เล่ม 18 ตอนที่9 : ประวัติศาสตร์ของประติมากรรม
แปลโดย Maruipengin
ลอร์ดของทวีปในภาคกลางนั้นไม่เหมือนกับวีด
“เพียงเพราะว่าเขามีชื่อเสียงนิดหน่อยใน Continent of Magic แค่นี้เขาก็พูดกันไปว่าเราไม่ควรไปซี้ซั้วท้าสู้กับเขาใน Royal
Road”
“เทพสงคราววีดยังงั้นหรอ? เมืองเล็กๆของเขาจะถูกบดขยี้เป็นผุยผงแน่นอนถ้ามันอยู่ในทวีปภาคกลาง”
“เพียงแค่เขาทำเควสต่อเนื่องที่คนอื่นคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางสำเร็จแค่นี้เนี่ยนะ”
ลอร์ดแต่ละคนในทวีปภาคกลางนั้นมีความคิดที่เหมือนกันเกี่ยวกับเส้นทางที่เต็มไปด้วยเลือดของเขา
พวกเขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในแถวหน้าของ
Royal
Road และพวกเขามีชัยชนะเหนือผู้เล่นอื่นๆในสงครามต่างๆ
ลอร์ดแต่ละคนนั้นมีกองกำลังที่สุดยอดอย่างน้อย
80,000
ยูนิต ในแต่ละเมืองที่พวกเขาครอบครองนั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมาย
“โมราต้าก็งั้นๆอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ล้วนแต่มีแต่ความขุ่นเคืองใจและอิจฉาในตัววีด!
ผู้ที่ชื่นชอบในสงครามนั้นค่อนข้างรำคาญเกี่ยวกับชื่อเสียงของผู้เล่นวีดที่ได้มาจากการทำเควสของเขา
พวกเขาหงุดหงิดเกี่ยวกับจำนวนผู้เล่นเริ่มต้นในโมร้าต้า
“ประติมากรรมเหล่านั้นมีชีวิตแถมยังขยับได้….การสร้างประติมากรรมเหมือนกับการซัมม่อนมอนสเตอร์ไม่ใช่เลยหรอไงนั่น?
พอคิดได้อย่างเดียวว่ามันต้องมีความลับอยู่ในทักษะประติมากรรมนั่นอย่างแน่นอน”
“ด้วยระดับการเติบโตที่โมราต้ามีนั้นทำให้มีความเป็นไปได้ที่เมืองทางเหนือนี้จะเจริญล้ำหน้าทวีปกลางไปได้อีก!”
ท่ามกลางความโกรธของเหล่าลอร์ดต่างๆ
บาร์ดเรย์จากกิลด์เฮอร์มิสนั้นอยู่เฉยๆรอผลของสงครามนี้ เขาจงใจที่จะไม่ดูทีวี
เขาออกล่าเหมือนปกติระหว่างการรอฟังข่าวการตายของวีด
สำนักข่าวต่างๆนั้นกำลังจับตาดูสงครามเมืองทางเหนือเพื่อรายงานข่าว ไม่ว่าจะเป็นการได้ยินข่าวร้ายที่โมราต้าชนะ
ก็ไม่อาจเปลี่ยนท่าทีของบาร์ดเรย์ได้
“วีดชนะอย่างนั้นรึ”
“ใช่แล้ว โมราต้านั้นไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
กลุ่มพันธมิตรทางเหนือนั้นไร้ความสามารถ และยังขาดความพร้อม”
“แต่กำลังพลของโมราต้าดีกว่ายังงั้นใช่ไหม?”
บาร์ดเรย์ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น
หลายวันต่อมา สถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกวิเคราะห์ออกมาเป็นรายงานเกี่ยวกับกำลังพลของสงครามระหว่างทั้ง
2
ฝ่าย
จากที่ได้ยินมา
กลุ่มพันธมิตรทางเหนือนั้นควรจัดการโมราต้าได้สำเร็จ
“ผมเดาว่ามันต้องเป็นเพราะความสามารถพิเศษของวีดอย่างแน่นอน”
“ใช่เลย มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
มันไม่มีคำไหนจะมาอธิบายความสามารถของเขาได้”
“...”
“ผู้ที่มีส่วนร่วมในสงครามของโมราต้านั้นมีทั้งความสามารถและเทคนิคเช่นเดียวกับการปรากฏตัวของอัศวินแห่งคัลลามอร์นั้นเป็นจุดสนใจของผู้คน
ข้อความบนบอร์ดก็ดำเนินต่อไปไม่หยุด”
บาร์ดเรย์นั้นมีท่าทีที่สงบนิ่ง
เทียบกับกิลด์เฮอร์มิสแล้ว พวกนั้นเป็นเพียงแค่กิลด์ชั้นรองทางเหนือ
จำนวนคนทั้งหมดที่มีนั้นไม่สามารถเขย่ากำลังของ
อาณาจักรฮาเว่น ได้เลย ต่อให้เขานั้นไม่มีการเปลี่ยนท่าทีที่เเสดงออกมา แต่ภายในใจลึกๆแล้วไม่เลย
“วีดก่อสงครามขึ้นมาและยังบังคับให้พวกพันธมิตรทางเหนือนั้นยอมแพ้…!”
นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้บาร์ดเรย์นั้นไม่สบอารมณ์
“ขายกริชเก่าจ้า มันตัดได้เยี่ยมมากและเหมาะสมที่สุดกับการล่ามอนเตอร์”
“ขายดาบโค้งจ้า มันเป็นดาบสำหรับผู้เริ่มต้นที่แข็งแกร่งมาก
ข้าขายให้ถูกๆเลยนี่”
“ขายเกราะหนังจ้า ตรงบริเวณอกมีรอยขาดนิดหน่อยแต่ส่วนอื่นก็ยังโอเคอยู่นะ”
การค้าขายระหว่างผู้เล่นเริ่มต้นมีตั้งแต่ไม่กี่ทองแดงไปจนถึง
5
เหรียญทอง!
จัตุรัสไวเวิร์น จัตุรัสปิงหลง จัตุรัสแห่งแสง
และจัตุรัสเจ้าเหลือง นั้นหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว จัตุรัสทั้ง 4
ที่เขาสร้างขึ้นมานั้น ตอนนี้บูมมากทั้งที่เมื่อก่อนโล่งโจ้ง
อย่างไรก็ตาม
ที่โมราต้านั้นมีการเพิ่มจำนวนของผู้เล่นเริ่มต้นมากขึ้นเนื่องจากสงคราม
หลังจากที่ Royal
Road ออกอากาศ ผู้เล่นจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามา
“ขายขนมปังข้าวบาร์เลย์ 3 ชิ้น”
“เจ้าขายของพวกนี้เพื่อประทังชีวิตอย่างนั้นเหรอ?”
“ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าข้าจะสามารถซื้ออาวุธได้”
“อ่าา อย่างน้อยข้าก็ยังได้ดื่มน้ำ
ถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยให้อิ่มท้องสักเท่าไหร่”
“ขอบคุณมาก”
สายลมของฤดูใบไม้ร่วงที่พัดพามาที่โมราต้าทำให้เมืองมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
ผู้เล่นมือใหม่ต่างเข้ามาเเลกเปลี่ยนสินค้าพิเศษ 1 หรือ 2 ชิ้น
ผู้เล่นกว่า 10,000
คน เตร็ดเตร่ไปมา ระหว่างที่ปาโวก่อสร้างศูนย์กลางทางศิลปะของเมืองโมราต้า
ระหว่างวันหยุดยาวนี้
วีดก็ได้ทำงานสำเร็จ
“ข้าฟื้นฟูเหล่าประติมากรรมสำเร็จแล้ว ต่อไปก็ควรที่จะต้องไปออกล่าเพื่อเพิ่มเลเวล
ข้าต้องการจดจ่ออยู่กับมัน เพราะใจข้ามันไม่สงบเลยเมื่อลมหนาวพัดมา”
ทริปที่เขาไปมานั้นทำให้วันหยุดหน้าร้อนของเขาสั้นลง
“หน้าต่างสถานะ!”
ชื่อ :
วีด
ฉายา :
ประติมากรนิรันดร์กาล
เลเวล :
368
อาชีพ :
ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน!
ฉายา :
ผู้บัญชาการแห่งการสังหารมังกร
ค่าชื่อเสียง :
29,726
HP: 31360
Mana: 14405
ความเเข็งแรง(Strength) : 1315
ความว่องไว(Agility): 1005
ความอึด(Stamina): 159
ความฉลาด(Wisdom): 189
สติปัญญา(Intelligence): 184
ความอดทน(Endurance): 695
ศิลปะ(Art): 1621
พรสวรรค์(Charisma): 260
ความเป็นผู้นำ(Leadership): 672
โชค(Luck): 215
ความศรัทธา(Faith) : 135 + 435
เสน่ห์(Charm): 210 +30
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้(Fighting
Spirit): 419
ขวัญและกำลังใจ(Mentality): 25
ความน่าเกรงขาม(Honor): 95
พลังโจมตี:
5329
พลังป้องกัน:
1761
ความทนทาน:
ไฟ: 27% น้ำ: 31% ดิน 35%
ความมืด 50%
+ค่าสเตตัสทุกตัวเพิ่มขึ้น 20
แต้ม
+ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น 80 แต้ม
+ เพิ่มค่าสเตตัส 30% ในคืนที่มีแสงจันทร์
+ สามารถเรียนรู้ทักษะการผลิตได้จนถึงระดับมาสเตอร์
สามารถเรียนสกิลเสริมของทักษะการผลิต สามารถเรียนทักษะระดับสูงได้
+ ประติมากรรมที่มีค่าทางศิลปะสูง
สามารถเพิ่มค่าชื่อเสียงได้
+ ค่าสเตตัสทั้งหมด 113 แต้ม นั้นได้เพิ่มขึ้นจากประติมากรรม ทักษะ กาารต่อสู้ และเควส มากกว่า 100
แต้มได้เพิ่มขึ้นจากทักษะประติมากรรมและการผลิต
ตั้งแต่เริ่มแรก
+ กำไลข้อมือได้ถูกสวมใส่
เพิ่มค่าสเตตัสทุกอย่าง 15 แต้ม
วีดมีเลเวลกลับไปอยู่ที่ 368
เพราะใช้ทักษะในการคืนชีพประติมากรรม
ในแต่ละครั้งที่เขาเลเวลอัพนั้นเขาได้ทุ่มค่าสเตตัสไปยังค่าความเข็งแกร่งและความว่องไว
ในขณะที่ปล่อยให้ค่าอื่นๆเพิ่มขึ้นจากเควส อุปกรณ์ และการแกะสลัก
หน้าต่างสถานะของเขาแสดงแถบที่สวยงามจากการที่เขาทำงานอย่างหนัก
ในบอร์ดสนทนาของเว็บไซต์ Royal
Road พูดไปก็จะหาว่าโม้ ค่าสถานะของเขานั้นไม่มีใครที่จะทำแบบนี้ได้
“ไม่ได้มีเพียงแค่โกลมินิ ปิงหลง หรือว่าราชาไฮดร้า แต่ว่าข้านั้นมีเลเวลต่ำกว่าพวกไวเวิร์นเสียอีก”
เพราะว่าเควสทำให้เลเวลของเขาไม่ค่อยไปถึงไหน
ด้วยเพราะว่าตามธรรมชาติของเควสนั้นมันเน้นไปที่ทำยังไงให้สำเร็จไม่ได้โฟกัสไปที่การออกล่า
เลเวลของเขายังห่างชั้นกับคำว่าแข็งแกร่งยิ่งนัก
แทนที่เขาจะได้เพิ่มทักษะความชำนาญต่างๆ เขากลับเพิ่มกองกำลังทหารสำหรับการต่อสู่
“เหล่าผู้เล่นที่เห็นอยู่ในทีวีนั้นน่าจะมีเลเวลอยู่ที่ 420 หรือมากกว่านั้น….ข้าไม่สามารถหยุดหรือว่ารออะไรได้อีกแล้ว
อย่างเเรกเลยที่ต้องทำคือฟื้นฟูตราประทับ”
วีดเดินเข้าไปยังห้องเล็กๆภายในปราสาทเจ้าเมือง”
“ประติมากรรมมากมายยังไม่ใช่ผลงานชั้นเยี่ยม”
ในการที่จะเพิ่มเลเวลของการซ่อมแซมประติมากรรม
เขาต้องทำลายประติมากรรมซ้ำไปซ้ำมา
เขาต้องทำงานอย่างหนักในการสร้างผลงานที่สวยงามและล้ำค่า
ต่อไปก็ทำลายมัน แล้วหลังจากนั้นก็ซ่อมแซมอีกครั้ง
“ทำไมมันช่างยากเย็นอย่างนี้ เหมือนกับว่าข้ายังคงไม่เข้าใจความหมายของการทำงานอย่างหนักเช่นนี้”
เขาทนทุกข์ทรมานกับการที่เขาต้องเลือกประติมากรรมขึ้นมาแล้วก็ต้องทำลายมัน!
“อันนี้ก็ต้องทำอย่างนี้ด้วยสินะ”
วีดเลือกประติมากรรมเจ็ดปีศาจแห่งเงินตรา
ที่มีคำว่าปีศาจสลักอยู่บนหน้าผากและยังยื่นมือมาขอเงินอย่างหน้าไม่อาย
มันมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเจ้าปีศาจที่แบมือขอเงินนั่น!
ผลงานชั้นดีนั้นมีความหมายแฝงอยู่ในตัวและมีความสวยงามเพียงพอที่จะเป็นของล้ำค่า
วีดมองดูที่ประติมากรรมที่สมบูรณ์แล้ว
“นี่ล่ะ!”
เคร้้ง!
เคร้ง! เคร้ง! เพล้ง!
เขาหยิบประติมากรรมออกมา
และก็เอาค้อมทุบพวกมัน
เขาทำลายดวงตา ข้อต่อแล้วก็หักคอมัน!
“เจ้าปีศาจแห่งเงินตรา!!”
มีทั้งความขมขื่นและความเกลียดชังแฝงอยู่ในนี้
- คุณทำลายผลงานประติมากรรม
ค่าชื่อเสียงลดลง 5 แต้ม
|
วีดต่อชิ้นส่วนของประติมากรรมที่แตกหักแล้วก็ทำลายผลงานที่ทำเสร็จใหม่ลงไปอีกครั้ง
ขั้นตอนในการสร้างประติมากรรมนั้นยังคงมีอยู่ในความทรงจำของเขา
เขาจึงสามารถซ่อมเเซมเจ้าปีศาจแห่งเงินตราได้อย่างรวดเร็ว
“เจ้าปีศาจเเห่งเงินตราที่ชั่วร้าย!”
ทำลายมันซ้ำๆแล้วก็ซ่อมแซม!
แล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไป
-ทักษะฟื้นฟูประติมากรรมขั้นกลาง
ความทนทานและความมันวาวจะดีขึ้น
ความทรงจำของประติมากรรมเพิ่มขึ้น
20
แต้ม
|
มันมีความละเอียดมากกว่าทักษะประติมากรรมระตับเริ่มต้น
โดยเขาใช้เจ้าปีศาจแห่งเงินตราเป็นตัวช่วยที่ทำให้เขาบรรลุทักษะฟื้นฟูประติมากรรมขั้นกลางได้
“ข้าต้องการประติมากรรมชั้นดีเพื่อเพิ่มความมุ่งมั่นและความเกลียดชัง!”
หลังจากเจ้าปีศาจแห่งเงินตราต่อไปเป็นคิวของเจ้าฮิปโปที่หิวกระหาย
มันเป็นฮิปโปโปเตมัสตัวใหญ่เท่าๆกับเจ้าเหลืองที่กำลังกินเหรียญทองแดงบนพื้น
เจ้าฮิปโปตะกละที่กินเงินนั้นเป็นการสื่อถึงคนชั่ว
เป็นความหมายของศิลปะที่ยอดเยี่ยมที่ต้องการสื่อออกมา!
ผลข้างเคียงของการสื่อถึงเงินนั้นทำให้มันมีคุณค่าทางศิลปะมากถึง
1400
“ตายซะ!”
วีดขยับเจ้าฮิปโปขึ้นในขณะที่เริ่มจุดไฟเพื่อหลอมเหล็ก
ในอดีต มนุษย์ได้ทำสิ่งที่ชั่วร้าย
โหดเหี้ยม และทารุณ เพียงเพื่อให้ได้เงินพวกนี้ ซึ่งไม่ต่างจากฮิปโปที่กำลังหิวโหย
มุ่งหมายที่จะทำร้ายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า
เมื่อมันกำลังหงุดหงุดและโมโหอย่างรุนแรง(ฮิปโปตกมัน 555)
เจ้าเหลืองผู้ที่มาจากทุ่งหญ้าเลี้ยงวัวและกลับมาเพื่อนอนหลับที่บ้านพักของเจ้าของ
ผู้ซึ่งเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
โกลมินิ ไวเวิร์น ปิงหลง
มองกิจกรรมของวีดจากภายนอกหน้าต่างจากข้างนอกของปราสาทเจ้าเมือง
“ข้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายให้มากกว่านี้ซะแล้ว”
“พวกเราช่างโชคดีมากที่ไม่ได้เป็นเหมือนเจ้าฮิปโปตัวนั้น”
พวกเหล่าประติมากรรมมีชีวิตนั้นได้ให้คำสัตย์สาบานแด่เจ้านายของพวกมัน!
วีดเริ่มใช้เจ้าฮิปโปเพื่อทักษะประติมากรรมการฟื้นฟูและซ่อมแซม
จนถึงขั้นกลาง เลเวล 7
เขาทำงานต่อเนื่องมา 4
วันติดแล้ว
ตั้งแต่เขาไม่ต้องไปทำอะไรไร้สาระอย่างเช่นไปโรงเรียนแล้ว
เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับรอยัลโร้ด
“ตอนนี้ได้เวลาที่จะฟื้นฟูตราประทับแห่งราชวงศ์อารูเพ่นแล้ว”
วีดค่อยๆดึงตราประทับออกมา
เขาห่อประติมากรรมชิ้นก่อนหน้านี้ด้วยเสื้อผ้าคุณภาพดีเพื่อป้องกันความเสียหาย
“ข้าต้องการซ่อมแซมประติมากรรมชิ้นนี้...”
สิ่งที่แตกต่างจากทักษะอื่นคือ
ทักษะการซ่อมแซมประติมากรรมนั้นต้องทำด้วยมือของตัวเองเท่านั้น
“ความทรงจำของกษัตริย์เกฮาร์ วอน อาเพ่น(Geihar Von Arpen) นั้นอยู่ภายในประติมากรรมชิ้นนี้ ซึ่งมันทำให้ยากที่จะซ่อมแซม”
รูปร่างของประติมากรรมมันเหมือนกับทำมากจากทองและหยก
เขาเตรียมที่จะซ่อมแซมสมบัติโบราญชิ้นนี้
“ทักษะซ่อมแซมประติมากรรม!”
เขาใช้ทักษะของเขาขึ้นรูปทองคำ
เขาพยายามที่จะทำให้มันกลับไปเป็นรูปทรงเดิมของมัน
ผ่าง!!
เขาหยิบชิ้นส่วนเก่าแก่ที่แตกหักขึ้นมาและซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหายต่อไป
หลังจากปีแห่งการถูกปรามาส
ไม่มีสัญญาณของการแตกหักหรือชิ้นส่วนที่หายสาปสูญ
“ได้เวลาซ่อมส่วนล่างแล้วสินะ”
ตราประทับเป็นสัญลักษณ์ของผู้ปกครองทวีป
แต่มันก็ถือว่าเป็นประติมากรรมที่สำคัญมากเหมือนกัน
วีดค่อยๆซ่อมแซมชิ้นส่วนของประติมากรรมแห่งอารูเพ่นอย่างพิถีพิถัน
การซ่อมแซมประติมากรรมขึ้นอยู่กับเลเวลทักษะแต่ด้วยตราประทับแห่งอารูเพ่นเป็นของโบราณ
มันจึงสามารถพังเสียหายได้ทุกครั้งในระหว่างที่ทำการซ่อมแซม
ยังโชคดีที่เขานั้นสามารถซ่อมเเซมในจุดที่เสียหายอย่างรุนแรงของตราประทับได้และยังจดจำในต้นแบบของตราประทับที่เขาเคยเห็นมันมาก่อน
เขาจัดการซ่อมแซมในส่วนที่เป็นรูปมังกรสีทอง
เขาสามารถตกแต่งในรายละเอียดเล็กๆได้
-คุณใช้ทักษะฟื้นฟูประติมากรรม
ความชำนาญทักษะฟื้นฟูประติมากรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในการซ่อมแซมศิลปวัตถุที่สูญหาย
ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น 3
แต้ม
|
มันเป็นของโบราณที่ดูเหมือนจะไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกับพวกประติมากรรมชิ้นใหญ่ๆ
“มันสำเร็จใช่ไหมเนี่ย?”
วีดซ่อนตราประทับไว้ตั้งแต่ที่เขาคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับเขาที่จะมองดูมัน
มันเหมือนกับการกินข้าวเปล่าๆโดยไม่มีกิมจิเป็นเครื่องเคียง
“ตรวจสอบ!”
ตราประทับของจักรพรรดิไร้นาม
:
ความคงทน 24/30
ประวัติศาสตร์ของทวีเวอร์เซลล์เกี่ยวกับอาณาจักรอารูเพ่น
มันยากที่จะจินตนาการได้ถึงประติมากรผู้ที่รังสรรสร้างมันขึ้นมา
ประติมากรที่เชื่อถือได้คนนั้นพยายามที่จะซ่อมแซมมันขึ้นมา
แต่ก็ไม่ได้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนเพราะว่าข้อจำกัดของระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน
คุณค่าทางศิลปะ : 43100
ความสามารถเพิ่มเติม : +95 เกียรติยศ
+55 คุณสมบัติพิเศษ
ค่าความภักดีและขวัญกำลังใจของทหารเพิ่มขึ้น
20%
ลดผลที่เป็นอันตรายจากเวทย์มนต์ทุกชนิด
55%
ข่มขวัญเหล่าขุนนางและอัศวิน
|
“มันยังไม่สมบูรณ์อยู่ดี”
ตราประทับนั้นถูกซ่อมอย่างดีแต่มันก็ยังไม่ได้อารมณ์เหมือนกับตอนที่ประติมากรรมนั้นเป็นเหมือนกับตอนแรกเริ่มของมัน
เขาต้องการที่จะซ่อมแซมประติมากรรมของจักรพรรดิเกฮาวอนอาเพ่นในส่วนของร่องรอยของระยะเวลากับส่วนที่เสียหายรุนแรงให้สมบูรณ์แบบ
“มังกรทองนั้นน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์และราชการ”
“ตราประทับของราชวงศ์นั้นควรจะดูส่องประกายมากกว่านี้”
วีดเริ่มต้นทำงานของเขาอีกครั้งอย่างช้าๆและระมัดระวังมากขึ้น
“ข้าต้องลองจินตนาการใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับมังกรทองทั้งหมด มันต้องมีรูปแบบเดียวกันกับที่พบที่อาณาจักรอารูเพ่น”
ประติมากรรมนี้ทำมาจากวัสดุที่เปราะบางมาก
หินเป็นวัสดุพื้นฐานจากธรรมชาติที่หยาบแต่มีความสวยงาม
ในขณะที่หินอ่อนและทองเหลืองนั้นมีความเรียบลื่นมากกว่า
วัสดุที่ต่างกันนั้นก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันในงานศิลปะ
ทองนั้นเป็นวัสดุที่มีความแข็ง
เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วก็จะมีราคาแพงมากๆ
ดังนั้นคุณต้องทำอย่างประณีต ประติมากรรมต้องใช้วัสดุที่ล้ำค่าและโลหะที่พิเศษมากซึ่งหาได้ยากแต่ก็ให้ความงดงามที่คู่ควร
“นั่นคงเป็นเหตุผลที่ว่าจักรพรรดิเกฮาสร้างสิ่งนี้มาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักร”
ประติมากรรมนั้นเป็นศิลปะแบบ 3
มิติ และมันยังมีการตกกระทบของแสง
แสงนั้นทำให้มีการเปลี่ยนแปลงความรู้สึก
และการสร้างประติมากรรมนั้นต้องมีความงดงามและน่าค้นหา
ประติมากรรมจากหินนั้นสามารถวางไว้ได้ทั่วไปที่คนผ่านไปผ่านมาสามารถมองเห็นได้
เมื่อตกกระทบกับแสงนั้นก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างของประติมากรรมได้
ช่างแกะสลักที่ดีนั้นจะรู้มุมของแสงและเงา
และเรียนรู้ที่จะใช้การแกะสลักแสง มังกรทองนั้นเหมือนจะอยู่เหนือหลักการแห่งแสงพวกนั้น
“แกะสลักแสง จักรพรรดินั้นเป็นผู้วางรากฐานของการแกะสลัก!”
เขาสร้างโครงของมังกรทองเพราะว่านี่คืองานของเขา
วีดเริ่มที่จะใช้การแกะสลักแสงเพื่อซ่อมแซมตราประทับ
การแกะสลักแสงเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
เขาค่อยๆขยับมือไปอย่างช้าๆ
ทุกๆครั้งที่เขาสัมผัสมัน
ประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองของอาณาจักรนั้นก็คืนชีพและส่องแสงออกมาจากประติมากรรม
อาณาจักรอารูเพ่นที่รุ่งโรจน์และการฟื้นคืนชีพของมังกรทอง
วีดสามารถซ่อมแซมประติมากรรมนั้นด้วยความสามารถทั้งหมดที่เขามี
ตริ้งง!
-คุณซ่อมแซมตราประทับของอาณาจักรสำเร็จ
ตราประทับแห่งอาณาจักรอารูเพ่น!
สัญลักษณ์ของผู้ปกครองทวีปในอดีตกาล
-ทักษะการแกะสลักทั้งหมดเพิ่มขึ้น
3% เมื่อทำการซ่อมแซมตราประทับของราชวงศ์
-ทักษะฟื้นฟูประติมากรรมนั้นอยู่ที่ขั้นกลางเลเวล
8
ความเชี่ยวชาญทักษะงานฝีมือนั้นเพิ่มขึ้น
9%
ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น 37 แต้ม
ผู้ปกครองอาณาจักร : ความทนทาน 38/60
ตราประทับของผู้ปกครองทวีปเวอร์เซลล์
ประติมากรรมที่โอบล้อมไปด้วยปริศนาอันมากมาย
ความทรงจำในอดีตเหมือนจะยังคงหลงเหลืออยู่ในตราประทับนี้
คุณค่าทางศิลปะ : 49400
ความสามารถเพิ่มเติม : +3000 ค่าชื่อเสียง
+105 เกียรติยศ
+ 60 ความโด่งดัง
+70 เสน่ห์
สามารถใช้อำนาจขององค์จักรพรรดิได้
ค่าความภักดีและขวัญกำลังใจทหารเพิ่มขึ้นสูงสุด
25
%
ลดผลที่เป็นอันตรายจากเวทย์มนต์ทุกชนิด
60%
ข่มขวัญเหล่าขุนนางและอัศวินได้
นกทองคำได้รับความทรงจำจากอดีต
|
สมบัติทางประวัติศาสตร์นั้นเพิ่มค่าความสามารถ
ค่าเกียรติยศนั้นได้ถูกสร้างขึ้น
ค่าเกียรติยศ : มีได้ในเหล่าราชวงศ์ ขุนนาง และอาชีพอัศวิน
มีความสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญกันในเหล่าขุนนาง
ผู้อยู่อาศัยจะให้ความเคารพ
ผู้อยู่อาศัยจะลดการบ่นในเรื่องของการจ่ายภาษี
คุณสามารถเพิ่มค่านี้ได้เมื่อคุณเลเวลอัพ
เพิ่มขึ้นเมื่อผู้คนทำตามกฏหรือเมื่อมีคำสั่งจากพระราชา
สมบัติ งานทางศิลปะ
และอาคารสามารถเพิ่มค่านี้ได้
|
เขาได้ค่าสถานะใหม่
แต่ว่าจนถึงตอนนี้วีดให้ความสำคัญแค่เพียงค่าความแข็งแรงและความว่องไว
ค่าเกียรติยศนั้นสามารถใช้ได้กับอาวุธและชุดเกราะได้หลากหลาย
แต่วีดก็ไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มมันสักเท่าไหร่
“ข้าต้องการเป็นห่วงเพียงแค่ว่าข้าจะกินอยู่อย่างไรมากกว่ามีเกียรติยศเท่าไหร่”
วีดมองไปที่ความทรงจำของจักรพรรดิ
ความเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิอารูเพ่น!
พวกเขาสร้างวิหารจากหินอ่อนที่สวยงามและยังมีสัตว์ประหลาดมีชีวิตอยู่มากมาย
ประติมากรรมเป็นชิ้นงานศิลปะที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์ทั้งหมด
เขามองเห็นกองทัพนกต่อสู้กับมอนสเตอร์และสัตว์อสูรตัวใหญ่กำลังกระจายเมล็ดพันธุ์ที่พื้นดิน
ตรงกันข้ามกับมนุษย์นั้นที่เกียจคร้านและไม่มีความกระตือรือร้น
“ไม่ ไม่ ข้าแก่เกินไปที่จะเที่่ยวเล่นเหมือนกับพวกคนหนุ่มสาว”
“เอาเบียร์มาให้ข้าอีก เอ้าดื่ม!”
ในช่วงกลางวันนั้น
ในเมืองหลวงของอาณาจักรอารูเพ่นนั้นมีมนุษย์มากมายกำลังพักผ่อน
จักรพรรดิเกอาวอนอาเพ่น
มองดูอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เกินไปของเขา!
การศึกษาเวทมนตร์และการฝึกดาบนั้นไม่มีผู้ใดสนใจเพราะว่าไลฟ์สไตล์ที่ง่ายๆ
ประติมากรรมประทานชีพได้ถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกทารุณกรรมเหมือนเป็นตัวตลก
เห็นดังนั้นจักรพรรดิเกอาวอนอาเพ่นก็ได้ตัดสินใจที่สิ่งที่ยากออกมา
“ข้าขอเรียกขานประติมากรรมประทานชีพของข้า!”
เหล่าประติมากรรมประทานชีพที่อยู่ในอาณาจักรอารูเพ่นกำลังรอคำสั่งของเขา
“พวกเจ้าไม่ต้องรับใช้มนุษย์อีกต่อไป พวกเจ้าไม่ต้องฟังคำสั่งและบัดนี้
พวกเจ้าสามารถแสวงหาอิสรภาพที่พวกเจ้ารอคอย!”
เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว!
เมื่อสิ้นแล้วซึ่งจักรพรรดิเกอา
เหล่าประติมากรรมประทานชีพก็ไม่ฟังคำสั่งของใครอีกต่อไป
เหล่านกไปสร้างอาณาจักรของตัวเอง
เป็นตระกูลจอยจ็อค
เมืองลอยฟ้าลาเวียสร์นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากประติมากรรมประทานชีพ!
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
สัตว์ประหลาดแปลกๆที่มีรูปร่างแตกต่างกันเช่นโทรลและอ็อคนั้นอาศัยอยู่ในป่าลึก
เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นสร้างวงศ์ตระกูลขึ้นมา
พวกเขาหลบไปอาศัยอยู่ตามถ้ำและป่าลึกเพื่อหลบหลีกจากมนุษย์
“เจ้ามาจากที่แห่งใด?”
“จักรพรรดิเกอาสร้างข้าขึ้นมาเมื่อตอนที่เขาอายุ 35 ปี”
“งั้นอย่าทำตัวหยาบคายกับข้า
ข้านั้นถูกสร้างมาตอนเขาอายุได้ 25 ปี”
“ข้าต้องขอโทษท่านด้วยที่ข้าหยาบคายกับท่านนะรุ่นพี่”
ช่างเป็นระบบรุ่นพี่รุ่นน้องที่เข้มงวดมากๆ!
เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นสร้างโลกของตัวเองและคานความสมดุลของทวีปเวอร์เซลล์
จักรพรรดิเกอาได้สร้างรูปปั้นสัตว์ประหลาดที่เป็นประติมากรรมประทานชีพจำนวนมากที่เป็นที่รู้จักดี
พวกมันไม่ได้รู้สึกผูกพันกับมนุษย์มากนักเพราะว่่าพวกมันไม่ได้ยอมให้กับมนุษย์
พวกมันเริ่มที่จะมีความขัดแย้งและเข่นฆ่ามนุษย์และบ่อยครั้งที่ชนะการต่อสู้
มนุษย์เริ่มที่จะตำหนิเหล่าสัตว์ประหลาดที่จักรพรรดิเกอาสร้างขึ้นมา
จักรวรรดิอารูเพ่นนั้นล่มสลายและไม่สามารถรวมเป็นปึกแผ่นได้เพราะว่าเหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นจากไปแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหนังสือประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้กล่าวถึงเหล่าประติมากรรมประทานชีพของจักรพรรดิเกอาอีกเลย
ต้นกำเนิดของพวกมันก็ถูกลืมเลือนไป
อย่างไรก็ตาม ณ
ที่ลึกลับทางตะวันออกนั้นก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ห่างไกลจากพวกมนุษย์
วีดจ้องมองวิดีโอและสั่นสะท้านเล็กน้อย
“เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นเป็นต้นกำเนิดของพวกมอนสเตอร์...”
มันมีการจำกัดจำนวนของมอนสเตอร์แต่ว่ามันก็เป็นความจริงที่ว่าถ้ารู้ว่าเป็นประติมากรรมประทานชีพแล้วนั้นจะสามารถออกคำสั่งได้!
มันเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับประติมากรรม
มันเป็นจุดสำคัญระหว่างการแกะสลัก
ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะยุติการสร้างผลงานชั้นเยี่ยมได้
วีดยิ้มอย่างชั่วร้าย
“บางทีมันก็ไม่สำคัญที่จะต้องรู้ก็ได้”
บางทีความจริงมันก็ไม่ได้ดีเสมอไป
บางทีเราก็ต้องซ่อนความจริงบางอย่างไว้ในประวัติศาสตร์
จักรพรรดิเกอา วอน อาเพน
นั้นสร้างรูปปั้นไว้มากมายนับไม่ถ้วนและพวกมันบางส่วนก็เป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว
“มันไม่ใช่อะไรที่ควรเห็นเลยสินะ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ไว้ละกัน”
วีดหัวเราะหนักมาก
“ข้าสบายดี กินนี่สิมันดีนะ”
เขากำลังกินสมุนไพร!
มันไม่ได้เป็นที่สังเกตยกเว้นกับประติมากร
เมื่อเขารู้ดังนั้น เขาก็ปิดปากเงียบ
อื้ม มอออออออออออออ
ทันใดนั้น เจ้าเหลืองก็ร้องไห้และเดินเข้ามาในห้อง
เจ้าวัวทำทุกอย่างเพื่อให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“รากของสมุนไพรจะช่วยให้แข็งแรงและมีกำลังวังชา”
เจ้าเหลืองเป็นคนที่มีความกตัญญูเมื่อเขาลูบหัวมัน
มันอ่อนแอต่อการให้สินบนและรางวัลต่างๆที่เจ้านายเสนอให้
วีดมีความคิดอย่างลับๆว่ามันคงต้องมีผลกระทบอย่างมากต่อทวีปเวอร์เซลล์
“เกี่ยวกับเควสประติมากรรมนี้ มันก็ดีที่เราได้ทราบข้อมูลพื้นฐานเยอะๆ”
เควสประติมากรรมอย่างง่ายให้ค่าความชำนาญและค่าตอบแทนที่น้อย
แต่ที่เขาทำอยู่นี่มันเป็นการผจญภัยที่ยากและยิ่งใหญ่มากๆสำหรับประติมากรตั้งแต่ที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แห่งประติมากรรมของทวีปเวอร์เซลล์
มันเป็นไปได้ที่จะค้นพบทักษะประติกรรมที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน
ประติมากรรมนั้นมีส่่วนร่วมอย่างยิ่งใหญ่ต่อประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ
ในสมัยโบราณกาล
นักล่ามักจะใช้ประติมากรรมในการเพิ่มความกล้าหาญและความเชื่อต่างๆ
ประติมากรรมนั้นมี 3
มิติที่เเสดงให้เห็นถึงรูปทรงของมัน
ศิลปะนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถูกผูกมัดโดยอาศัยการดำรงชีวิต
ขอบเขตที่น่าสนใจของมันอยู่ภายใต้ทวีปเวอร์เซลล์
ผู้แปล:
Maruipengin
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล