เล่ม
26 ตอนที่ 6 : ปฐมบทแห่งการแกะสลัก(The Genesis of Sculpting)
แปลโดย Smith REX
"กระผมมาเพื่อจะส่งมอบดาบและบอกพระคุณเจ้าเกี่ยวกับความกล้าหาญของผู้คนที่ต่อสู้และหลั่งเลือดเพื่อกำจัดบัลข่านไปจากโลก
"
"โอ้ ดาบแห่งพระเจ้า! ข้านั้นไม่อาจสามารถนึกฝันใดๆได้เลยว่าไอเทมนี้จะถูกส่งกลับมายังวิหารได้อีกครั้ง!
"
ท่านบิช็อปรับดาบแห่งลูห์มา
"ข้าเคยได้ยินเรื่องราวความพ่ายแพ้ของบัลข่าน
นักรบเอ๋ย เจ้าได้สร้างผลงานจากการกระทำอันยิ่งใหญ่gเพื่อความสงบสุขของทวีป."
คุณได้ส่งดาบแห่งลูห์กลับคืนแล้ว
|
วิหารลูห์ได้เสียสละอันยิ่งใหญ่เพื่อหยุดยั้งราชาแห่งอันเดธ
บัลข่าน เดมอฟ ร่างของบัลข่านถูกแทงด้วยดาบแห่งพระเจ้าในท้ายที่สุด
ความสำเร็จในการปิดผนึกพลังเวทย์มนต์อันไร้ขีดจำกัดของลิซตนนี้ได้เกือบหมด ในที่สุดบัลข่านก็พ่ายแพ้ต่อกลุ่มนักรบและตอนนี้ดาบก็ได้กลับคืนสู่การครอบครองของวิหารลูห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
|
ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
1,700
|
มิตรภาพกับวิหารลูห์ตอนนี้อยู่ที่
32
|
ค่าการอุทิศตนของคุณกับวิหารลูห์เพิ่มขึ้น
1,950
|
คุณสามารถตรวจสอบค่าการอุทิศตนของคุณกับวิหารต่างๆใต้แท็บศาสนา
|
รวมค่าการอุทิศตนกับวิหารลูห์
:
2,573
|
ด้วยการส่งเสริมจากการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้
ค่าความศรัทธาเพิ่มขึ้น 13
|
ในเวลานี้บรรดานักบวชและเหล่าพาราดินที่เคยต่อสู้ร่วมกับวีดในการต่อต้านกองทัพอมตะได้สัมผัสประสบการณ์ความเปลี่ยนแปลง
ค่าความศรัทธา และการมีส่วนร่วมกับวิหารลูห์ของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะ ถึงแม้ว่าประชาขนส่วนใหญ่ของโมราต้าจะเป็นผู้ศรัทธาในเทพธิดาเฟร์ย่าก็ตาม
เหล่านักบวชที่ต่อสู้กับกองทัพอมตะนั้นมีหลากหลายนิกาย
สำหรับบรรดานักบวชและเหล่าพาราดินจากวิหารลูห์
การเพิ่มค่าความศรัทธาของพวกเขานั้นสูงมากเป็นพิเศษ
ถึงกระนั้นก็มีการเพิ่มค่าความศรัทธาให้กับผู้เล่นจากนิกายอื่น
ๆ อีกไม่น้อยเช่นกัน
นักบวชขั้นสูงบางคนพบว่า ค่าความศรัทธาของพวกเขาเพิ่มขึ้น
30 และแม้แต่ทักษะการโจมตีของเหล่าพาราดินซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับค่าศรัทธาและความแข็งแรงก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
และแน่นอน เหล่านักดาบเองผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับกองทัพอมตะ
ค่าความศรัทธาและค่าการอุทิศตนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
"โอร้า, ค่าการอุทิศตนเพิ่มขึ้น"
"ค่าการอุทิศตนคืออะไร?"
"ศิษย์พี่ซา มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างนั้นหรือ?"
เหล่านักดาบซึ่งรวมตัวกันอยู่ในป้อมปราการวาร์โกกำลังกินเนื้อสัตว์นั้นต่างงงงวยกับข้อความที่จู่
ๆ ก็โผล่ขึ้นมา ในท่ามกลางพวกเขา นักดาบ127
ผู้ที่ตีหน้าเนียนเหมือนผู้คงแก่เรียนจากการที่เขาได้รับใบรับรองความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์
ได้อธิบายถึงเหตุการณ์นี้
"ถ้าท่านมีค่าการอุทิศตนมากพอ
ท่านสามารถไปที่นั่นและได้รับอาหารฟรี"
"โอ้ จริงรึ ?"
"ใช่. ผมเคยเห็นแบบนี้มาก่อนที่ไหนแห่ง
ถ้าค่าการอุทิศตนสูงพอ ท่านสามารถใช้แต้มเหล่านี้เพื่อรับไอเทมต่าง และอาหารแบบฟรีฟรี
"
"เอ็งแน่ใจรึเปล่าว่าทางวิหารจะให้เนื้อสัตว์จริงๆ?"
"ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะให้เบียร์ด้วย"
"’งั้น นี่มันช่างไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงสิ
ใช่มั้ย?"
แม้ว่าค่าการอุทิศตนของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น
เหล่านักดาบกลับไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดใดจากมันได้ ตามความเป็นจริงเหล่านักดาบมักจะตอบรับภารกิจที่ยากลำบาก
และสร้างมิตรภาพของพวกเขากับบรรดา NPC และยังได้เพิ่มระดับความสำเร็จและค่าการอุทิศตนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
"นักดาบ 3 ศิษย์พี่ซา,
พวกเราจะทำอะไรกับค่าความศรัทธานี้ดี?"
“เจ้าเลข 8 , สิ่งนี้มันช่วยในการต่อสู้ได้หรือไม่?
"
"ไม่ ไม่เลยครับ."
"นั่นไง มันช่างไร้ประโยชน์เสียจริง"
สำหรับนักรบเฉกเช่นเหล่านักดาบนั้น
ความจริงคือค่าความศรัทธาไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย นักรบสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปกป้องวิหาร
พวกเขาอาจเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังปราบปรามของวิหารและต่อสู้กับฝูงมอนสเตอร์และได้รับภารกิจต่างๆ
หากนักรบมีศรัทธาและกำลังทำภารกิจสำหรับวิหารซึ่งหาได้ยากมากที่จะได้รับพรในโอกาสอันพิเศษหรือมีสิ่งมหัศจรรย์เล็ก
ๆ เกิดขึ้นได้ แต่โดยรวมแล้วค่าความศรัทธาก็ไม่สำคัญสำหรับพวกเขา.
ค่าความศรัทธาสามารถเพิ่มความต้านทานต่อคำสาป
แต่เหมือนก่อนหน้านี้ มันไม่ได้อยู่ในระดับที่มากพอ
แม้กระทั่งสำหรับประติมากรเช่นวีด เขาเพียงได้รับประโยชน์เล็กน้อยจากค่าศรัทธา
ในขณะที่สวมใส่ชิ้นส่วน อุปกรณ์หรือทำภารกิจทางศาสนา
เว้นเสียแต่ว่าผู้เล่นเป็นนักบวชหรือพาราดิน ค่าความศรัทธาจะไม่สามารถใช้ได้ดีเท่าที่ควร
"ฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลย
มากินกันต่อเถอะ "
"ขอรับ ศิษย์พี่ซา"
เริ่มจากผู้อยู่อาศัยในโมราต้า
ผู้คนของทวีปตอนเหนือต่างพูดกันในตอนนี้
"วีรบุรุษที่มอบความพ่ายแพ้ให้กับบัลข่าน
ได้ส่งมอบดาบแห่งลูห์กลับคืนสู่วิหารในวันนี้"
"ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน และกว้างเพียงใด
เจ้าลองค้นหาจนทั่วทั้งทวีปนี้ กลับไม่มีผู้ใดที่มีความน่าอัศจรรย์เช่นนี้เลย การผจญภัยอันลึกลับเฉกเช่นลอร์ดแห่งโมราต้า
"
"ฉันได้ยินมาว่าเขาได้ทำหน้าที่ทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายให้เขา"
บิชอปยังคงกล่าวต่อไป
"ท่านเจ้าเมือง
คุณูปการที่ให้แก่วิหารลูห์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในผลงานครั้งนี้นั้น จะถูกบันทึกไว้ในหนังสือจดหมายเหตุของพวกเราตลอดไป
"
"ข้ากระผมเพียงแต่ปฏิบัติตามสิ่งที่ตัวข้ากระผมได้รับมอบหมายให้ทำ
ข้ากระผมไม่รู้ว่านี่เป็นความชอบธรรมหรือไม่ตามที่ผู้คนต่างกล่าวถึง แต่ข้ากระผมไม่สามารถปิดตามองไม่เห็นบัลข่านผู้ที่เชื่อว่าตนเองนั้นคือความถูกต้อง.
ข้ากระผมได้ทำในสิ่งที่ข้ากระผมคิดว่าถูกต้องโดยมิคิดคาดหวังรางวัล หรือเกียรติยศใดๆ
"
ความจริงแล้ว คำพูดทั้งหมดนั้นหลอกลวงกันแบบหน้าด้านๆ
แต่บิชอปก็เหมือนจะกลืนกินคำพูดทุกอย่างที่วีดบอกเขา
"ท่านได้กระทำการดีอย่างแท้จริง"
วีดหวังว่าอาจจะมีอะไรมากกว่านี้
แต่ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ในขณะที่เขาเองมีบทบาทสำคัญ ในบรรดาผู้เล่นคนอื่น ๆ
อีกหลายคนที่มีส่วนช่วยในการทำภารกิจ ทำให้มันจึงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะได้รับอะไรที่พิเศษสำหรับตัวเขานั่นเอง
' ดูเหมือนว่าฉันคงต้องพอใจกับค่าอุทิศตนแค่นี้ล่ะมั้ง
'
แต่การเพิ่มมิตรภาพกับวิหารลูห์นั้นย่อมมีผลดี
เพราะวีดเป็นเจ้าเมืองโมราต้า วิหารลูห์จะส่ง พาราดินจำนวนมากกว่าเดิมและลงทุนเพิ่มเติมเข้าไปในเมือง
บิชอปกวาดมือของเขาผ่านไปบนจุดหมองคล้ำสีดำบนตัวดาบ
"ช่างโชคร้ายที่ดาบแห่งลูห์ได้รับความเสียหายจากเวทย์ของบัลข่าน"
"กระผมเองก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น"
"มันยังไม่สายเกินไปสำหรับพวกเราที่จะสูญเสียความหวัง
ฤทธานุภาพของดาบนั้นสามารถฟื้นคืนได้ในแผ่นดินที่สถิตอยู่ในดินแดนแห่งความหายนะ
อาร์โกลเดีย. "
อาร์โกลเดียเป็น 1 ใน 10 ดินแดนต้องห้ามบนทวีปนี้ มันเป็นภูมิประเทศรกร้างที่ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่ใบหญ้าจะโตขึ้นมาเพียงสักเล็กน้อย
วิหารลูห์ได้ดูแลสถานศักดิ์สิทธิ์ แต่นักเวทย์พฤกษาแห่งความมืดได้ปล่อยเหล่าไคมีร่า
และเหล่ามอนสเตอร์ออกมา ทำให้ภูมิภาคนี้ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
"นักผจญภัยผู้กล้าหาญเอ๋ย วิหารลูห์ได้วางแผนที่จะนำคณะสำรวจไปยังสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้พร้อมกับหน่วยพาราดิน
และหน่วยนักบวชที่ดีที่สุด แล้วใยท่านจะไม่เข้าร่วมกับพวกเขาและนำพวกเขาไปในทิศทางที่ถูกต้องเช่นนั้นหรือ
"
ติ้งงง !
การเป็นผู้นำทางสู่สถานศักดิ์สิทธิ์
|
บิชอปแห่งวิหารวางแผนที่จะส่งคณะสำรวจไปยังอาร์โกลเดียเพื่อฟื้นฟูพลังของดาบ.
|
คุณจะปฎิเสธการเป็นผู้นำทางในเส้นทางภูเขาหินขรุขระไปจนถึงสถานศักดิ์สิทธิ์ได้กระนั้นหรือ?
|
เนื่องจากคุณสามารถบัญชาการกองทหารพาราดิน
และเหล่านักบวชที่เต็มไปด้วยความศรัทธา ฉะนั้นคุณจะต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของคณะสำรวจเป็นหลัก
|
ระดับความยาก
: S.
|
ข้อจำกัดของภารกิจ
:
ผู้ที่มีสถานะฆาตกรหรือ อยู่ในวิถีแห่งความชั่วร้ายไม่สามารถรับภารกิจได้
|
จำเป็นต้องใช้ค่าความศรัทธา
|
ถ้าหากภารกิจล้มเหลว
ค่าความศรัทธาจะลดลง,
สัมพันธภาพที่มีกับวิหารลูห์จะลดลง
|
'ฉันนี่มันโชคดีเสียจริง มันคืออาร์โกลเดีย...
'
ลาสฟาลั้งค์,
กราพาส มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเขาจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับ 10 ดินแดนต้องห้าม
และยิ่งกว่านั้นระดับความยาก ดันสูงลิบลิ่วจนเกินคำบรรยาย!
”ประตูแห่งความทุกข์ทรมานกำลังเปิดให้ฉันโดยอัตโนมัติ”
วีดส่ายหัวของเขา
"น่าเสียดายที่ข้ากระผมเองมีหน้าที่ที่กระผมต้องดูแล
และไม่สามารถแบ่งเวลาสำหรับเรื่องนี้ได้"
"นักผจญภัยเอ๋ย, การฟื้นฟูดาบแห่งพระเจ้านั้นเป็นภารกิจสำคัญยิ่ง!"
"ถ้าเป็นกองทหารพาราดินของวิหารลูห์
การปราบปรามมอนสเตอร์นั้นไม่เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา."
อาร์โกลเดียนั้นแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับกราพาส
มันตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาทางตอนกลางของทวีป ด้วยความหนาแน่นของมอนสเตอร์ที่บินไปมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
ถึงแม้ว่าจะเคยออกล่าแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งขณะอยู่ในกราพาสก็ตาม
แต่ในความเป็นจริงแล้วแทบจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอาร์โกลเดียเลย
แม้ว่าถ้าทางวิหารลูห์จะส่งพาราดิน และนักบวชที่ดีที่สุดในการออกเดินทางสู่อาร์โกลด้า
มันก็น่าจะพอเป็นไปได้
มันเป็นเพียงสิ่งที่วีดคิดว่าการทำภารกิจหนทางสู่การเป็นปรมาจารย์แห่งประติมากรรม
หรือการพยายามตามหาทักษะการแกะสลักลับในตำนานที่สาบสูญนั้นสำคัญมากกว่า
"แต่ยังไงเสีย นักผจญภัยเอ๋ย
ข้านั้นพอได้ทราบเกียรติภูมิของท่านมาอยู่บ้าง ข้ารู้ถึงข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีผู้ใดที่เหมาะสมจะมอบความไว้วางใจได้เช่นท่าน
ท่านคงไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธตำแหน่งของการเป็นผู้นำทางจริงๆใช่ไหม?
"นอกเหนือจากภาระหน้าที่ของข้ากระผมที่มีแด่วิหารลูห์
ยังมีงานที่ข้ากระผมต้องกระทำเพื่อความสงบสุขทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์ กระผมเองนั้นต้องทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
"
"ตกลง ถ้าเป็นอย่างนั้น ...
แล้ว คงไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้ มันไม่ใช่กิจที่ข้านั้นจักสามารถบังคับได้
แต่ถ้าท่านเปลี่ยนใจ ได้โปรดกลับมาและบอกข้า ”.
คุณได้ปฏิเสธภารกิจแล้ว
|
สัมพันธภาพกับวิหารลูห์ลดลง
7
|
ค่าการอุทิศตนของคุณกับวิหารลูห์ลดลง
149
|
ค่าความศรัทธาลดลง 2.
|
หลังจากวีดปฏิเสธข้อเสนอของท่านบิช็อป
ภารกิจถูกสร้างขึ้นโดยวิหารลูห์
การเดินทางสู่อาร์โกลเดีย
|
หลังจากการตายของบัลข่าน
ดาบแห่งลูห์ที่แทงเข้าไปในทรวงอกของเขา ได้ถูกส่งคืนกลับมายังวิหาร
|
แต่พลังของดาบได้รับความเสียหายจากเวทย์มนต์ดำของลิซ
|
ทางวิหารลูห์กำลังมองหาผู้ที่จะมีส่วนร่วมในการเดินทางนำท่านบิชอปไปเป็นการส่วนตัวพร้อมกันพาราดินชั้นเยี่ยม
80 นาย และนักบวชชั้นสูงสุด 45 รูป
|
ผู้คนที่เชื่อถือได้เหล่านั้นจะได้รับภารกิจอันยิ่งใหญ่จากทางวิหารลูห์
|
ระดับความยาก
:
A
|
ข้อจำกัดของภารกิจ
:
ผู้ที่มีสถานะฆาตกรหรือ อยู่ในวิถีแห่งความชั่วร้ายไม่สามารถรับภารกิจได้
|
ความยากถูกลดอันดับลงมา และการเดินทางไปอาร์โกลเดียถูกเปิดขึ้นมาเพื่อผู้เล่นในโมราต้า
"ว้าว ... เหลือเชื่อจริงๆ"
"ลองจินตนาการว่าถ้าภารกิจนี้ประสบความสำเร็จดูสิ"
"นี่เป็นเหมือนการผจญภัยที่แท้จริง
ไม่เพียงแค่นั้น นี่ยังเป็นหนึ่งใน 10 ดินแดนต้องห้าม
อาร์โกลเดียเสียด้วย "
"นี่จะครอบคลุมไปทั่วทั้งเครือข่ายข่าวสารอย่างแน่นอน"
ผู้เล่นที่เริ่มเล่นในโมราต้ารู้สึกอิจฉาเพราะไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเดินทางได้
พวกเขาส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับเริ่มต้น
ดังนั้นคงมีเพียงผู้เล่นที่ย้ายมาจากทางตอนกลางของทวีปที่สามารถเข้าร่วมได้
"คุณรู้หรือไม่ว่าใครยอมรับภารกิจนี้?"
"ไม่ทราบ
แต่ฉันได้ยินผู้เล่นระดับสูงที่อยู่ในดันเจี้ยน และพื้นที่ออกล่าอยู่นั้นกลับมาเป็นจำนวนมาก
"
"ฉันเพิ่งเห็นสเปนเซอร์เข้าไปในวโบสถ์ของวิหารลูห์
เพื่อลงทะเบียนเป็นกองกำลังในคณะสำรวจ "
หนึ่งในนักผจญภัยที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอยัลโร๊ด
, สเปนเซอร์ ! เขาเป็นหนึ่งในคนแรกๆที่เข้ามายังทวีปแดนเหนือ
เขาตั้งฐานที่มั่นของเขาเองในโมราต้า และยังแสดงการขุดค้นของเขาให้เป็นที่ประจักษ์
ดังนั้นข่าวลือของเขาที่ยอมรับทำภารกิจนี้
ได้แพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง ในบรรดาหมู่ผู้เล่น จำนวนอัศวินและนักรบที่ยอมรับทำภารกิจได้อุบัติขึ้น
บรรดาผู้เล่นสามารถรับการสนับสนุนจากนักบวชและแม้กระทั่งในกรณีที่ภารกิจล้มเหลว การเดินทางนี้มีแต่จะทำให้ความเชื่อมโยงของพวกเขากับวิหารลูห์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นจึงมีผู้เล่นค่อนข้างน้อยที่คิดบวกเกี่ยวกับภารกิจ
วีดออกจากวิหารลูห์และเข้าไปในสมาคมประติมากรรมในโมราต้า
บนถนนที่ทอดยาวไปสู่จัตุรัสวัว ความหลากหลายของสมาคมที่ถูกสร้างขึ้น
มาจากพื้นฐานในการให้บริการผู้เล่นตามต้องการมากที่สุด
"ฉันได้ยินมาว่าวันนี้คุณวีดจะกลับมา
นายอยากไปดูไหม? "
"นายยังไปไม่ได้ พวกเราไม่อาจชะลอกำหนดการจัดแสดงชิ้นงานดินเหนียวสำหรับงานเทศกาลที่จะมาถึงนี้ได้
"
นอกเหนือจากเทศกาลประจำเมืองแล้วนั้น
ยังมีเทศกาลมากมายที่ผู้เล่นวางแผนทำกันเอง
สมาคมการค้านั้นดำเนินธุรกิจในการเป็นแม่งานในจัตุรัสต่างๆ
ในวันที่จัดงานเทศกาลตามวันที่ได้กำหนดไว้
ณ เทศกาลเหล่านี้ เหล่านักกวีได้แสดงบนอัฒจันทร์
และบรรดาผู้เล่นที่สายอาชีพเกี่ยวกับศิลปะจะจัดนิทรรศการผลงานของพวกเขาขึ้น
พ่อครัวเดินออกไปที่ถนนและขายอาหารราคาถูก โดยนิยมเป็นโจ๊กหญ้าต้มกับเนื้อวัว
โมราต้าเป็นเมืองที่มีความสุขมากมายอันล้นพ้น!
บรรดาผู้เล่นไม่ต้องแบกรับภาระหนักจากภาษีสุดโหด
เมืองนั้นเป็นไปตามแผนการที่วางไว้อย่างเหมาะสม
และเพียงแค่อยู่ในเมืองที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ก็นับว่าเป็นความสนุกอย่างหนึ่ง
เมื่อไม่นานมานี้บรรดาเหล่าภูติก็มาเล่นในเมืองและดึงดูดความสนใจของพวกผู้เล่น
พวกผู้เล่นที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นรอยัลโร๊ด
และยังไม่ได้ออกไปนอกเมือง ยังได้รับประสบการณ์อันสนุกสนานที่มีในตัวเมือง ด้วยเหตุนี้
ในภายหลังเมื่อพวกเขาต้องเลือกสายอาชีพ พวกผู้เล่นใหม่มักจะเลือกสายที่จะกลายเป็นพ่อค้าหรือสายที่มีความสัมพันธ์กับศิลปะมากกว่าสายที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้หรือการผจญภัยที่จะนำพวกเขาออกไปจากเมือง
“ต๊าย* ดูเหมือนทุกคนจะอดหลับอดนอนกันทั้งนั้นเลย
"
"ไปลุยงานต่อแล้วหลังจากนั้นค่อยไปหาเบียร์กินกัน"
“แน่นอน กินกับบาร์บีคิวกวางที่ด้านข้าง "
สำหรับเทศกาลครบรอบปีของการสร้างรูปปั้นเทพธิดา
ประติมากรวางแผนงานนิทรรศการโดยการทำประติมากรรมดินเหนียวของวีด แม้แต่ธีมที่เกี่ยวข้องกับวีดก็มีหลากหลายหัวข้อ
อ๊อคคาริชควิ,
อันเดธ และโทรลหิมะนั้น สร้างผลกระทบอย่างมากต่อเหตุการณ์ล่าสุดในโรเซนไฮม์
เนื่องจากปิงหลง และไวเวิร์นเป็นรูปปั้นยอดนิยมอย่างมาก
พวกเขาจึงเพิ่มเติมงานบางส่วนเข้าไป
การสนทนาระหว่างประติมากรสามารถได้ยินโดยทั่ว
"วีดช่างเป็นคนที่น่าทึ่งอะไรอย่างนี้."
"คุณหมายถึงการที่ประติมากรนั้นสามารถประสบความสำเร็จในการผจญภัยอันยอดเยี่ยมใช่ไหม?"
"ไม่ ฉันหมายถึงผลงานมากมายสำหรับพวกเรา
เขาทำยังไงถึงสามารถทำประติมากรรมทั้งหมดนั้นได้ด้วยตัวคนเดียว ? "
"มันเป็นศิลปะ มันเป็นเพราะอารมณ์อันลุกโชนของเขา
และการตั้งมั่นมีสมาธิต่องานศิลปะซึ่งทำให้เขาสามารถทำได้เช่นนั้นได้ "
วีดเป็นปรมาจารย์ที่ทำงานเหมือนทาสได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด!
ถ้าไม่ใช่เพราะวินัยนั้น ความหย่อนยานจะเกิดขึ้นจากการทำงานที่น่าเบื่อหน่าย และการเย็บเม็ดกระดุมในชีวิตจริงก็มีส่วนช่วย
มิเช่นนั้นแล้วประติมากรรมส่วนมากของเขาจะไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมา
มีรูปแกะสลักของวีดในรูปแบบมนุษย์ของเขาด้วย
พร้อมทั้งอุปกรณ์สวมใส่ที่มีความใกล้เคียงคล้ายคลึงกับของจริง ในขณะที่รายละเอียดยิบย่อยบนใบหน้าของวีดกลับไม่ค่อยมีใครรู้
เครื่องแต่งกายที่เขาสวมสามารถเป็นเหตุให้เกิดความอิจฉาตาร้อนได้ในหมู่ผู้เล่น
"อันนี้ทำไม่ค่อยดี
ดูเหมือนว่ามันเตี้ยกว่าฉันไปสักหน่อย "
วีดเดินผ่านประติมากรรมด้วยความจู้จี้จุกจิกในรายละเอียด
แต่ในความเป็นจริงแล้วประติมากรรมนั้นสูงมากจนไม่สามารถมองเห็นส่วนหัวของพวกมันได้
“อา..?”
"ไม่มีทาง…..."
วีดเดินเข้ามาหาอาจารย์ผู้ฝึกสอน ในขณะที่เขาเดินอยู่ท่ามกลางรูปแกะสลักเหล่านั้นที่ลอกแบบมาจากตัวเขาเอง
"นั่นมันคุณวีดไม่ใช่หรา?"
"นั่นมันคุณวีด! เขาต้องมีกิจธุระอะไรสักอย่างกับสมาคมประติมากรรมแน่เลย
"
ประติมากรที่กำลังเข้าคิว
พวกเขาต่างเปิดทางให้วีด มันเหมือนกับเปิดเส้นทางในทะเลแดงให้กับเขาอย่างไงอย่างงั้น
(เป็นการเปรียบเทียบกับ โมเสสพาชาวอิสราเอลข้ามทะเลแดงด้วยความอัศจรรย์จากพระเจ้าตามพระคัมภีร์เดิมของชาวยิวและคริสต์)
"ตามข่าวลือเขานั้นค่อนข้างแปลกประหลาด"
'ในคอนทิเน้นท์ออฟเมจิค คุณไม่อาจรู้เลยว่าเมื่อใดที่อารมณ์ของเขาจะปะทุขึ้น’
พลัง และอำนาจของเจ้าเมือง! ถ้าวีดดีจริงและเป็นคนที่ดีพอเขาจะรอจนถึงคิวของเขา
แต่มันคงสะดวกสบายกว่าเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเดินเข้าไปหาอาจารย์ผู้สอน
"ยินดีต้อนรับ คุณวีด,
ผู้สถาปนาเส้นทางสำหรับประติมากรทั้งหลาย"
อาจารย์ผู้สอนยังต้องแสดงความเคารพ ที่เป็นเช่นนี้เพราะที่นี่คือโมราต้า
วีดเปิดปากเอ่ยถึงถ้อยคำสัญญา มันคือถ้อยคำที่ถูกเขียนขึ้นโดยประติมากรรุ่นแรก
มันเป็นถ้อยคำที่มีแต่ประติมากรผู้ที่ต้องการก้าวขึ้นไปยังสู่จุดสูงสุดเท่านั้น ถึงจะสามารถเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นออกมาได้
"ตัวข้าได้รังสรรค์ประติมากรรมประกายแสง
ตอนนี้ ข้าจักเลือกหนทางเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นตำนาน"
*****
กระดานสนทนาเกี่ยวกับรอยัลโร๊ดก็มีการจับกลุ่มพูดคุยเรื่องนี้ขึ้นมาในทันที
หัวข้อ:
วีดกำลังพยายามทำภารกิจปรมาจารย์ประติมากร
|
ภารกิจได้เริ่มต้นขึ้นที่โมราต้า
ณ สมาคมประติมากร
|
ในเวลาเดียวกัน คอมเม้นท์ต่างเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในเวลาเพียงไม่กี่นาที
มีการโพสต์ข้อความตอบกลับหลายพันรายการ
ไม่มีทาง!
ใครมันจะไปทำให้ระดับความเชี่ยวชาญในสายอาชีพได้ถึงขนาดนั้น? และยิ่งกว่านั้น มันคือการแกะสลัก
|
ถ้านั่นเป็นวีด
มันก็อาจจะเป็นไปได้
|
แม้แต่ทักษะการขี่ม้าเร็วยังยากที่จะไปถึงขั้นปรมาจารย์เลย
แต่การฝึกฝนทักษะการแกะสลักนั้นเลื่องลือว่าการฝึกฝนมันนั้นเชื่องช้าบรรลัยไม่ใช่รึ
?
คุณเล่นรอยัลโร๊ดครั้งแรกหรือยังไง?
|
ทักษะการขี่ม้านั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะเพิ่มเลเวลขึ้นใช่ไหมล่ะ? อย่างน้อยการที่จะเลื่อนระดับไปยังขั้นสูงก็ยังทำไม่ได้เลย ถูกม่ะ?
ที่เลเวลนั้นคุณสามารถข้ามแม่น้ำบนหลังม้า และขี่ม้าของคุณได้ดุจสายลม
|
วีดกำลังจะสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้ง
|
นี่เรื่องจริงใช่ไหม
?
นี่คงไม่ใช่เรื่องโกหกหรอกนะ? ล้อกันเล่นรึเปล่า?
|
ฉันแทบจะไม่สามารถยกระดับทักษะประติมากรรมของฉันจากขั้นต้นเลเวล
5
เลย ... แต่นี่มัน เอาจริงดิ!?!
|
ในรายการที่ออกอากาศเกี่ยวกับรอยัลโร๊ด
รายการ
' เรื่องราวแห่งทวีปเวอร์เซลล์ ' ได้กล่าวถึงความเชี่ยวชาญในสายอาชีพมาก่อนแล้วครั้งนึง
รายการนั้นกล่าวว่าภารกิจปรมาจารย์ในสายอาชีพนั้น สามารถนำผู้เล่นไปทำบางสิ่งบางอย่างในทวีป
และมีความเชื่อมโยงบางอย่างในภารกิจระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ,แต่ไม่มีผู้ใดทราบว่าเส้นทางนั้นจะนำไปยังทิศทางไหน
บริษัทยูนิคอร์น ซึ่งไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยข้อมูลใดๆเกี่ยวกับรอยัลโร๊ดออกมามากมายนัก
,เพียงแค่เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเพียงข้อมูลเดียวเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นสายอาชีพใดก็ตาม ภารกิจเส้นทางสู่การเป็นปรมาจารย์ภารกิจแรกจะมีความพิเศษมากกว่านิดหน่อย
คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ดีและมันจะยากขึ้นเล็กน้อย
เมื่อทำภารกิจเส้นทางสู่การเป็นปรมาจารย์ในภารกิจแรกสำเร็จ
ผู้เล่นจะแข่งขันกันเพื่อเพิ่มระดับทักษะของตน
แต่มีเพียงไม่กี่คนซึ่งหายากมากที่ยังคงเล่นอย่างอดทนเพื่อเพิ่มระดับทักษะของพวกเขา
หลังจากถึงค่าที่แน่นอนของทักษะของพวกเขาที่ถูกซ่อนเอาไว้ ผู้เล่นเหล่านั้นจะสร้างกิลด์
หรือเข้าร่วมกับกิลด์หนึ่ง และจากนั้นจึงเริ่มการต่อสู้เพื่ออำนาจ
บางคนตายในการพยายามที่จะเพิ่มทักษะการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการสู้ในสนามรบ
หรือการต่อสู้ และบางส่วนยอมแพ้อย่างน่าเศร้า หลังจากนั้นการเรียนรู้ในทักษะของพวกเขาก็หยุดอยู่ตรงนั้น
การปรากฏของคนใดคนหนึ่งในสายอาชีพที่จะทำภารกิจปรมาจารย์นั้นถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่นำพาผู้เล่นก้าวไปสู่สิ่งที่ไม่รู้จัก
*****
ณ ป่ากกแดง
ความปั่นป่วนปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงท่ามกลางเหล่านักล่าเงินรางวัล
และผู้เล่นของกิลด์เฮอมิสที่กำลังเตรียมการซุ่มโจมตี พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่กำลังสงสัยและกำลังรอคอยการมาของวีด
‘ไปที่อื่น ที่มันแตกต่างจากที่นี่อย่างสิ้นเชิง ทำไมเขาไปที่อาณาจักรโรเซนไฮม์
ทำไม ... ? '
'สถานที่เดียวที่เขาสามารถไปต่อไปได้คือที่นี่
วีดจะมาที่นี่อย่างแน่นอน '
‘เขาอยู่ในโมราต้าไม่ใช่รึ ?
จุดหมายต่อไปของเขาจะต้องมาที่นี่’
ขนาดเป็นคนรักกันก็ยังไม่รอจนน่าหงุดหงิดอย่างนี้
ป่ากกแดงเป็นสถานที่ที่อันตรายและการออกล่ามอนสเตอร์ก็ยากมากอีกด้วย
พวกเขารอวีดมาเป็นเวลายาวนานมากแล้ว
และตอนนี้เขากำลังจะไปทำภารกิจปรมาจารย์การแกะสลักอีก ?!?
ซึ่งหมายความว่ามันเป็นความสิ้นหวังอย่างแท้จริงที่จะคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไหร่วีดจะมายังที่นี่ซะที
“ไม่!”
"ฟังนะ พวกเราจะกลับไปที่ตอนกลางทวีป"
"ฉันไม่ควรออกจากบ้าน นี่เป็นเรื่องเสียเวลาสุดๆ
และช่างเจ็บปวดนัก"
เหล่านักล่าเงินรางวัลส่วนใหญ่รู้สึกหงุดหงิดจากความปราชัย
จึงได้ตัดสินใจแยกทางกัน ผู้เล่นจากกิลด์เฮอมิสต่างก็ขาดทุนเช่นกัน
พวกเขามาที่นี่หลังจากได้รับมอบหมายมาจากกิลด์ และไม่สามารถกลับไปมือเปล่าได้
"เขาจะไม่รีบมาที่นี่ซักหน่อยหรอ?"
"เขาจะมา? เขาจะไม่มา? ถ้าเขาไม่มา เขาก็ควรจะพูดว่าไม่มาเซ่!
"
ขณะที่วีดไม่เคยให้คำมั่นสัญญาใด ๆ ในการที่จะมายังป่ากกแดง
พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเขาได้แต่ถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
***
วีดค่อนข้างมั่นใจอยู่หน่อยๆในการทำภารกิจปรมาจารย์การแกะสลัก
'ไม่ว่าจะเป็นภารกิจแบบไหน มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่
'
เขานั้นเรียนรู้ไปซะทุกอย่าง แต่ยังไปได้ไม่สุดสักด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้หรือการผจญภัย เขาก็มั่นใจว่าเขาจะประสบความสำเร็จจากในสิ่งที่รอยัลโร๊ดโถมมาใส่เขา!
เขารวบรวม 5 ทักษะลับการแกะสลักในตำนานจนครบ
ฉะนั้นแล้วภารกิจระดับปรมาจารย์ด้วยตัวมันเองแล้วย่อมไม่รู้สึกว่ามันจะยากมากเกินไป
มันเป็นเพียงว่าทักษะการแกะสลักของเขานั้นยังติดอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล
8, การเคลียร์เงื่อนไขขั้นต่ำที่สามารถรับภารกิจได้เรียบร้อยแล้ว ในภารกิจ
เขาจะต้องมุ่งเน้นทุกอย่างที่เพิ่มทักษะการแกะสลักของเขา
"เอาเถอะข้าจะบอกท่านถึงตำนานอันเก่าแก่ที่ได้รับการส่งผ่านมาในหมู่ประติมากร."
อาจารย์ผู้ฝึกสอนเริ่มกล่าวออกมา ด้วยว่าในครั้งนี้จะกลายเป็นภารกิจเฉพาะบุคคล
วีดจึงตั้งใจฟัง และ
ประติมากรในสมาคมเองก็ฟังอยู่ในนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับภารกิจ
"มันคือก่อนที่ทักษะการแกะสลักจะถูกพัฒนาจนออกมาในรูปแบบศิลปะ
วัฒนธรรม นี่คือเมื่อตอนที่เหล่ามอนสเตอร์นั้นปกคลุมอยู่ทั่วทั้งทวีป ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ไหน
มนุษย์, เอลฟ์,
ออร์ค, คนแคระ หรือพวกคนเถื่อน พวกเขาต่างก็ถูกกินโดยมอนสเตอร์เหล่านั้น
"
ตรงด้านหน้าของวีดปรากฏวิดีโอที่เขาเท่านั้นที่สามารถมองเห็น
มันคือช่วงก่อนที่เกอิฮา วอน
อาร์เพ่น จะรวมทวีปเป็นหนึ่ง เทพเจ้าสร้างทวีปเวอร์เซลล์ และไม่นานหลังจากนั้นก็มีเผ่าพันธุ์ต่างๆเริ่มปรากฏขึ้น
มันยังเป็นยุคที่ไร้ซึ่งความเจริญที่ซึ่ง เผ่ามนุษย์ เผ่าเอลฟ์ เผ่าคนแคระ
และเผ่าออร์ค ต้องผนึกกำลังร่วมกันเพื่อความแข็งแกร่งของพวกเขา
เผ่ามนุษย์นั้นทำหน้าที่คุ้มกันต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์
เผ่าเอลฟ์ทำการปลูกพืชผล และทำอาหาร เผ่าคนแคระทำเหมืองขุดถ้ำ และทำหินแหลมคมให้กับเผ่าออร์คเพื่อใช้เป็นอาวุธ
ด้วยอัตราการเจริญพันธ์ของ เผ่าออร์ค ,ความเป็นผู้นำของเผ่ามนุษย์
,ความสามารถในการปลูกพืชของเอลฟ์ และความสามารถในการสร้างสิ่งของของคนแคระ
ทั้งสี่เผ่าพันธุ์จึงสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ทั้งสี่เผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียวภายในถ้ำและร่วมกันพัฒนากฎ
และวัฒนธรรมต่างๆขึ้นมา
หลังจากวิดีโอจบลง อาจารย์ผู้ฝึกสอนยังคงกล่าวต่อไป
:
"มีการกล่าวกันว่าในช่วงเวลานั้นทักษะการแกะสลักได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก
เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ, แต่ตำนานนี้ได้รับการถ่ายทอดผ่านมาจากเผ่าเอลฟ์ที่มีอายุยืนยาว
ผู้ที่มีความทรงจำอันพิเศษ ข้าคิดว่าบางทีผู้เฒ่าเอลฟ์แรนเดเลียอาจรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประติมากรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยสร้างขึ้นมามากกว่าที่ข้ารู้
"
ติ๊งงง!
ปฐมบทแห่งการแกะสลัก(The
Genesis of Sculpting)
|
ทักษะการแกะสลักนั้นถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นเมื่อเผ่าพันธุ์ต่างๆ
เริ่มทำงานที่ใช้ทรายและหิน
|
เนื่องจากเหตุการณ์นี้ขัดแย้งกับประวัติความเป็นมาของทั้งสี่เผ่าพันธุ์
โปรดตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับเทคนิคการแกะสลักในครั้งแรกเริ่ม.
|
ระดับความยาก
: ภารกิจปรมาจารย์แห่งการแกะสลัก
|
ข้อจำกัดของภารกิจ
:
ทักษะการแกะสลักต้องอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 8
|
ต้องมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับเผ่าเอลฟ์
|
ถ้ามีประติมากรคนอื่นมาทำภารกิจปรมาจารย์ก่อนหน้าเขา
วีดคงจะมีข้อมูลอ้างอิงถึงการลงมือทำงานในครั้งนี้
ถึงแม้ว่าวีดจะไม่มีข้อมูลใด ๆ
ที่จะดำเนินการต่อ แต่เขาคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะฝ่าฟันไปแทนที่จะทำตามคำแนะนำที่เขียนโดยคนอื่น
"อืม ข้าจะไปพบนาง และออกตามหา.”
คุณยอมรับภารกิจแล้ว
|
*****
กิลด์เฮอร์มิสได้รับข้อมูลมาว่าวีดกำลังเดินทางไปพบผู้เฒ่าเอลฟ์แรนเดเลีย
"วีดกำลังพยายามทำภารกิจปรมาจารย์ของเขา?"
กิลด์เฮอร์มิสได้พิชิตสองในสามของอาณาจักรคัลลามอล์ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มันเป็นสงครามสายฟ้าแลบที่ไม่ปล่อยให้มีโอกาสสำหรับกิลด์อื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง สามารถฉกฉวยผลประโยชน์ในครั้งนี้ไปได้
สมแล้วที่เป็นถึงราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีป
กิลด์เฮอร์มิสกำลังพยายามที่จะกลายเป็นจักรวรรดิ
แต่ก็มิวายปล่อยวีดให้ไปทำภารกิจปรมาจารย์ของเขาได้ จึงทำให้พวกเขาไขว้เขว
"พวกเราต้องหยุดวีด พวกเราควรส่งกองทหารไปทันที
"
"พวกเราต้องหยุดยั้งเขาด้วยทุกอย่างที่มี
แม้ว่าพวกเราจะต้องเปลี่ยนหมู่บ้านของเอลฟ์ให้กลายเป็นดินแดนรกร้างก็ตาม "
มันเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างราฟาเย่
กับเพื่อนสนิทของเขา โดยทางกิลด์เฮอร์มีสจะส่งกองกำลังโจมตี ผู้เฒ่าเอลฟ์แรนเดเลียนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก
ๆ ภายในป่าแห่งชีวิต พวกเขาตัดสินใจที่จะหยุดภารกิจของวีด แม้ว่าพวกเขาจะต้องโจมตีที่นั่น
(แอดชิน:
Lafaye ลาฟาย ลาเฟย์ ลาฟาเย่ แล้วแต่จะถนัดเรียก)
"ฉันอนุญาตให้ฆ่าพวกเอลฟ์ทั้งหมด
ถ้ามันจำเป็นต้องทำ"
เมื่อมองย้อนกลับไป กิลด์เฮอมิสน่าจะอดทนมากกว่านี้
แต่ตอนนี้พวกเขาพิจารณาทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดวีด พวกเขารู้ว่าความสนใจของสาธารณชนที่เกี่ยวกับภารกิจปรมาจารย์แกะสลักนั้นสูง
แต่กิลด์เฮอมิสไม่ได้สนใจสายตา และความความคิดเห็นของสาธารณชนเหล่านั้นอยู่แล้ว
**********
ทันทีที่ออกมาจากสมาคมประติมากร วีดได้ไปพบกับยูริน
เขาวางแผนที่จะเดินทางตรงไปยังหมู่บ้าน เอลฟ์ หรือที่ใกล้ ๆ ด้วยทักษะจินตภาพเคลื่อนย้าย
แม้ในช่วงหลังๆมานี้เลเวลของยูรินยังอยู่ที่
80 นั่นเป็นเพราะเธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทางรอบรอยัลโร๊ดตามรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง
และการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ
"หนูเคยไปที่หมู่บ้านแห่งนี้มาก่อนแล้ว
หนูเคยได้ยินว่าพวกเขามีผลไม้ที่อร่อยที่สุด เอาตรงทางเข้าหมู่บ้านเลยดีไหมค่ะ
พี่ชาย? "
"ได้."
ยูรินเริ่มวาดรูปหมู่บ้านจากความทรงจำของเธอ
มันเห็นเป็นภาพ ; ผมยาวของเธอปล่อยลงมาในขณะที่มีดินสอถ่านอยู่ในมือของเธอขณะที่เธอกำลังร่างภาพ
แม้แต่คนดังที่มีหน้าตาสวยสดงดงามตามที่เห็นทั่วไปก็คงมีข้อบกพร่องบางอย่างในความงามของพวกเธอ
พวกเธออาจเตี้ย หรือหน้าอกแบน นิ้ว หรือขาอาจหนาเกินไป มีหนึ่งหรือสองข้อบกพร่องอยู่เสมอในความงามของพวกเธอ
แต่ในทุกซอกมุมหรือมองในมุมใด ๆ มันก็ไม่สามารถหาข้อบกพร่องภายในความงามของซอยูนได้
การเฝ้าดูเธอเงียบ ๆ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก็จะเปิดเผยในอีกแง่มุมใหม่ของความงามของเธอ
แม้หลังจากทำประติมากรรมทั้งหมดโดยใช้ซอยูนเป็นแบบจากที่เขาได้แกะสลักมา
ในแง่มุมนี้เหมือนเธออนุญาตให้วีดพยายามทำบางสิ่งบางอย่างใหม่ทุกครั้ง
แม้กระทั่งเสียงของซอยูน และบรรยากาศรอบตัวก็ยังสวยงามได้ด้วยตัวของมันเอง!
เมื่อมองไปที่น้องสาวของเขา ยูรินนั้นไม่ได้ขาดความงดงามไปเลยแม้แต่น้อย
'มันเป็นเรื่องน่าอายที่เธอเป็นน้องสาวของฉัน'
หากไม่รวมสถานการณ์ที่น่าสงสารที่บ้าน
น้องสาวของเขาอาจเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย
วีดพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"วันนี้น้องจ๋ากลับบ้านช้าไปหน่อยนะ"
"หนูเรียนหนังสือต่อที่ห้องสมุด"
"เดือนที่ผ่านมาค่าโทรศัพท์มือถือค่อนข้างสูง"
"หนูให้ยืมเพื่อนนิดหน่อย และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น"
ซึบแซก
ยูรินเถียงกลับในขณะที่เธอกำลังร่างภาพ
"ไม่กี่วันมานี้ พี่เห็นน้องจ๋าแต่งหน้าก่อนออกจากบ้าน"
"หนูแค่อยากรู้ว่ามันรู้สึกอย่างไรเวลาแต่งหน้า"
"น้องจ๋าสวม เมื่อวานตอนที่เธอใส่กระโปรง
... "
"มันน่าเสียดายออกถ้าไม่ใส่สิ่งที่หนูมี"
แซก ซัก ซึก แซก
การร่างภาพของยูรินเริ่มเร็วขึ้น
ขณะที่เธอวาดภาพมามากมายจนถึงตอนนี้ มันเป็นครั้งแรกที่เธอวาดเร็วขนาดนี้
แต่มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะว่าวีดเริ่มทำการเทศนา มันจะไปเรื่อยๆหนึ่งหรือสองชั่วโมง
มีเพียงวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงได้คือการวาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และหนีไป…….
ภาพของหมู่บ้านเอลฟ์เสร็จสมบูรณ์ในพริบตา
"เราจะไปเดี๋ยวนี้! จินตภาพเคลื่อนย้าย
! "
ช่วงเวลาที่ยูรินเปิดใช้ทักษะของเธอ
ภาพเริ่มกระเพื่อมเหมือนน้ำ ภาพสั่นขึ้นรุนแรงตามระยะทางที่เพิ่มขึ้น
จากนั้นยูรินดึงตัวเองและวีดมายืนอยู่ที่หมู่บ้านเอลฟ์
จบตอน
ผู้แปล :
Smith REX
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล