพวกมอนสเตอร์ทำลายก็จะพัฒนาได้ด้วยฝีมือของเหล่าพ่อค้า
ขณะที่วีดกำลังสรุปสถานการณ์ภายในเมืองโมราต้าและราชอาณาจักรอาเพน
เขาไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงภายในปราสาทเวนท์และแดนเหนือเลย
หมู่บ้านทางเหนือหลายแห่งถูกมอนสเตอร์ทำลายไปเพราะงั้นถึงๆได้มีคนจำนวนอาศัยอยู่ไม่มาก
จำนวนประชากรไม่ถึง 300 คนด้วยซ้ำ เพราะงั้นพวกผู้เล่นถึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
ที่แห่งนั้นก็เป็นแค่เพียงจุดพักผ่อนชั่วคราวขณะที่เดินทางสำรวจทวีป
ทว่าตอนนี้หมู่บ้านต่างๆกำลังเติบโตขึ้นด้วยน้ำมือของเหล่าพ่อค้าที่มาเยือนแล้วอิทธิพลของราชอาณาจักรอาเพนก็แผ่ขยายออกไป
และแผ่ขยายมากยิ่งขึ้นไปอีก
-ชาวเมืองแห่งปราสาทไรซิลรู้สึกซาบซึ้งในผลผลิตของอาหาร
การพัฒนาเทคโนโลยี และความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของราชอาณาจักรอาเพน
พวกเขามีประชุมหมู่บ้านและมีมติที่จะเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอาเพน
สินค้าขึ้นชื่อ:
ไม่มี
จำนวนประชากร:
1491 คน
ภาษีต่อเดือน:
732 เหรียญทอง
|
มีหมู่บ้านมากมายหลายแห่งตัดสินใจเข้าร่วมราชอาณาจักรอาเพนอย่างเด็ดเดี่ยว
“จริงใช่ไหมที่กษัตริย์วีดไม่ได้ตระหนี่ที่จะใช้เงินตราของพระองค์เพื่อราษฎร์
พัฒนาเกษตรกรรม และเทคโนโลยี และศิลปะ? ข้าได้ยินจากพวกนักเดินทางนะ
มีหลายคนบอกเกี่ยวความปรีชาของกษัตริย์แห่งแดนเหนือ”
“ข้าได้ยินมาว่าราชอาณาจักรอาเพนคือสถานที่ที่เราสามารถอาศัยได้อย่างสุขสบาย
แน่นอนว่าต้องวิเศษมากแน่ๆที่มีราขาอย่างนั้นปกครองอยู่”
“เราเชื่อใจกษัตริย์วีดได้
ข้าจะพาภรรยาและลูกๆของข้าไปที่ราชอาณาจักรอาเพน”
วีดโด่งดังจากการผจญภัย
ประติมากรรมของเขาและยังมีการก่อตั้งเมืองโมร้าตาและราชอาณษจักรอาเพนอีก
เพราะงั้นเขาถึงมีอิทธิพลทางใจต่อเหล่าชาวเมืองทางแดนเหนือเป็นอย่างมาก
ณ ตอนนี้
ดินแดนเหนือมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น
แถมถ้าหากพวกเขาจัดการมอนสเตอร์ได้การพัฒนาทางการทำเหมืองก็จะเกิดขึ้นอีกด้วย
และเป็นอย่างนั้นสินค้าขึ้นชื่อของจักรวรรดินิฟล์เฮมที่เคยหายไปก็จะกลับมาอีกครั้ง
อาณาเขตของราชอาณาจักรอาเพนเริ่มขยายมากยิ่งขึ้น
ส่วนเหล่าพ่อค้าก็ได้รับกำไรจากการค้าขายกับหมู่บ้านทั้งหลาย
เหล่าพ่อค้าที่ร่วมมือกับราชอาณาจักรคงจะทำให้เรื่องอะไรหลายอย่าง่ายและสะดวกที่จะทำการค้าภายในอาณาจักรได้ดีขึ้น
โดยปกติแล้วมีเพียงพ่อค้าไม่กี่คนที่จะสามารถไปยังหมู่บ้านปิด
ทว่ามันไม่มีข้อจำกัดอะไรแบบนั้นภายในราชอาณาจักรอาเพน
แถมนอกจากนั้นพวกเขายังสามารถเพิ่มค่าชื่อเสียงและค่าสนับสนุนให้กับอาณาจักรได้ด้วยการสร้างกำไรจากการค้าขาย
ถ้าหากว่ามีหมู่บ้านดีๆซักแห่งพวกพ่อค้าก็จะซื้อพื้นทีไร่นาหรือว่าเหมืองร้าง
และถ้าพวกเขาจ้างพวกทหารรับจ้างเข้าไปกวาดล้างมอนสเตอร์ก็จะสามารถสร้างรายได้แบบยั่งยืนได้
แถมยังไม่ลืมที่จะสร้างร้านค้าและโรงตีเหล็ก
พวกเขาก็จะสามารถซื้อสินค้าที่ดีขึ้นภายในหมู่บ้านที่เขามีอิทธิพลนั้นได้
เหล่าพ่อค้าเป็นพวกที่มีชื่อเสียงที่จะไม่ค่อยได้รับความประทับใจมากนักภายในทวีปเวอร์เซล
-เป็นพวกคนขี้เหนียวที่ไม่ยอมเสียแม้แต่เงินแดงเดียว
-พวกน้ำลายฟูมปากที่จะใช้เวลาส่วนมากในจตุรัสแล้วก็พูดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย
-เป็นพวกสายอาชีพที่ไร้พลังต่อสู้
ที่ไม่รู้จักออกผจญภัย
ไม่มีเป้าหมายอื่นนอกจากหาเงิน
เหล่าพ่อค้าเป็นพวกที่ไม่น่าพิสมัยต่อคนอื่นมากนักที่เป็นพวกหน้าเลือดที่จะจ้องแต่จะทำเงินจากคนอื่นๆ
พ่อค้าส่วนมากจะมีบทบาทมากภายในทวีปทางตอนกลางที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจและการพัฒนาบ้านเมือง
และแน่นอนละว่าพวกพ่อค้านั้นจะมีความสุขจากตัวตนพวกเขาเอง
แต่ทว่าผู้เล่นคนอื่นๆกลับไม่ยอมรับในสายอาชีพของพวกเขา
ทว่าดินแดนเหนือนั้นกลับเป็นสวรรค์ของพวกเขา
ความเร็วในการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นนั้นก็มักจะมาจากพวกพ่อค้าที่นั่งอยู่รถลาก
ส่วนพวกผู้เล่นใหม่เองต่างก็เพิ่มมากขึ้นภายในราชอาณาจักรอาเพนและกระจายไปทั่วแดนเหนือ
จากมุมมองของผู้เล่น
หมู่บ้านมากมายพวกเขาทำให้เมืองใหญ่โตขึ้นและทำให้คุณภาพสินค้าและการค้าขายดีมากยิ่งขึ้น
ดินแดนเหนือนั้นถูกเจียระไนด้วยน้ำมือของเมแพนและกามอง!
ผู้เล่นสายอาชีพต่อสู้อื่นๆต่างเคารพพวกเขาในความสามารถที่พัฒนาบ้านเมืองให้ดีขึ้น
-พวกพ่อค้าทำให้อาณาจักรดียิ่งขึ้น
-อาชีพสายพ่อค้าคือความรุ่งเรือง
มีการประเมิณความสามารถของอาชีพสายพ่อค้าใหม่
แถมยังมีชาวเมืองที่เป็นนักปราชญ์พูดด้วยว่า
“กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอาเพนได้เชื่อมโยงกับจักรวรรดินิฟล์เฮมแล้ว”
“หมายความว่าไงครับ?”
“พระองค์คือคนเดียวที่สามารถนำจักรวรรดินิฟล์เฮมฟื้นคืนกลับมาได้”
วีดได้ไปเขตลาสฟาลังค์และสามารถสำเร็จภารกิจระดับ
S
ได้
การก่อตั้งจักรวรรดินิฟล์เฮม!
เป็นภารกิจที่ยังคงอยู่และรอวันเวลาและเงื่อนไขถึงจะเริ่มทำได้
วีดได้รับฉายาทายาทของจักรวรรดินิฟล์เฮมมา
และเขายังมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมของราชอาณาจักรอาเพน
แม้แต่เหล่าผู้เล่นและเจ้าเมืองต่างๆก็ได้รับอิทธิพลอยู่มาก
หมู่บ้านทางตอนเหนือรวมถึงปราสาทเวนท์ก็เริ่มแสดงความเคารพต่อวีด
และความสนใจทั้งหลายที่มีต่อราชอาณาจักรอาเพนก็ทวีคูณเพิ่มมากยิ่งขึ้น
จบตอน
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล