วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 18 ตอนที่9 : ประวัติศาสตร์ของประติมากรรม แปลโดย Maruipengin

เล่ม 18 ตอนที่9 : ประวัติศาสตร์ของประติมากรรม แปลโดย Maruipengin
ลอร์ดของทวีปในภาคกลางนั้นไม่เหมือนกับวีด
 “เพียงเพราะว่าเขามีชื่อเสียงนิดหน่อยใน Continent of Magic แค่นี้เขาก็พูดกันไปว่าเราไม่ควรไปซี้ซั้วท้าสู้กับเขาใน Royal Road”
 “เทพสงคราววีดยังงั้นหรอ? เมืองเล็กๆของเขาจะถูกบดขยี้เป็นผุยผงแน่นอนถ้ามันอยู่ในทวีปภาคกลาง
 “เพียงแค่เขาทำเควสต่อเนื่องที่คนอื่นคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางสำเร็จแค่นี้เนี่ยนะ
ลอร์ดแต่ละคนในทวีปภาคกลางนั้นมีความคิดที่เหมือนกันเกี่ยวกับเส้นทางที่เต็มไปด้วยเลือดของเขา
พวกเขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในแถวหน้าของ Royal Road และพวกเขามีชัยชนะเหนือผู้เล่นอื่นๆในสงครามต่างๆ
ลอร์ดแต่ละคนนั้นมีกองกำลังที่สุดยอดอย่างน้อย 80,000 ยูนิต ในแต่ละเมืองที่พวกเขาครอบครองนั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมาย
 “โมราต้าก็งั้นๆอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก
ล้วนแต่มีแต่ความขุ่นเคืองใจและอิจฉาในตัววีด!
ผู้ที่ชื่นชอบในสงครามนั้นค่อนข้างรำคาญเกี่ยวกับชื่อเสียงของผู้เล่นวีดที่ได้มาจากการทำเควสของเขา พวกเขาหงุดหงิดเกี่ยวกับจำนวนผู้เล่นเริ่มต้นในโมร้าต้า 
 “ประติมากรรมเหล่านั้นมีชีวิตแถมยังขยับได้….การสร้างประติมากรรมเหมือนกับการซัมม่อนมอนสเตอร์ไม่ใช่เลยหรอไงนั่น? พอคิดได้อย่างเดียวว่ามันต้องมีความลับอยู่ในทักษะประติมากรรมนั่นอย่างแน่นอน
 “ด้วยระดับการเติบโตที่โมราต้ามีนั้นทำให้มีความเป็นไปได้ที่เมืองทางเหนือนี้จะเจริญล้ำหน้าทวีปกลางไปได้อีก!”
ท่ามกลางความโกรธของเหล่าลอร์ดต่างๆ บาร์ดเรย์จากกิลด์เฮอร์มิสนั้นอยู่เฉยๆรอผลของสงครามนี้ เขาจงใจที่จะไม่ดูทีวี เขาออกล่าเหมือนปกติระหว่างการรอฟังข่าวการตายของวีด

สำนักข่าวต่างๆนั้นกำลังจับตาดูสงครามเมืองทางเหนือเพื่อรายงานข่าว  ไม่ว่าจะเป็นการได้ยินข่าวร้ายที่โมราต้าชนะ ก็ไม่อาจเปลี่ยนท่าทีของบาร์ดเรย์ได้

 “วีดชนะอย่างนั้นรึ
 “ใช่แล้ว โมราต้านั้นไม่ได้รับความเสียหายมากนัก กลุ่มพันธมิตรทางเหนือนั้นไร้ความสามารถ และยังขาดความพร้อม
 “แต่กำลังพลของโมราต้าดีกว่ายังงั้นใช่ไหม?”
บาร์ดเรย์ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น
หลายวันต่อมา สถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกวิเคราะห์ออกมาเป็นรายงานเกี่ยวกับกำลังพลของสงครามระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย
จากที่ได้ยินมา กลุ่มพันธมิตรทางเหนือนั้นควรจัดการโมราต้าได้สำเร็จ
 “ผมเดาว่ามันต้องเป็นเพราะความสามารถพิเศษของวีดอย่างแน่นอน
 “ใช่เลย มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ มันไม่มีคำไหนจะมาอธิบายความสามารถของเขาได้
“...”

 “ผู้ที่มีส่วนร่วมในสงครามของโมราต้านั้นมีทั้งความสามารถและเทคนิคเช่นเดียวกับการปรากฏตัวของอัศวินแห่งคัลลามอร์นั้นเป็นจุดสนใจของผู้คน ข้อความบนบอร์ดก็ดำเนินต่อไปไม่หยุด
บาร์ดเรย์นั้นมีท่าทีที่สงบนิ่ง เทียบกับกิลด์เฮอร์มิสแล้ว พวกนั้นเป็นเพียงแค่กิลด์ชั้นรองทางเหนือ
จำนวนคนทั้งหมดที่มีนั้นไม่สามารถเขย่ากำลังของ อาณาจักรฮาเว่น ได้เลย ต่อให้เขานั้นไม่มีการเปลี่ยนท่าทีที่เเสดงออกมา แต่ภายในใจลึกๆแล้วไม่เลย
 “วีดก่อสงครามขึ้นมาและยังบังคับให้พวกพันธมิตรทางเหนือนั้นยอมแพ้…!”
นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้บาร์ดเรย์นั้นไม่สบอารมณ์


 “ขายกริชเก่าจ้า มันตัดได้เยี่ยมมากและเหมาะสมที่สุดกับการล่ามอนเตอร์
 “ขายดาบโค้งจ้า มันเป็นดาบสำหรับผู้เริ่มต้นที่แข็งแกร่งมาก ข้าขายให้ถูกๆเลยนี่
 “ขายเกราะหนังจ้า ตรงบริเวณอกมีรอยขาดนิดหน่อยแต่ส่วนอื่นก็ยังโอเคอยู่นะ
การค้าขายระหว่างผู้เล่นเริ่มต้นมีตั้งแต่ไม่กี่ทองแดงไปจนถึง 5 เหรียญทอง!
จัตุรัสไวเวิร์น จัตุรัสปิงหลง จัตุรัสแห่งแสง และจัตุรัสเจ้าเหลือง นั้นหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว จัตุรัสทั้ง 4 ที่เขาสร้างขึ้นมานั้น ตอนนี้บูมมากทั้งที่เมื่อก่อนโล่งโจ้ง
อย่างไรก็ตาม ที่โมราต้านั้นมีการเพิ่มจำนวนของผู้เล่นเริ่มต้นมากขึ้นเนื่องจากสงคราม
หลังจากที่ Royal Road ออกอากาศ ผู้เล่นจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามา
 “ขายขนมปังข้าวบาร์เลย์ 3 ชิ้น
 “เจ้าขายของพวกนี้เพื่อประทังชีวิตอย่างนั้นเหรอ?”
 “ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าข้าจะสามารถซื้ออาวุธได้
 “อ่าา อย่างน้อยข้าก็ยังได้ดื่มน้ำ ถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยให้อิ่มท้องสักเท่าไหร่
 “ขอบคุณมาก
สายลมของฤดูใบไม้ร่วงที่พัดพามาที่โมราต้าทำให้เมืองมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก ผู้เล่นมือใหม่ต่างเข้ามาเเลกเปลี่ยนสินค้าพิเศษ 1 หรือ 2 ชิ้น
ผู้เล่นกว่า 10,000 คน เตร็ดเตร่ไปมา ระหว่างที่ปาโวก่อสร้างศูนย์กลางทางศิลปะของเมืองโมราต้า
ระหว่างวันหยุดยาวนี้ วีดก็ได้ทำงานสำเร็จ
 “ข้าฟื้นฟูเหล่าประติมากรรมสำเร็จแล้ว ต่อไปก็ควรที่จะต้องไปออกล่าเพื่อเพิ่มเลเวล ข้าต้องการจดจ่ออยู่กับมัน เพราะใจข้ามันไม่สงบเลยเมื่อลมหนาวพัดมา
ทริปที่เขาไปมานั้นทำให้วันหยุดหน้าร้อนของเขาสั้นลง
 “หน้าต่างสถานะ!”
ชื่อ : วีด
ฉายา : ประติมากรนิรันดร์กาล
เลเวล : 368
อาชีพ : ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน!
ฉายา : ผู้บัญชาการแห่งการสังหารมังกร
ค่าชื่อเสียง : 29,726
HP: 31360
Mana: 14405

ความเเข็งแรง(Strength) : 1315
ความว่องไว(Agility): 1005
ความอึด(Stamina): 159
ความฉลาด(Wisdom): 189
สติปัญญา(Intelligence): 184
ความอดทน(Endurance): 695
ศิลปะ(Art): 1621
พรสวรรค์(Charisma): 260
ความเป็นผู้นำ(Leadership): 672
โชค(Luck): 215
ความศรัทธา(Faith) : 135 + 435
เสน่ห์(Charm): 210 +30
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้(Fighting Spirit): 419
ขวัญและกำลังใจ(Mentality): 25
ความน่าเกรงขาม(Honor): 95
พลังโจมตี: 5329
พลังป้องกัน: 1761
ความทนทาน: ไฟ: 27% น้ำ: 31% ดิน 35% ความมืด 50%

+ค่าสเตตัสทุกตัวเพิ่มขึ้น 20 แต้ม
+ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น 80 แต้ม
+ เพิ่มค่าสเตตัส 30% ในคืนที่มีแสงจันทร์
+ สามารถเรียนรู้ทักษะการผลิตได้จนถึงระดับมาสเตอร์ สามารถเรียนสกิลเสริมของทักษะการผลิต สามารถเรียนทักษะระดับสูงได้
+ ประติมากรรมที่มีค่าทางศิลปะสูง สามารถเพิ่มค่าชื่อเสียงได้
+ ค่าสเตตัสทั้งหมด 113 แต้ม นั้นได้เพิ่มขึ้นจากประติมากรรม ทักษะ กาารต่อสู้ และเควส มากกว่า 100 แต้มได้เพิ่มขึ้นจากทักษะประติมากรรมและการผลิต ตั้งแต่เริ่มแรก 
+ กำไลข้อมือได้ถูกสวมใส่ เพิ่มค่าสเตตัสทุกอย่าง 15 แต้ม

วีดมีเลเวลกลับไปอยู่ที่ 368 เพราะใช้ทักษะในการคืนชีพประติมากรรม
ในแต่ละครั้งที่เขาเลเวลอัพนั้นเขาได้ทุ่มค่าสเตตัสไปยังค่าความเข็งแกร่งและความว่องไว ในขณะที่ปล่อยให้ค่าอื่นๆเพิ่มขึ้นจากเควส อุปกรณ์ และการแกะสลัก
หน้าต่างสถานะของเขาแสดงแถบที่สวยงามจากการที่เขาทำงานอย่างหนัก
ในบอร์ดสนทนาของเว็บไซต์ Royal Road พูดไปก็จะหาว่าโม้ ค่าสถานะของเขานั้นไม่มีใครที่จะทำแบบนี้ได้

 “ไม่ได้มีเพียงแค่โกลมินิ ปิงหลง หรือว่าราชาไฮดร้า แต่ว่าข้านั้นมีเลเวลต่ำกว่าพวกไวเวิร์นเสียอีก
เพราะว่าเควสทำให้เลเวลของเขาไม่ค่อยไปถึงไหน ด้วยเพราะว่าตามธรรมชาติของเควสนั้นมันเน้นไปที่ทำยังไงให้สำเร็จไม่ได้โฟกัสไปที่การออกล่า
เลเวลของเขายังห่างชั้นกับคำว่าแข็งแกร่งยิ่งนัก แทนที่เขาจะได้เพิ่มทักษะความชำนาญต่างๆ เขากลับเพิ่มกองกำลังทหารสำหรับการต่อสู่
 “เหล่าผู้เล่นที่เห็นอยู่ในทีวีนั้นน่าจะมีเลเวลอยู่ที่ 420 หรือมากกว่านั้น….ข้าไม่สามารถหยุดหรือว่ารออะไรได้อีกแล้ว อย่างเเรกเลยที่ต้องทำคือฟื้นฟูตราประทับ
วีดเดินเข้าไปยังห้องเล็กๆภายในปราสาทเจ้าเมือง
 “ประติมากรรมมากมายยังไม่ใช่ผลงานชั้นเยี่ยม
ในการที่จะเพิ่มเลเวลของการซ่อมแซมประติมากรรม เขาต้องทำลายประติมากรรมซ้ำไปซ้ำมา
เขาต้องทำงานอย่างหนักในการสร้างผลงานที่สวยงามและล้ำค่า ต่อไปก็ทำลายมัน แล้วหลังจากนั้นก็ซ่อมแซมอีกครั้ง
 “ทำไมมันช่างยากเย็นอย่างนี้ เหมือนกับว่าข้ายังคงไม่เข้าใจความหมายของการทำงานอย่างหนักเช่นนี้
เขาทนทุกข์ทรมานกับการที่เขาต้องเลือกประติมากรรมขึ้นมาแล้วก็ต้องทำลายมัน!
 “อันนี้ก็ต้องทำอย่างนี้ด้วยสินะ
วีดเลือกประติมากรรมเจ็ดปีศาจแห่งเงินตรา ที่มีคำว่าปีศาจสลักอยู่บนหน้าผากและยังยื่นมือมาขอเงินอย่างหน้าไม่อาย
มันมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเจ้าปีศาจที่แบมือขอเงินนั่น! ผลงานชั้นดีนั้นมีความหมายแฝงอยู่ในตัวและมีความสวยงามเพียงพอที่จะเป็นของล้ำค่า
วีดมองดูที่ประติมากรรมที่สมบูรณ์แล้ว
 “นี่ล่ะ!”
เคร้้ง! เคร้ง! เคร้ง! เพล้ง!
เขาหยิบประติมากรรมออกมา และก็เอาค้อมทุบพวกมัน
เขาทำลายดวงตา ข้อต่อแล้วก็หักคอมัน!
 “เจ้าปีศาจแห่งเงินตรา!!”
มีทั้งความขมขื่นและความเกลียดชังแฝงอยู่ในนี้
- คุณทำลายผลงานประติมากรรม
ค่าชื่อเสียงลดลง 5 แต้ม
วีดต่อชิ้นส่วนของประติมากรรมที่แตกหักแล้วก็ทำลายผลงานที่ทำเสร็จใหม่ลงไปอีกครั้ง
ขั้นตอนในการสร้างประติมากรรมนั้นยังคงมีอยู่ในความทรงจำของเขา เขาจึงสามารถซ่อมเเซมเจ้าปีศาจแห่งเงินตราได้อย่างรวดเร็ว
 “เจ้าปีศาจเเห่งเงินตราที่ชั่วร้าย!”
ทำลายมันซ้ำๆแล้วก็ซ่อมแซม!
แล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไป
-ทักษะฟื้นฟูประติมากรรมขั้นกลาง
ความทนทานและความมันวาวจะดีขึ้น
ความทรงจำของประติมากรรมเพิ่มขึ้น 20 แต้ม
มันมีความละเอียดมากกว่าทักษะประติมากรรมระตับเริ่มต้น โดยเขาใช้เจ้าปีศาจแห่งเงินตราเป็นตัวช่วยที่ทำให้เขาบรรลุทักษะฟื้นฟูประติมากรรมขั้นกลางได้
 “ข้าต้องการประติมากรรมชั้นดีเพื่อเพิ่มความมุ่งมั่นและความเกลียดชัง!”
หลังจากเจ้าปีศาจแห่งเงินตราต่อไปเป็นคิวของเจ้าฮิปโปที่หิวกระหาย
มันเป็นฮิปโปโปเตมัสตัวใหญ่เท่าๆกับเจ้าเหลืองที่กำลังกินเหรียญทองแดงบนพื้น
เจ้าฮิปโปตะกละที่กินเงินนั้นเป็นการสื่อถึงคนชั่ว เป็นความหมายของศิลปะที่ยอดเยี่ยมที่ต้องการสื่อออกมา!
ผลข้างเคียงของการสื่อถึงเงินนั้นทำให้มันมีคุณค่าทางศิลปะมากถึง 1400
 “ตายซะ!”
วีดขยับเจ้าฮิปโปขึ้นในขณะที่เริ่มจุดไฟเพื่อหลอมเหล็ก

ในอดีต มนุษย์ได้ทำสิ่งที่ชั่วร้าย โหดเหี้ยม และทารุณ เพียงเพื่อให้ได้เงินพวกนี้ ซึ่งไม่ต่างจากฮิปโปที่กำลังหิวโหย มุ่งหมายที่จะทำร้ายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า เมื่อมันกำลังหงุดหงุดและโมโหอย่างรุนแรง(ฮิปโปตกมัน 555)
เจ้าเหลืองผู้ที่มาจากทุ่งหญ้าเลี้ยงวัวและกลับมาเพื่อนอนหลับที่บ้านพักของเจ้าของ ผู้ซึ่งเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
โกลมินิ ไวเวิร์น ปิงหลง มองกิจกรรมของวีดจากภายนอกหน้าต่างจากข้างนอกของปราสาทเจ้าเมือง
 “ข้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายให้มากกว่านี้ซะแล้ว
 “พวกเราช่างโชคดีมากที่ไม่ได้เป็นเหมือนเจ้าฮิปโปตัวนั้น
พวกเหล่าประติมากรรมมีชีวิตนั้นได้ให้คำสัตย์สาบานแด่เจ้านายของพวกมัน!
วีดเริ่มใช้เจ้าฮิปโปเพื่อทักษะประติมากรรมการฟื้นฟูและซ่อมแซม จนถึงขั้นกลาง เลเวล 7
เขาทำงานต่อเนื่องมา 4 วันติดแล้ว
ตั้งแต่เขาไม่ต้องไปทำอะไรไร้สาระอย่างเช่นไปโรงเรียนแล้ว เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับรอยัลโร้ด
 “ตอนนี้ได้เวลาที่จะฟื้นฟูตราประทับแห่งราชวงศ์อารูเพ่นแล้ว
วีดค่อยๆดึงตราประทับออกมา เขาห่อประติมากรรมชิ้นก่อนหน้านี้ด้วยเสื้อผ้าคุณภาพดีเพื่อป้องกันความเสียหาย
 “ข้าต้องการซ่อมแซมประติมากรรมชิ้นนี้...”
สิ่งที่แตกต่างจากทักษะอื่นคือ ทักษะการซ่อมแซมประติมากรรมนั้นต้องทำด้วยมือของตัวเองเท่านั้น
 “ความทรงจำของกษัตริย์เกฮาร์ วอน อาเพ่น(Geihar Von Arpen) นั้นอยู่ภายในประติมากรรมชิ้นนี้ ซึ่งมันทำให้ยากที่จะซ่อมแซม
รูปร่างของประติมากรรมมันเหมือนกับทำมากจากทองและหยก เขาเตรียมที่จะซ่อมแซมสมบัติโบราญชิ้นนี้
 “ทักษะซ่อมแซมประติมากรรม!”
เขาใช้ทักษะของเขาขึ้นรูปทองคำ เขาพยายามที่จะทำให้มันกลับไปเป็นรูปทรงเดิมของมัน
ผ่าง!!
เขาหยิบชิ้นส่วนเก่าแก่ที่แตกหักขึ้นมาและซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหายต่อไป

หลังจากปีแห่งการถูกปรามาส ไม่มีสัญญาณของการแตกหักหรือชิ้นส่วนที่หายสาปสูญ
 “ได้เวลาซ่อมส่วนล่างแล้วสินะ
ตราประทับเป็นสัญลักษณ์ของผู้ปกครองทวีป แต่มันก็ถือว่าเป็นประติมากรรมที่สำคัญมากเหมือนกัน
วีดค่อยๆซ่อมแซมชิ้นส่วนของประติมากรรมแห่งอารูเพ่นอย่างพิถีพิถัน

การซ่อมแซมประติมากรรมขึ้นอยู่กับเลเวลทักษะแต่ด้วยตราประทับแห่งอารูเพ่นเป็นของโบราณ มันจึงสามารถพังเสียหายได้ทุกครั้งในระหว่างที่ทำการซ่อมแซม
ยังโชคดีที่เขานั้นสามารถซ่อมเเซมในจุดที่เสียหายอย่างรุนแรงของตราประทับได้และยังจดจำในต้นแบบของตราประทับที่เขาเคยเห็นมันมาก่อน
เขาจัดการซ่อมแซมในส่วนที่เป็นรูปมังกรสีทอง เขาสามารถตกแต่งในรายละเอียดเล็กๆได้
-คุณใช้ทักษะฟื้นฟูประติมากรรม
ความชำนาญทักษะฟื้นฟูประติมากรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในการซ่อมแซมศิลปวัตถุที่สูญหาย ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น 3 แต้ม
มันเป็นของโบราณที่ดูเหมือนจะไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกับพวกประติมากรรมชิ้นใหญ่ๆ
 “มันสำเร็จใช่ไหมเนี่ย?”
วีดซ่อนตราประทับไว้ตั้งแต่ที่เขาคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับเขาที่จะมองดูมัน มันเหมือนกับการกินข้าวเปล่าๆโดยไม่มีกิมจิเป็นเครื่องเคียง
 “ตรวจสอบ!”
ตราประทับของจักรพรรดิไร้นาม : ความคงทน 24/30
ประวัติศาสตร์ของทวีเวอร์เซลล์เกี่ยวกับอาณาจักรอารูเพ่น
มันยากที่จะจินตนาการได้ถึงประติมากรผู้ที่รังสรรสร้างมันขึ้นมา
ประติมากรที่เชื่อถือได้คนนั้นพยายามที่จะซ่อมแซมมันขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนเพราะว่าข้อจำกัดของระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน
คุณค่าทางศิลปะ : 43100
ความสามารถเพิ่มเติม : +95 เกียรติยศ
+55 คุณสมบัติพิเศษ
ค่าความภักดีและขวัญกำลังใจของทหารเพิ่มขึ้น 20%
ลดผลที่เป็นอันตรายจากเวทย์มนต์ทุกชนิด 55%
ข่มขวัญเหล่าขุนนางและอัศวิน
 “มันยังไม่สมบูรณ์อยู่ดี
ตราประทับนั้นถูกซ่อมอย่างดีแต่มันก็ยังไม่ได้อารมณ์เหมือนกับตอนที่ประติมากรรมนั้นเป็นเหมือนกับตอนแรกเริ่มของมัน
เขาต้องการที่จะซ่อมแซมประติมากรรมของจักรพรรดิเกฮาวอนอาเพ่นในส่วนของร่องรอยของระยะเวลากับส่วนที่เสียหายรุนแรงให้สมบูรณ์แบบ
 “มังกรทองนั้นน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์และราชการ
 “ตราประทับของราชวงศ์นั้นควรจะดูส่องประกายมากกว่านี้
วีดเริ่มต้นทำงานของเขาอีกครั้งอย่างช้าๆและระมัดระวังมากขึ้น
 “ข้าต้องลองจินตนาการใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับมังกรทองทั้งหมด มันต้องมีรูปแบบเดียวกันกับที่พบที่อาณาจักรอารูเพ่น
ประติมากรรมนี้ทำมาจากวัสดุที่เปราะบางมาก
หินเป็นวัสดุพื้นฐานจากธรรมชาติที่หยาบแต่มีความสวยงาม ในขณะที่หินอ่อนและทองเหลืองนั้นมีความเรียบลื่นมากกว่า
วัสดุที่ต่างกันนั้นก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันในงานศิลปะ
ทองนั้นเป็นวัสดุที่มีความแข็ง เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วก็จะมีราคาแพงมากๆ
ดังนั้นคุณต้องทำอย่างประณีต ประติมากรรมต้องใช้วัสดุที่ล้ำค่าและโลหะที่พิเศษมากซึ่งหาได้ยากแต่ก็ให้ความงดงามที่คู่ควร
 “นั่นคงเป็นเหตุผลที่ว่าจักรพรรดิเกฮาสร้างสิ่งนี้มาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักร
ประติมากรรมนั้นเป็นศิลปะแบบ 3 มิติ และมันยังมีการตกกระทบของแสง
แสงนั้นทำให้มีการเปลี่ยนแปลงความรู้สึก และการสร้างประติมากรรมนั้นต้องมีความงดงามและน่าค้นหา
ประติมากรรมจากหินนั้นสามารถวางไว้ได้ทั่วไปที่คนผ่านไปผ่านมาสามารถมองเห็นได้ เมื่อตกกระทบกับแสงนั้นก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างของประติมากรรมได้
ช่างแกะสลักที่ดีนั้นจะรู้มุมของแสงและเงา และเรียนรู้ที่จะใช้การแกะสลักแสง มังกรทองนั้นเหมือนจะอยู่เหนือหลักการแห่งแสงพวกนั้น
 “แกะสลักแสง จักรพรรดินั้นเป็นผู้วางรากฐานของการแกะสลัก!”
เขาสร้างโครงของมังกรทองเพราะว่านี่คืองานของเขา วีดเริ่มที่จะใช้การแกะสลักแสงเพื่อซ่อมแซมตราประทับ
การแกะสลักแสงเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เขาค่อยๆขยับมือไปอย่างช้าๆ
ทุกๆครั้งที่เขาสัมผัสมัน ประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองของอาณาจักรนั้นก็คืนชีพและส่องแสงออกมาจากประติมากรรม

อาณาจักรอารูเพ่นที่รุ่งโรจน์และการฟื้นคืนชีพของมังกรทอง วีดสามารถซ่อมแซมประติมากรรมนั้นด้วยความสามารถทั้งหมดที่เขามี
ตริ้งง!
-คุณซ่อมแซมตราประทับของอาณาจักรสำเร็จ
ตราประทับแห่งอาณาจักรอารูเพ่น!
สัญลักษณ์ของผู้ปกครองทวีปในอดีตกาล
-ทักษะการแกะสลักทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3% เมื่อทำการซ่อมแซมตราประทับของราชวงศ์
-ทักษะฟื้นฟูประติมากรรมนั้นอยู่ที่ขั้นกลางเลเวล 8
ความเชี่ยวชาญทักษะงานฝีมือนั้นเพิ่มขึ้น 9%
ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น 37 แต้ม
ผู้ปกครองอาณาจักร : ความทนทาน 38/60
ตราประทับของผู้ปกครองทวีปเวอร์เซลล์
ประติมากรรมที่โอบล้อมไปด้วยปริศนาอันมากมาย
ความทรงจำในอดีตเหมือนจะยังคงหลงเหลืออยู่ในตราประทับนี้
คุณค่าทางศิลปะ : 49400
ความสามารถเพิ่มเติม : +3000 ค่าชื่อเสียง
+105 เกียรติยศ
+ 60 ความโด่งดัง
+70 เสน่ห์
สามารถใช้อำนาจขององค์จักรพรรดิได้
ค่าความภักดีและขวัญกำลังใจทหารเพิ่มขึ้นสูงสุด 25 %
ลดผลที่เป็นอันตรายจากเวทย์มนต์ทุกชนิด 60%
ข่มขวัญเหล่าขุนนางและอัศวินได้
นกทองคำได้รับความทรงจำจากอดีต

สมบัติทางประวัติศาสตร์นั้นเพิ่มค่าความสามารถ
ค่าเกียรติยศนั้นได้ถูกสร้างขึ้น
ค่าเกียรติยศ : มีได้ในเหล่าราชวงศ์ ขุนนาง และอาชีพอัศวิน
มีความสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญกันในเหล่าขุนนาง ผู้อยู่อาศัยจะให้ความเคารพ
ผู้อยู่อาศัยจะลดการบ่นในเรื่องของการจ่ายภาษี
คุณสามารถเพิ่มค่านี้ได้เมื่อคุณเลเวลอัพ
เพิ่มขึ้นเมื่อผู้คนทำตามกฏหรือเมื่อมีคำสั่งจากพระราชา
สมบัติ งานทางศิลปะ และอาคารสามารถเพิ่มค่านี้ได้
เขาได้ค่าสถานะใหม่ แต่ว่าจนถึงตอนนี้วีดให้ความสำคัญแค่เพียงค่าความแข็งแรงและความว่องไว
ค่าเกียรติยศนั้นสามารถใช้ได้กับอาวุธและชุดเกราะได้หลากหลาย แต่วีดก็ไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มมันสักเท่าไหร่
 “ข้าต้องการเป็นห่วงเพียงแค่ว่าข้าจะกินอยู่อย่างไรมากกว่ามีเกียรติยศเท่าไหร่

วีดมองไปที่ความทรงจำของจักรพรรดิ
ความเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิอารูเพ่น!
พวกเขาสร้างวิหารจากหินอ่อนที่สวยงามและยังมีสัตว์ประหลาดมีชีวิตอยู่มากมาย
ประติมากรรมเป็นชิ้นงานศิลปะที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์ทั้งหมด
เขามองเห็นกองทัพนกต่อสู้กับมอนสเตอร์และสัตว์อสูรตัวใหญ่กำลังกระจายเมล็ดพันธุ์ที่พื้นดิน
ตรงกันข้ามกับมนุษย์นั้นที่เกียจคร้านและไม่มีความกระตือรือร้น
 “ไม่ ไม่ ข้าแก่เกินไปที่จะเที่่ยวเล่นเหมือนกับพวกคนหนุ่มสาว
 “เอาเบียร์มาให้ข้าอีก เอ้าดื่ม!”
ในช่วงกลางวันนั้น ในเมืองหลวงของอาณาจักรอารูเพ่นนั้นมีมนุษย์มากมายกำลังพักผ่อน
จักรพรรดิเกอาวอนอาเพ่น มองดูอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เกินไปของเขา!
การศึกษาเวทมนตร์และการฝึกดาบนั้นไม่มีผู้ใดสนใจเพราะว่าไลฟ์สไตล์ที่ง่ายๆ
ประติมากรรมประทานชีพได้ถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกทารุณกรรมเหมือนเป็นตัวตลก
เห็นดังนั้นจักรพรรดิเกอาวอนอาเพ่นก็ได้ตัดสินใจที่สิ่งที่ยากออกมา
 “ข้าขอเรียกขานประติมากรรมประทานชีพของข้า!”
เหล่าประติมากรรมประทานชีพที่อยู่ในอาณาจักรอารูเพ่นกำลังรอคำสั่งของเขา
 “พวกเจ้าไม่ต้องรับใช้มนุษย์อีกต่อไป พวกเจ้าไม่ต้องฟังคำสั่งและบัดนี้ พวกเจ้าสามารถแสวงหาอิสรภาพที่พวกเจ้ารอคอย!”
เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว!
เมื่อสิ้นแล้วซึ่งจักรพรรดิเกอา เหล่าประติมากรรมประทานชีพก็ไม่ฟังคำสั่งของใครอีกต่อไป
เหล่านกไปสร้างอาณาจักรของตัวเอง เป็นตระกูลจอยจ็อค
เมืองลอยฟ้าลาเวียสร์นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากประติมากรรมประทานชีพ!
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น สัตว์ประหลาดแปลกๆที่มีรูปร่างแตกต่างกันเช่นโทรลและอ็อคนั้นอาศัยอยู่ในป่าลึก
เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นสร้างวงศ์ตระกูลขึ้นมา
พวกเขาหลบไปอาศัยอยู่ตามถ้ำและป่าลึกเพื่อหลบหลีกจากมนุษย์
 “เจ้ามาจากที่แห่งใด?”
 “จักรพรรดิเกอาสร้างข้าขึ้นมาเมื่อตอนที่เขาอายุ 35 ปี
งั้นอย่าทำตัวหยาบคายกับข้า ข้านั้นถูกสร้างมาตอนเขาอายุได้ 25 ปี
 “ข้าต้องขอโทษท่านด้วยที่ข้าหยาบคายกับท่านนะรุ่นพี่
ช่างเป็นระบบรุ่นพี่รุ่นน้องที่เข้มงวดมากๆ!
เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นสร้างโลกของตัวเองและคานความสมดุลของทวีปเวอร์เซลล์
จักรพรรดิเกอาได้สร้างรูปปั้นสัตว์ประหลาดที่เป็นประติมากรรมประทานชีพจำนวนมากที่เป็นที่รู้จักดี
พวกมันไม่ได้รู้สึกผูกพันกับมนุษย์มากนักเพราะว่่าพวกมันไม่ได้ยอมให้กับมนุษย์
พวกมันเริ่มที่จะมีความขัดแย้งและเข่นฆ่ามนุษย์และบ่อยครั้งที่ชนะการต่อสู้
มนุษย์เริ่มที่จะตำหนิเหล่าสัตว์ประหลาดที่จักรพรรดิเกอาสร้างขึ้นมา
จักรวรรดิอารูเพ่นนั้นล่มสลายและไม่สามารถรวมเป็นปึกแผ่นได้เพราะว่าเหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นจากไปแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหนังสือประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้กล่าวถึงเหล่าประติมากรรมประทานชีพของจักรพรรดิเกอาอีกเลย ต้นกำเนิดของพวกมันก็ถูกลืมเลือนไป
อย่างไรก็ตาม ณ ที่ลึกลับทางตะวันออกนั้นก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ห่างไกลจากพวกมนุษย์

วีดจ้องมองวิดีโอและสั่นสะท้านเล็กน้อย
 “เหล่าประติมากรรมประทานชีพนั้นเป็นต้นกำเนิดของพวกมอนสเตอร์...”
มันมีการจำกัดจำนวนของมอนสเตอร์แต่ว่ามันก็เป็นความจริงที่ว่าถ้ารู้ว่าเป็นประติมากรรมประทานชีพแล้วนั้นจะสามารถออกคำสั่งได้!
มันเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับประติมากรรม
มันเป็นจุดสำคัญระหว่างการแกะสลัก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะยุติการสร้างผลงานชั้นเยี่ยมได้
วีดยิ้มอย่างชั่วร้าย
 “บางทีมันก็ไม่สำคัญที่จะต้องรู้ก็ได้
บางทีความจริงมันก็ไม่ได้ดีเสมอไป บางทีเราก็ต้องซ่อนความจริงบางอย่างไว้ในประวัติศาสตร์
จักรพรรดิเกอา วอน อาเพน นั้นสร้างรูปปั้นไว้มากมายนับไม่ถ้วนและพวกมันบางส่วนก็เป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว
 “มันไม่ใช่อะไรที่ควรเห็นเลยสินะ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ไว้ละกัน
วีดหัวเราะหนักมาก
 “ข้าสบายดี กินนี่สิมันดีนะ
เขากำลังกินสมุนไพร!
มันไม่ได้เป็นที่สังเกตยกเว้นกับประติมากร เมื่อเขารู้ดังนั้น เขาก็ปิดปากเงียบ


อื้ม มอออออออออออออ
ทันใดนั้น เจ้าเหลืองก็ร้องไห้และเดินเข้ามาในห้อง
เจ้าวัวทำทุกอย่างเพื่อให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
 รากของสมุนไพรจะช่วยให้แข็งแรงและมีกำลังวังชา
เจ้าเหลืองเป็นคนที่มีความกตัญญูเมื่อเขาลูบหัวมัน
มันอ่อนแอต่อการให้สินบนและรางวัลต่างๆที่เจ้านายเสนอให้
วีดมีความคิดอย่างลับๆว่ามันคงต้องมีผลกระทบอย่างมากต่อทวีปเวอร์เซลล์
 “เกี่ยวกับเควสประติมากรรมนี้ มันก็ดีที่เราได้ทราบข้อมูลพื้นฐานเยอะๆ
เควสประติมากรรมอย่างง่ายให้ค่าความชำนาญและค่าตอบแทนที่น้อย
แต่ที่เขาทำอยู่นี่มันเป็นการผจญภัยที่ยากและยิ่งใหญ่มากๆสำหรับประติมากรตั้งแต่ที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แห่งประติมากรรมของทวีปเวอร์เซลล์
มันเป็นไปได้ที่จะค้นพบทักษะประติกรรมที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน
ประติมากรรมนั้นมีส่่วนร่วมอย่างยิ่งใหญ่ต่อประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ

ในสมัยโบราณกาล นักล่ามักจะใช้ประติมากรรมในการเพิ่มความกล้าหาญและความเชื่อต่างๆ
ประติมากรรมนั้นมี 3 มิติที่เเสดงให้เห็นถึงรูปทรงของมัน
ศิลปะนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถูกผูกมัดโดยอาศัยการดำรงชีวิต ขอบเขตที่น่าสนใจของมันอยู่ภายใต้ทวีปเวอร์เซลล์

ผู้แปล: Maruipengin

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...